“เกิดมาเพื่อฆ่าคนโสดชัดๆ” หลายคนคงคิดในทำนองเดียวกันอย่างที่ว่านี้ แต่เชื่อว่าไม่เพียงเฉพาะคนมีคู่ที่จะแอบขำกับมุกชวนหัวในผลงานของเขา เพราะคนโสดหลายคนก็คงจะชื่นชอบไม่น้อยไปกว่ากัน
ตลอดระยะเวลาเจ็ดเดือนที่เปิดตัวขึ้นมา ณ ตอนนี้ มีผู้ติดตามมากกว่าหนึ่งล้านไลค์ อีกทั้งยังดังเป็นพลุแตกถึงขั้นตีพิมพ์เป็นหนังสือ ซึ่งแว่วมาว่าภายในระยะเวลาเดือนสองเดือน ตีพิมพ์เป็นครั้งที่ 4 เข้าไปแล้ว สำหรับ “คนอะไรเป็นแฟนหมี” หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวซึ่งเกิดขึ้นจากประสบการณ์จริงของคนหนุ่มที่ขนานนามว่า ตนเองนั้นเป็นแฟนหมี “บอม-กษิดิศ ประสิทธิ์”
ด้วยเทคนิควาดรูปที่มีลายเส้นสบายตา ผสมผสานกับมุกตลกที่โดนใจ ผ่านเรื่องราวของคู่รักธรรมดาๆ คู่หนึ่งซึ่งใช้ชีวิตประจำวันกันตามปกติ เฉกเช่นเดียวกับคู่รักอื่นทั่วๆ ไป จนกระทั่งได้รับความนิยม เพราะมุกแต่ละมุกนั้นดันไปสะกิดต่อมความใช่!!! ของหนุ่มสาวหลายคน
นี่คือ...คำบอกเล่าถึงที่มากว่าจะเป็น “คนอะไรเป็นแฟนหมี” และที่มากกว่านั้นนั่นก็คือมุมมองความรักจากปากของชายผู้ถ่ายทอดเรื่องราวความรัก
• อะไรเป็นจุดเริ่มต้นให้มาสร้างเพจแซวแฟนในนามว่า “คนอะไรเป็นแฟนหมี” ขึ้นมา
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเริ่มมาจากแฟนผมครับ ส่วนตัวผมเป็นคนชอบวาดรูปด้วย ตอนจีบเขา ผมก็วาดรูปไปจีบ พอได้มาคบกันจริงจังก็เหมือนมีเรื่องให้ต้องงอนกัน ผมก็เลยคิดว่าจะวาดรูปไปง้อเขา วาดเป็นรูปการ์ตูนสามช่องแบบตอนนี้เลยครับ พอเขาได้อ่าน เขาก็ชอบ ก็ยิ้ม ตอนนั้นผมโพสต์ลงเฟซบุ๊กด้วย ซึ่งมีคนเข้ามากดไลค์กันเยอะ เลยมีความคิดว่าเอามาสร้างเป็นเพจดีกว่า
ส่วนตัวผมเคยทำการ์ตูนแก๊กมาแล้วเหมือนกัน เลยคิดอยากมาทำของตัวเองดูบ้าง ซึ่งผู้ชายก็เรียกแฟนตัวเองเป็นชื่อต่างกันออกไป ผมก็ใช้หมีเป็นตัวแทนที่จะสื่อออกไป เอาจริงๆ เลย ที่ผมทำเพจก็แค่อยากให้รู้ว่ามีคนเหมือนเรา เหมือนเป็นการแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคล้ายกันกับคู่ผมเกือบทุกเรื่องเลย ตอนนี้ก็ภูมิใจเหมือนกันที่มีคนมาติดตามเราเยอะ (ยิ้ม)
• อย่างที่บอกว่ามีคนติดตามเยอะ มีเทคนิคหรือหลักการอะไรบ้างที่ทำให้คนชื่นชอบได้มากขนาดนี้
จริงๆ ผมไม่ได้เรียนวาดรูปมาก่อน เน้นวาดเอง วาดในสมุดตอนเรียน อย่างถ้าจดเลกเชอร์ไม่ทัน ก็จะชอบวาดเล่นจนชิน มันเลยง่าย ไม่ยากมาก ตัวละครที่ผมวาด ผมว่าเป็นเพราะคนติดตามากกว่า เขาเลยจำเราได้ เห็นแล้วก็รู้เลยว่าเอ้า นี่หมีนี่ คือการวาด การตั้งชื่อไม่ได้คิดอะไรมากเลยครับ ผมมองว่าถ้าเราดังขึ้นมาปุ๊บ คนเขาก็จะรู้จักเราเอง อย่างปีที่แล้ว ให้ผมไปพูดว่าคนอะไรเป็นแฟนหมี คนจะเข้าใจไหม คนก็ไม่เข้าใจ แต่พอดังปุ๊บ คนก็รู้จักเราเอง
ตอนนี้ก็มีแฟนเพจราวๆ หนึ่งล้านหกหมื่นกว่าคน ผมทำเพจมาได้ประมาณ 7 เดือน แรกๆ ที่ทำผมคิดแล้วว่าน่าจะมีคนที่เห็นด้วยกับผม ส่วนตัวผมแค่อยากรู้ว่ามีคนเป็นเหมือนเราไหม ความรู้สึกคืออยากรู้ว่ามีพวกไหม (หัวเราะ) ทุกวันนี้เลยต้องมีอย่างต่ำวันละ 1-2 มุก ซึ่งผมไม่กลัวหมดมุกนะ เพราะว่ามันมีมาเรื่อยๆ มีมาให้เขียนเรื่อยๆ (ยิ้ม)
• แล้วทำไมถึงเลือกใช้หมีมาเป็นตัวดำเนินเรื่องกัน
เพื่อนแฟนผมเขาชอบว่าแฟนผมเป็นหมี เพราะตอนปี 1ตัวเขาจะอ้วนๆ ป้อมๆ เหมือนหมี ผมเลยเรียกตามเพื่อนเขา เหมือนเป็นฉายาของเขาครับ ก่อนจะเป็นหมี เป็นอย่างอื่นมาก่อนนะครับ มีแมวน้ำ มีเต่านะที่เพื่อนเขาชอบเรียก แต่ที่มาจบที่หมี เพราะว่าทวิตเตอร์เขาตั้งชื่อว่าคนอะไรเป็นหมี ผมเลยได้ที่มาจากตรงนั้น ถามว่าเขาโอเคไหมที่ผมเรียกว่าหมี เขาก็โอเคนะครับ ไม่ได้ว่าอะไร เขาบอกว่าก็น่ารักดี (หัวเราะ)
• แบบนี้นิยามของคำว่า “หมี” สำหรับคุณแล้วเป็นยังไงกันแน่ มันดีหรือไม่ดี
หมีมันน่ารักนะ แต่มันก็มีความดุร้ายอยู่ในตัว ผู้หญิงทุกคนเป็นหมีได้นะ ผมว่าผู้หญิงเขาอารมณ์แปรปรวนมาก เข้าใจยาก บางทีอารมณ์ดีๆ สักพักมาบอกเลิก งงไหม (หัวเราะ) เนี่ยมันเป็นซะแบบนี้ เราเลยต้องตามเขาให้ทันว่าเขาคิดอะไรอยู่
อย่างแฟนผม ผมมองว่าเขาเป็นหมีโคล่า หรือไม่ก็หมีแพนด้า (หัวเราะ) เพราะเป็นหมีที่ไม่ค่อยดุมาก ทำอะไรช้าๆ เนิบๆ เหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ เขาเป็นผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งเหมือนผู้หญิงทั่วไปเลยที่ถึงเวลาเป็นประจำเดือนก็งี่เง่า อยากได้นู่น อยากได้นี่ บ่นนู่นบ่นนี่ (หัวเราะ)
• คนอะไรเป็นแฟนหมีมีนัยอะไรในการสื่อความหมายไหม เหมือนจะสื่อให้เห็นว่าต่างกัน แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันได้หรือเปล่า
ใช่ครับ ผมว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของความไม่เข้าใจมากกว่า ก็เหมือนคนกับหมีแหละที่ไม่เข้าใจกัน มันบอกไม่ถูก ผมว่าเราไม่ต้องไปทำความเข้าใจอะไรกันมากมาย ผมว่าผู้หญิงเข้าใจไม่ยากนะ ส่วนตัวผมจะมองว่าเราต้องการอะไร ผมจะมองตัวเองเป็นบรรทัดฐาน เราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เรามีความต้องการคล้ายๆ กัน แค่ผู้หญิงพูดอย่างหนึ่ง ผู้ชายก็จะพูดอีกอย่างหนึ่ง
• แล้วหมีตัวจริงเขาไม่โกรธเราเหรอว่าทำไมเธอเขียนฉันออกมาให้ดูงี่เง่าจัง
ก็มีบ้าง แต่ไม่มากนะครับ เพราะส่วนใหญ่มันก็เป็นเรื่องจริง เขาก็จะบอกว่าตัวเองใจร้าย (หัวเราะ) แต่เขาก็ยิ้มนะเวลาที่ได้ดู ได้เห็นว่ามีคนติดตามเยอะขนาดนี้ แต่ก็ยังปฏิเสธว่าไม่ใช่ตัวเขาอยู่ดี
ผมไม่ได้ปรึกษาเขาก่อนเลยว่าจะทำเพจคนอะไรเป็นแฟนหมี พอเขารู้เขาก็เฉยๆ นะครับ เพราะส่วนตัวเขาโลกส่วนตัวสูง มีหลายคนมองว่าผมเสนอแต่ด้านงี่เง่าของหมี แต่จริงๆ เรื่องน่ารักๆ ที่ผมเสนอให้เห็นมุมมองด้านดีๆ ของผู้หญิงก็มีนะครับ
ส่วนใหญ่เรื่องราวที่เอามานำเสนออยู่ทุกวันนี้จะเกิดจากแฟนโดยตรงเลยนะครับ ผมจะสังเกตพฤติกรรมของเขาแล้วก็จะคิดแทนเขาด้วย เหมือนบางเรื่อง อย่างเขาพูดว่าอยากให้เราไป แต่จริงๆ แล้วเขาอยากให้เราอยู่ ส่วนใหญ่ที่ทำออกมาจะสื่อออกตามความคิดผมเลยครับ ผมจะดูการกระทำเขาแล้วก็คิดว่าถ้าเราทำแบบนี้ เขาจะรู้สึกยังไง แต่ก็มีบ้างบางส่วนที่แฟนเพจเขาส่งมาให้บ้างครับ และบางเรื่องที่แฟนเพจส่งมาก็เหมือนกับเรื่องที่ผมเคยเจอก็มี อย่างเรื่องไปกินข้าวจะเจอกันบ่อย ถามว่าจะกินอะไร ก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอะไรแบบนี้ (หัวเราะ)
• ดูแล้วคาแรกเตอร์ของคนอะไรเป็นแฟนหมีค่อนข้างที่จะเป็นฝ่ายยอม เรื่องจริงก็เป็นแบบนั้นด้วยหรือเปล่า
ใช่ครับ ผมไม่ค่อยโกรธเขาเท่าไหร่ ผมจะไม่มองว่าเขางี่เง่าเลย เพราะเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ตอนจีบเป็นยังไง ตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นเลย เขายังเหมือนเดิม ส่วนใหญ่เรื่องที่เราทะเลาะกันน่าจะเป็นเรื่องเขาขี้หึง แต่ผมคิดว่ามันก็เป็นเพราะความรักเลยทำให้เขาหึง ผมเลยไม่ค่อยซีเรียสอะไร เลยหยิบจับมาทำ ผมเขียนเรื่องราวธรรมดาๆ แบบนี้จนคนอ่านเขาอ่านแล้วตรง อ่านแล้วดูว่าเป็นเหมือนเรื่องของตัวเอง ทำให้เขาชอบในส่วนนี้มากกว่าครับ
ผมจะเป็นประมาณว่าเข้าใจเขามากกว่า มันไม่ใช่ว่าอะไรๆ ก็ยอมนะครับ ถ้ามีเหตุผลหรือเขาไม่มีเหตุผลผมก็จะอธิบายบ้าง ผมมองว่าเรื่องแบบนี้มันเข้าใจง่ายนะครับ ผมจะเอาความคิดผมเป็นหลักมากกว่าว่าถ้าเขาทำแบบนี้กับเรา เราจะรู้สึกยังไง สมมติถ้าเขามาขอเราไปกินเหล้ากับเพื่อนบ้าง เราก็คงรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน ผมเลยเลือกที่จะไม่ทำก็ได้ หรือถ้าจะทำก็จะขอก่อน อย่างไปเที่ยวกับเพื่อน ส่วนใหญ่เขาก็ให้ไปนะครับ แต่ต้องกลับตามเวลา (หัวเราะ) เที่ยงคืนก็เที่ยงคืนอะไรแบบนี้
• จากตอนแรกที่อยากวาดรูปแซวแฟน แต่ตอนนี้เห็นว่าสามารถนำมาต่อยอดเป็นธุรกิจได้ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องความรักของคนสองคน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิด มีเพจ มีคนติดตาม มีหนังสือ มีนู่นมีนี่ มันเกิดจากความรัก ความคิด ความเอาใจใส่หลายๆ อย่างรวมกัน ตอนนี้มีหนังสือ สติกเกอร์ไลน์ และทำเสื้อขาย หลังๆ มีโฆษณาเข้ามาเยอะเหมือนกันนะครับ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้รับ เพราะบางอันไม่ได้ตรงกับคอนเซ็ปต์เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ผมอยากจะรับโฆษณาสิ่งที่เรากินที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็มีบางโฆษณาที่ต้องรับทั้งๆ ที่ไม่ตรงกับคอนเซ็ปต์ก็มี แต่มันไม่เชิงเป็นธุรกิจเท่าไหร่ อีกอย่างตอนนี้ผมก็ยังเรียนอยู่ด้วย ก็อยากจะเรียนก่อนดีกว่า
ผมมองว่าสิ่งที่ผมทำมันเป็นเรื่องทั่วไป เรื่องธรรมดาแต่เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครก็ต้องเจอ เขาเลยอ่านแล้วมีความรู้สึกร่วมกัน มันเลยทำให้คนสนใจมากกว่า พูดง่ายๆ ว่าการ์ตูนสามช่องจริงๆ มันมีมาตั้งนานแล้ว ผมเป็นคนที่ชอบเสพ ชอบอ่าน เพราะมันเข้าใจง่ายในสามช่อง ก็เลยคิดว่า เอาวะ ทำอันนี้แหละ เพราะคนเขาอ่านง่าย ผมยอมรับว่าสมัยนี้คนเขาไม่อยากอ่านอะไรเยอะ เลยอยากทำอะไรที่ทำให้เขาเสพง่ายๆ เขาก็เลยชอบ
ส่วนใหญ่เขาจะชอบหมีกัน จริงๆ แล้วผมเป็นคนทำนะ แต่คนจะชอบหมีมากกว่า (หัวเราะ) เพราะหมีมันน่ารัก คาแรกเตอร์ การกระทำของตัวละครจะเหมือนกับผู้หญิงส่วนใหญ่ เพจผมจะมีผู้หญิงชอบมากกว่านะครับ ผู้ชายไม่ค่อยมี (ยิ้ม) ก็ดีใจที่ทุกวันนี้มีคนรู้จัก แต่เวลาที่ใครเจอผมก็จะไม่ค่อยเข้ามาทักเท่าไหร่ จะมีแต่ซุบซิบให้ผมได้ยินบ้าง ให้แฟนได้ยินบ้าง (ยิ้ม)
ผมดีใจที่เขาชื่นชอบกัน อย่างตอนเปิดตัวหนังสือผมไปแจกลายเซ็นคนก็จะมารอต่อแถวกันเยอะพอสมควร หรือบางทีหนังสือหมดของไม่พอก็จะมีคนเข้ามาถามว่าเมื่อไหร่หนังสือจะมา มาติดตาม มาถามตลอด คนให้การต้อนรับดีนะครับ และมันดีตรงที่มันทำให้ผมมีรายได้พอที่จะเอามาจ่ายค่าเทอมเองโดยไม่ต้องขอจากทางบ้าน ไม่ได้ขอพ่อกับแม่แล้ว หลักๆ ก็ได้ราวๆ ห้าหมื่นบาทต่อเดือน บางเดือนก็มากกว่านั้นนิดหน่อย (ยิ้ม)
• จากนี้ไป วางเป้าหมายไว้อย่างไรบ้าง
อนาคตอยากทำเพจไปด้วย แล้วก็อยากจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง เพราะผมเรียนสายคหกรรม ผมคิดว่าจะทำเพจไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีคนดูผม ผมเชื่อว่าผมไม่หมดมุกแน่ๆ เพราะตอนนี้ยังมีข้อความในเพจอีก 2,000 กว่าข้อความที่แฟนเพจส่งเข้ามา ถ้าหมดมุกจริงๆ ผมจะเปิดข้อความพวกนั้นอ่านแล้วเอามาเขียน (ยิ้ม)
• ท้ายนี้ในฐานะที่เป็นวัยรุ่นแถมยังสร้างเพจนำเสนอเรื่องราวของความรัก คิดยังไงกับความรักของวัยรุ่นบ้าง
ผมว่าสมัยนี้เขารักกันง่าย เลิกกันง่ายเพราะมันเจอกันง่ายขึ้น บางทีความรู้สึกมันหมดลงไปง่ายด้วย แต่เรื่องแบบนี้อยู่ที่การดูแลเอาใจใส่กันมากกว่า ส่วนตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่กับเขานานขนาดไหน แต่ผมบอกรักเขาไปแล้ว ผมก็ต้องดูแลกันให้ดี จำวันแรกที่ผมบอกรักเขา ผมก็จะนึกแล้วทำให้เหมือนวันแรก ตอนที่ไปจีบเขา ผมเป็นเทวดา ผมก็ต้องเป็นเทวดาตลอด จะให้เป็นคนธรรมดาไม่ได้
จริงๆ ในฐานะที่ผมยังเป็นวัยรุ่น ผมมองว่าความรักมันอยู่ที่ตัวเรา มันอยู่ที่คนสองคนล้วนๆ คนจะรักกันมันไม่มีอะไรขัดขวางได้หรอก มันเป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตมีสีสันดีนะ เหมือนเด็กมีแฟนในโรงเรียนแหละครับ พอมีแฟนก็อยากไปเรียน อยากเจอหน้าแฟน มันเป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำอะไรดีๆ เหมือนกันนะครับ
อีกอย่างผมมองว่ารักของวัยรุ่นควรจะอยู่ในกรอบ อยู่ในความพอดี ไม่มากไปน้อยไป ควรจะรู้จักคิดด้วยว่าทำแบบนี้แล้ววันหนึ่งเกิดเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาจะเป็นยังไง เราต้องมองอนาคต ไม่ใช่ว่ามองแค่อนาคตเรา แต่เราต้องมองอนาคตของทั้งคู่ว่า ถ้าเกิดวันหนึ่งเลิกกันขึ้นมาจะทำยังไง หรือถ้ามีอะไรกันแล้ว เขาเกิดท้องขึ้นมาล่ะ เราจะรับผิดชอบได้ไหม เพราะเราก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่เหมือนกัน ผมว่าเราควรมองความรักในระยะยาวด้วยครับ
4 เคล็ดลับบริหารความรักแบบฉบับคนอะไรเป็นแฟนหมี
อย่าเดินหนีเวลาทะเลาะกัน
“เวลาทะเลาะกัน สิ่งที่ไม่ควรทำคือการเดินหนี เดินหนีปุ๊บ จบเลย เดินหนีกัน เราก็ไม่รู้เขาคิดยังไงต่อ เพราะฉะนั้น ต้องเคลียร์ให้จบ เราไม่รู้ได้เลยว่าเขาจะไปทำอะไรต่อ เขาอาจจะหนีเราไปไหนต่อไหน ไปมีอันตรายอะไรหรือเปล่า ยิ่งจะทำให้เป็นห่วงกันมากไปอีก เพราะฉะนั้น อย่าเดินหนีกันเลย เคลียร์ให้จบตรงนั้น จะได้สบายใจทั้งคู่”
ทิ้งทิฐิ ทิ้งศักดิ์ศรี
“ผมว่าก่อนจะมีความรัก เราต้องทิ้งทิฐิ ทิ้งศักดิ์ศรีออกให้หมด เพราะคนอื่นไม่ได้มารู้กับเรา อย่างเวลาเราร้องไห้ เขาก็คงไม่เล่าให้ใครฟังหรอกมั้งว่าเราร้องไห้ ความรักของคนสองคนมันไม่มีอะไรทำให้เสียศักดิ์ศรี ผมมองว่าความรักไม่ต้องมีศักดิ์ศรีให้มันเยอะ มันไม่มีประโยชน์ทั้งกับเราและแฟน มีศักดิ์ศรีแล้วยังไงต่อ ถ้าเราต้องทะเลาะกัน เกี่ยงกัน แย่งกัน เรามีความสุขไหม ก็ไม่มี เพราะฉะนั้นต้องมีศักดิ์ศรีไปทำไม อย่างเรื่องง่ายๆ เขาให้เราไปล้างจาน เราจะมัวถามเขาว่าแล้วทำไมเธอไม่ล้างล่ะ ถามไปเขาจะไปล้างให้เหรอ ผมว่าก็ไม่นะ เขาจะด่าเราด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นก็ไปล้าง จบ จานสองสามใบก็คงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง (หัวเราะ)
ยอมไปก็ไม่ได้เสียหายอะไร มันไม่มีอะไรเสียเลยนะ เพราะเราคบกันอยู่สองคน เรายอมเขา ก็มีเขารู้แค่คนเดียว (หัวเราะ) ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยนะครับ มันเป็นเรื่องที่ผู้ชายดีๆ สมควรทำ มันเป็นเรื่องธรรมดา ผู้ชายบางคนกลัวเสียศักดิ์ศรี ผมยอมรับ แต่ผมว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่เรามโนขึ้นมาเองมากกว่า”
ผู้ชายไม่ใช่ช้างเท้าหน้าเสมอไป
“คนชอบมองว่าผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า เป็นช้างเท้าหน้าแล้วยังไง อยู่ด้วยกัน เดินข้างๆ กันไม่ได้เหรอ ทำไมต้องเดินนำหน้ากันด้วย ช้างเท้าหน้าออกไปหางาน ออกไปทำงาน แฟนเราก็ทำงานเหมือนกัน สมมติว่าถ้าได้แต่งงานกัน เราออกไปหาเงิน แฟนทำอะไรอยู่บ้านเฉยๆ มันก็ไม่ใช่ เขาก็ต้องเลี้ยงลูก ทำงานบ้านดูแลบ้านเหมือนกัน มันเป็นเรื่องที่เราต้องทำอยู่แล้ว ผู้ชายมันก็ไม่ได้จะยิ่งใหญ่ไปกว่าผู้หญิงเลยนะ”
รักเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ต้องไปหาคำตอบ
“ผมไม่คิดว่าจะเปลี่ยนอะไรในตัวกัน หรือถ้าจะเปลี่ยนไม่ต้องเปลี่ยนทั้งคู่ก็ได้ อย่างผมเปลี่ยนคนเดียวผมสบายใจแล้ว เขามาขาดๆ เราก็เติมให้เขาจนเต็มทั้งคู่ ผมจะไม่คิดมากเรื่องความรักเลย สำหรับผมความรักเป็นเรื่องง่ายๆ
เราไม่ต้องหาคำตอบในความรัก เราก็ทำไปแบบนี้ของเราก็พอ ยิ่งเรามีคำถามมาก เราก็ยิ่งมีปัญหามาก ถ้าเราไปหาคำตอบ เรายิ่งไม่เข้าใจ มันยิ่งไม่จบ เพราะเรามัวแต่หาคำถาม เพราะฉะนั้นไม่ต้องหา ทำแม่งเลย”
ผลงานส่วนหนึ่งจาก “คนอะไรเป็นแฟนหมี”
Profile
ชื่อ : กษิดิศ ประสิทธิ์
ชื่อเล่น : บอม
อายุ : 22 ปี
การศึกษา : ชั้นปีที่ 4 คณะคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
ผลงาน : หนังสือคนอะไรเป็นแฟนหมี (สำนักพิมพ์ HER Publishing), แอดมินเพจคนอะไรเป็นแฟนหมีและเพจนี่เพื่อนไงจำไม่ได้เหรอ?
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : ปัญญพัฒน์ เข็มราช และ facebook pages: คนอะไรเป็นแฟนหมี
ตลอดระยะเวลาเจ็ดเดือนที่เปิดตัวขึ้นมา ณ ตอนนี้ มีผู้ติดตามมากกว่าหนึ่งล้านไลค์ อีกทั้งยังดังเป็นพลุแตกถึงขั้นตีพิมพ์เป็นหนังสือ ซึ่งแว่วมาว่าภายในระยะเวลาเดือนสองเดือน ตีพิมพ์เป็นครั้งที่ 4 เข้าไปแล้ว สำหรับ “คนอะไรเป็นแฟนหมี” หนังสือที่บอกเล่าเรื่องราวซึ่งเกิดขึ้นจากประสบการณ์จริงของคนหนุ่มที่ขนานนามว่า ตนเองนั้นเป็นแฟนหมี “บอม-กษิดิศ ประสิทธิ์”
ด้วยเทคนิควาดรูปที่มีลายเส้นสบายตา ผสมผสานกับมุกตลกที่โดนใจ ผ่านเรื่องราวของคู่รักธรรมดาๆ คู่หนึ่งซึ่งใช้ชีวิตประจำวันกันตามปกติ เฉกเช่นเดียวกับคู่รักอื่นทั่วๆ ไป จนกระทั่งได้รับความนิยม เพราะมุกแต่ละมุกนั้นดันไปสะกิดต่อมความใช่!!! ของหนุ่มสาวหลายคน
นี่คือ...คำบอกเล่าถึงที่มากว่าจะเป็น “คนอะไรเป็นแฟนหมี” และที่มากกว่านั้นนั่นก็คือมุมมองความรักจากปากของชายผู้ถ่ายทอดเรื่องราวความรัก
• อะไรเป็นจุดเริ่มต้นให้มาสร้างเพจแซวแฟนในนามว่า “คนอะไรเป็นแฟนหมี” ขึ้นมา
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าเริ่มมาจากแฟนผมครับ ส่วนตัวผมเป็นคนชอบวาดรูปด้วย ตอนจีบเขา ผมก็วาดรูปไปจีบ พอได้มาคบกันจริงจังก็เหมือนมีเรื่องให้ต้องงอนกัน ผมก็เลยคิดว่าจะวาดรูปไปง้อเขา วาดเป็นรูปการ์ตูนสามช่องแบบตอนนี้เลยครับ พอเขาได้อ่าน เขาก็ชอบ ก็ยิ้ม ตอนนั้นผมโพสต์ลงเฟซบุ๊กด้วย ซึ่งมีคนเข้ามากดไลค์กันเยอะ เลยมีความคิดว่าเอามาสร้างเป็นเพจดีกว่า
ส่วนตัวผมเคยทำการ์ตูนแก๊กมาแล้วเหมือนกัน เลยคิดอยากมาทำของตัวเองดูบ้าง ซึ่งผู้ชายก็เรียกแฟนตัวเองเป็นชื่อต่างกันออกไป ผมก็ใช้หมีเป็นตัวแทนที่จะสื่อออกไป เอาจริงๆ เลย ที่ผมทำเพจก็แค่อยากให้รู้ว่ามีคนเหมือนเรา เหมือนเป็นการแชร์ประสบการณ์ร่วมกัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคล้ายกันกับคู่ผมเกือบทุกเรื่องเลย ตอนนี้ก็ภูมิใจเหมือนกันที่มีคนมาติดตามเราเยอะ (ยิ้ม)
• อย่างที่บอกว่ามีคนติดตามเยอะ มีเทคนิคหรือหลักการอะไรบ้างที่ทำให้คนชื่นชอบได้มากขนาดนี้
จริงๆ ผมไม่ได้เรียนวาดรูปมาก่อน เน้นวาดเอง วาดในสมุดตอนเรียน อย่างถ้าจดเลกเชอร์ไม่ทัน ก็จะชอบวาดเล่นจนชิน มันเลยง่าย ไม่ยากมาก ตัวละครที่ผมวาด ผมว่าเป็นเพราะคนติดตามากกว่า เขาเลยจำเราได้ เห็นแล้วก็รู้เลยว่าเอ้า นี่หมีนี่ คือการวาด การตั้งชื่อไม่ได้คิดอะไรมากเลยครับ ผมมองว่าถ้าเราดังขึ้นมาปุ๊บ คนเขาก็จะรู้จักเราเอง อย่างปีที่แล้ว ให้ผมไปพูดว่าคนอะไรเป็นแฟนหมี คนจะเข้าใจไหม คนก็ไม่เข้าใจ แต่พอดังปุ๊บ คนก็รู้จักเราเอง
ตอนนี้ก็มีแฟนเพจราวๆ หนึ่งล้านหกหมื่นกว่าคน ผมทำเพจมาได้ประมาณ 7 เดือน แรกๆ ที่ทำผมคิดแล้วว่าน่าจะมีคนที่เห็นด้วยกับผม ส่วนตัวผมแค่อยากรู้ว่ามีคนเป็นเหมือนเราไหม ความรู้สึกคืออยากรู้ว่ามีพวกไหม (หัวเราะ) ทุกวันนี้เลยต้องมีอย่างต่ำวันละ 1-2 มุก ซึ่งผมไม่กลัวหมดมุกนะ เพราะว่ามันมีมาเรื่อยๆ มีมาให้เขียนเรื่อยๆ (ยิ้ม)
• แล้วทำไมถึงเลือกใช้หมีมาเป็นตัวดำเนินเรื่องกัน
เพื่อนแฟนผมเขาชอบว่าแฟนผมเป็นหมี เพราะตอนปี 1ตัวเขาจะอ้วนๆ ป้อมๆ เหมือนหมี ผมเลยเรียกตามเพื่อนเขา เหมือนเป็นฉายาของเขาครับ ก่อนจะเป็นหมี เป็นอย่างอื่นมาก่อนนะครับ มีแมวน้ำ มีเต่านะที่เพื่อนเขาชอบเรียก แต่ที่มาจบที่หมี เพราะว่าทวิตเตอร์เขาตั้งชื่อว่าคนอะไรเป็นหมี ผมเลยได้ที่มาจากตรงนั้น ถามว่าเขาโอเคไหมที่ผมเรียกว่าหมี เขาก็โอเคนะครับ ไม่ได้ว่าอะไร เขาบอกว่าก็น่ารักดี (หัวเราะ)
• แบบนี้นิยามของคำว่า “หมี” สำหรับคุณแล้วเป็นยังไงกันแน่ มันดีหรือไม่ดี
หมีมันน่ารักนะ แต่มันก็มีความดุร้ายอยู่ในตัว ผู้หญิงทุกคนเป็นหมีได้นะ ผมว่าผู้หญิงเขาอารมณ์แปรปรวนมาก เข้าใจยาก บางทีอารมณ์ดีๆ สักพักมาบอกเลิก งงไหม (หัวเราะ) เนี่ยมันเป็นซะแบบนี้ เราเลยต้องตามเขาให้ทันว่าเขาคิดอะไรอยู่
อย่างแฟนผม ผมมองว่าเขาเป็นหมีโคล่า หรือไม่ก็หมีแพนด้า (หัวเราะ) เพราะเป็นหมีที่ไม่ค่อยดุมาก ทำอะไรช้าๆ เนิบๆ เหมือนมีอะไรซ่อนอยู่ เขาเป็นผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งเหมือนผู้หญิงทั่วไปเลยที่ถึงเวลาเป็นประจำเดือนก็งี่เง่า อยากได้นู่น อยากได้นี่ บ่นนู่นบ่นนี่ (หัวเราะ)
• คนอะไรเป็นแฟนหมีมีนัยอะไรในการสื่อความหมายไหม เหมือนจะสื่อให้เห็นว่าต่างกัน แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันได้หรือเปล่า
ใช่ครับ ผมว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของความไม่เข้าใจมากกว่า ก็เหมือนคนกับหมีแหละที่ไม่เข้าใจกัน มันบอกไม่ถูก ผมว่าเราไม่ต้องไปทำความเข้าใจอะไรกันมากมาย ผมว่าผู้หญิงเข้าใจไม่ยากนะ ส่วนตัวผมจะมองว่าเราต้องการอะไร ผมจะมองตัวเองเป็นบรรทัดฐาน เราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง เรามีความต้องการคล้ายๆ กัน แค่ผู้หญิงพูดอย่างหนึ่ง ผู้ชายก็จะพูดอีกอย่างหนึ่ง
• แล้วหมีตัวจริงเขาไม่โกรธเราเหรอว่าทำไมเธอเขียนฉันออกมาให้ดูงี่เง่าจัง
ก็มีบ้าง แต่ไม่มากนะครับ เพราะส่วนใหญ่มันก็เป็นเรื่องจริง เขาก็จะบอกว่าตัวเองใจร้าย (หัวเราะ) แต่เขาก็ยิ้มนะเวลาที่ได้ดู ได้เห็นว่ามีคนติดตามเยอะขนาดนี้ แต่ก็ยังปฏิเสธว่าไม่ใช่ตัวเขาอยู่ดี
ผมไม่ได้ปรึกษาเขาก่อนเลยว่าจะทำเพจคนอะไรเป็นแฟนหมี พอเขารู้เขาก็เฉยๆ นะครับ เพราะส่วนตัวเขาโลกส่วนตัวสูง มีหลายคนมองว่าผมเสนอแต่ด้านงี่เง่าของหมี แต่จริงๆ เรื่องน่ารักๆ ที่ผมเสนอให้เห็นมุมมองด้านดีๆ ของผู้หญิงก็มีนะครับ
ส่วนใหญ่เรื่องราวที่เอามานำเสนออยู่ทุกวันนี้จะเกิดจากแฟนโดยตรงเลยนะครับ ผมจะสังเกตพฤติกรรมของเขาแล้วก็จะคิดแทนเขาด้วย เหมือนบางเรื่อง อย่างเขาพูดว่าอยากให้เราไป แต่จริงๆ แล้วเขาอยากให้เราอยู่ ส่วนใหญ่ที่ทำออกมาจะสื่อออกตามความคิดผมเลยครับ ผมจะดูการกระทำเขาแล้วก็คิดว่าถ้าเราทำแบบนี้ เขาจะรู้สึกยังไง แต่ก็มีบ้างบางส่วนที่แฟนเพจเขาส่งมาให้บ้างครับ และบางเรื่องที่แฟนเพจส่งมาก็เหมือนกับเรื่องที่ผมเคยเจอก็มี อย่างเรื่องไปกินข้าวจะเจอกันบ่อย ถามว่าจะกินอะไร ก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอะไรแบบนี้ (หัวเราะ)
• ดูแล้วคาแรกเตอร์ของคนอะไรเป็นแฟนหมีค่อนข้างที่จะเป็นฝ่ายยอม เรื่องจริงก็เป็นแบบนั้นด้วยหรือเปล่า
ใช่ครับ ผมไม่ค่อยโกรธเขาเท่าไหร่ ผมจะไม่มองว่าเขางี่เง่าเลย เพราะเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ตอนจีบเป็นยังไง ตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นเลย เขายังเหมือนเดิม ส่วนใหญ่เรื่องที่เราทะเลาะกันน่าจะเป็นเรื่องเขาขี้หึง แต่ผมคิดว่ามันก็เป็นเพราะความรักเลยทำให้เขาหึง ผมเลยไม่ค่อยซีเรียสอะไร เลยหยิบจับมาทำ ผมเขียนเรื่องราวธรรมดาๆ แบบนี้จนคนอ่านเขาอ่านแล้วตรง อ่านแล้วดูว่าเป็นเหมือนเรื่องของตัวเอง ทำให้เขาชอบในส่วนนี้มากกว่าครับ
ผมจะเป็นประมาณว่าเข้าใจเขามากกว่า มันไม่ใช่ว่าอะไรๆ ก็ยอมนะครับ ถ้ามีเหตุผลหรือเขาไม่มีเหตุผลผมก็จะอธิบายบ้าง ผมมองว่าเรื่องแบบนี้มันเข้าใจง่ายนะครับ ผมจะเอาความคิดผมเป็นหลักมากกว่าว่าถ้าเขาทำแบบนี้กับเรา เราจะรู้สึกยังไง สมมติถ้าเขามาขอเราไปกินเหล้ากับเพื่อนบ้าง เราก็คงรู้สึกไม่ดีเหมือนกัน ผมเลยเลือกที่จะไม่ทำก็ได้ หรือถ้าจะทำก็จะขอก่อน อย่างไปเที่ยวกับเพื่อน ส่วนใหญ่เขาก็ให้ไปนะครับ แต่ต้องกลับตามเวลา (หัวเราะ) เที่ยงคืนก็เที่ยงคืนอะไรแบบนี้
• จากตอนแรกที่อยากวาดรูปแซวแฟน แต่ตอนนี้เห็นว่าสามารถนำมาต่อยอดเป็นธุรกิจได้ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องความรักของคนสองคน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิด มีเพจ มีคนติดตาม มีหนังสือ มีนู่นมีนี่ มันเกิดจากความรัก ความคิด ความเอาใจใส่หลายๆ อย่างรวมกัน ตอนนี้มีหนังสือ สติกเกอร์ไลน์ และทำเสื้อขาย หลังๆ มีโฆษณาเข้ามาเยอะเหมือนกันนะครับ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้รับ เพราะบางอันไม่ได้ตรงกับคอนเซ็ปต์เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ผมอยากจะรับโฆษณาสิ่งที่เรากินที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็มีบางโฆษณาที่ต้องรับทั้งๆ ที่ไม่ตรงกับคอนเซ็ปต์ก็มี แต่มันไม่เชิงเป็นธุรกิจเท่าไหร่ อีกอย่างตอนนี้ผมก็ยังเรียนอยู่ด้วย ก็อยากจะเรียนก่อนดีกว่า
ผมมองว่าสิ่งที่ผมทำมันเป็นเรื่องทั่วไป เรื่องธรรมดาแต่เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครก็ต้องเจอ เขาเลยอ่านแล้วมีความรู้สึกร่วมกัน มันเลยทำให้คนสนใจมากกว่า พูดง่ายๆ ว่าการ์ตูนสามช่องจริงๆ มันมีมาตั้งนานแล้ว ผมเป็นคนที่ชอบเสพ ชอบอ่าน เพราะมันเข้าใจง่ายในสามช่อง ก็เลยคิดว่า เอาวะ ทำอันนี้แหละ เพราะคนเขาอ่านง่าย ผมยอมรับว่าสมัยนี้คนเขาไม่อยากอ่านอะไรเยอะ เลยอยากทำอะไรที่ทำให้เขาเสพง่ายๆ เขาก็เลยชอบ
ส่วนใหญ่เขาจะชอบหมีกัน จริงๆ แล้วผมเป็นคนทำนะ แต่คนจะชอบหมีมากกว่า (หัวเราะ) เพราะหมีมันน่ารัก คาแรกเตอร์ การกระทำของตัวละครจะเหมือนกับผู้หญิงส่วนใหญ่ เพจผมจะมีผู้หญิงชอบมากกว่านะครับ ผู้ชายไม่ค่อยมี (ยิ้ม) ก็ดีใจที่ทุกวันนี้มีคนรู้จัก แต่เวลาที่ใครเจอผมก็จะไม่ค่อยเข้ามาทักเท่าไหร่ จะมีแต่ซุบซิบให้ผมได้ยินบ้าง ให้แฟนได้ยินบ้าง (ยิ้ม)
ผมดีใจที่เขาชื่นชอบกัน อย่างตอนเปิดตัวหนังสือผมไปแจกลายเซ็นคนก็จะมารอต่อแถวกันเยอะพอสมควร หรือบางทีหนังสือหมดของไม่พอก็จะมีคนเข้ามาถามว่าเมื่อไหร่หนังสือจะมา มาติดตาม มาถามตลอด คนให้การต้อนรับดีนะครับ และมันดีตรงที่มันทำให้ผมมีรายได้พอที่จะเอามาจ่ายค่าเทอมเองโดยไม่ต้องขอจากทางบ้าน ไม่ได้ขอพ่อกับแม่แล้ว หลักๆ ก็ได้ราวๆ ห้าหมื่นบาทต่อเดือน บางเดือนก็มากกว่านั้นนิดหน่อย (ยิ้ม)
• จากนี้ไป วางเป้าหมายไว้อย่างไรบ้าง
อนาคตอยากทำเพจไปด้วย แล้วก็อยากจะเปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง เพราะผมเรียนสายคหกรรม ผมคิดว่าจะทำเพจไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไม่มีคนดูผม ผมเชื่อว่าผมไม่หมดมุกแน่ๆ เพราะตอนนี้ยังมีข้อความในเพจอีก 2,000 กว่าข้อความที่แฟนเพจส่งเข้ามา ถ้าหมดมุกจริงๆ ผมจะเปิดข้อความพวกนั้นอ่านแล้วเอามาเขียน (ยิ้ม)
• ท้ายนี้ในฐานะที่เป็นวัยรุ่นแถมยังสร้างเพจนำเสนอเรื่องราวของความรัก คิดยังไงกับความรักของวัยรุ่นบ้าง
ผมว่าสมัยนี้เขารักกันง่าย เลิกกันง่ายเพราะมันเจอกันง่ายขึ้น บางทีความรู้สึกมันหมดลงไปง่ายด้วย แต่เรื่องแบบนี้อยู่ที่การดูแลเอาใจใส่กันมากกว่า ส่วนตัวผมเองยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่กับเขานานขนาดไหน แต่ผมบอกรักเขาไปแล้ว ผมก็ต้องดูแลกันให้ดี จำวันแรกที่ผมบอกรักเขา ผมก็จะนึกแล้วทำให้เหมือนวันแรก ตอนที่ไปจีบเขา ผมเป็นเทวดา ผมก็ต้องเป็นเทวดาตลอด จะให้เป็นคนธรรมดาไม่ได้
จริงๆ ในฐานะที่ผมยังเป็นวัยรุ่น ผมมองว่าความรักมันอยู่ที่ตัวเรา มันอยู่ที่คนสองคนล้วนๆ คนจะรักกันมันไม่มีอะไรขัดขวางได้หรอก มันเป็นเรื่องที่ทำให้ชีวิตมีสีสันดีนะ เหมือนเด็กมีแฟนในโรงเรียนแหละครับ พอมีแฟนก็อยากไปเรียน อยากเจอหน้าแฟน มันเป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำอะไรดีๆ เหมือนกันนะครับ
อีกอย่างผมมองว่ารักของวัยรุ่นควรจะอยู่ในกรอบ อยู่ในความพอดี ไม่มากไปน้อยไป ควรจะรู้จักคิดด้วยว่าทำแบบนี้แล้ววันหนึ่งเกิดเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาจะเป็นยังไง เราต้องมองอนาคต ไม่ใช่ว่ามองแค่อนาคตเรา แต่เราต้องมองอนาคตของทั้งคู่ว่า ถ้าเกิดวันหนึ่งเลิกกันขึ้นมาจะทำยังไง หรือถ้ามีอะไรกันแล้ว เขาเกิดท้องขึ้นมาล่ะ เราจะรับผิดชอบได้ไหม เพราะเราก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่เหมือนกัน ผมว่าเราควรมองความรักในระยะยาวด้วยครับ
4 เคล็ดลับบริหารความรักแบบฉบับคนอะไรเป็นแฟนหมี
อย่าเดินหนีเวลาทะเลาะกัน
“เวลาทะเลาะกัน สิ่งที่ไม่ควรทำคือการเดินหนี เดินหนีปุ๊บ จบเลย เดินหนีกัน เราก็ไม่รู้เขาคิดยังไงต่อ เพราะฉะนั้น ต้องเคลียร์ให้จบ เราไม่รู้ได้เลยว่าเขาจะไปทำอะไรต่อ เขาอาจจะหนีเราไปไหนต่อไหน ไปมีอันตรายอะไรหรือเปล่า ยิ่งจะทำให้เป็นห่วงกันมากไปอีก เพราะฉะนั้น อย่าเดินหนีกันเลย เคลียร์ให้จบตรงนั้น จะได้สบายใจทั้งคู่”
ทิ้งทิฐิ ทิ้งศักดิ์ศรี
“ผมว่าก่อนจะมีความรัก เราต้องทิ้งทิฐิ ทิ้งศักดิ์ศรีออกให้หมด เพราะคนอื่นไม่ได้มารู้กับเรา อย่างเวลาเราร้องไห้ เขาก็คงไม่เล่าให้ใครฟังหรอกมั้งว่าเราร้องไห้ ความรักของคนสองคนมันไม่มีอะไรทำให้เสียศักดิ์ศรี ผมมองว่าความรักไม่ต้องมีศักดิ์ศรีให้มันเยอะ มันไม่มีประโยชน์ทั้งกับเราและแฟน มีศักดิ์ศรีแล้วยังไงต่อ ถ้าเราต้องทะเลาะกัน เกี่ยงกัน แย่งกัน เรามีความสุขไหม ก็ไม่มี เพราะฉะนั้นต้องมีศักดิ์ศรีไปทำไม อย่างเรื่องง่ายๆ เขาให้เราไปล้างจาน เราจะมัวถามเขาว่าแล้วทำไมเธอไม่ล้างล่ะ ถามไปเขาจะไปล้างให้เหรอ ผมว่าก็ไม่นะ เขาจะด่าเราด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นก็ไปล้าง จบ จานสองสามใบก็คงไม่มีปัญหาอะไรมั้ง (หัวเราะ)
ยอมไปก็ไม่ได้เสียหายอะไร มันไม่มีอะไรเสียเลยนะ เพราะเราคบกันอยู่สองคน เรายอมเขา ก็มีเขารู้แค่คนเดียว (หัวเราะ) ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยนะครับ มันเป็นเรื่องที่ผู้ชายดีๆ สมควรทำ มันเป็นเรื่องธรรมดา ผู้ชายบางคนกลัวเสียศักดิ์ศรี ผมยอมรับ แต่ผมว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่เรามโนขึ้นมาเองมากกว่า”
ผู้ชายไม่ใช่ช้างเท้าหน้าเสมอไป
“คนชอบมองว่าผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้า เป็นช้างเท้าหน้าแล้วยังไง อยู่ด้วยกัน เดินข้างๆ กันไม่ได้เหรอ ทำไมต้องเดินนำหน้ากันด้วย ช้างเท้าหน้าออกไปหางาน ออกไปทำงาน แฟนเราก็ทำงานเหมือนกัน สมมติว่าถ้าได้แต่งงานกัน เราออกไปหาเงิน แฟนทำอะไรอยู่บ้านเฉยๆ มันก็ไม่ใช่ เขาก็ต้องเลี้ยงลูก ทำงานบ้านดูแลบ้านเหมือนกัน มันเป็นเรื่องที่เราต้องทำอยู่แล้ว ผู้ชายมันก็ไม่ได้จะยิ่งใหญ่ไปกว่าผู้หญิงเลยนะ”
รักเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ต้องไปหาคำตอบ
“ผมไม่คิดว่าจะเปลี่ยนอะไรในตัวกัน หรือถ้าจะเปลี่ยนไม่ต้องเปลี่ยนทั้งคู่ก็ได้ อย่างผมเปลี่ยนคนเดียวผมสบายใจแล้ว เขามาขาดๆ เราก็เติมให้เขาจนเต็มทั้งคู่ ผมจะไม่คิดมากเรื่องความรักเลย สำหรับผมความรักเป็นเรื่องง่ายๆ
เราไม่ต้องหาคำตอบในความรัก เราก็ทำไปแบบนี้ของเราก็พอ ยิ่งเรามีคำถามมาก เราก็ยิ่งมีปัญหามาก ถ้าเราไปหาคำตอบ เรายิ่งไม่เข้าใจ มันยิ่งไม่จบ เพราะเรามัวแต่หาคำถาม เพราะฉะนั้นไม่ต้องหา ทำแม่งเลย”
ผลงานส่วนหนึ่งจาก “คนอะไรเป็นแฟนหมี”
Profile
ชื่อ : กษิดิศ ประสิทธิ์
ชื่อเล่น : บอม
อายุ : 22 ปี
การศึกษา : ชั้นปีที่ 4 คณะคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
ผลงาน : หนังสือคนอะไรเป็นแฟนหมี (สำนักพิมพ์ HER Publishing), แอดมินเพจคนอะไรเป็นแฟนหมีและเพจนี่เพื่อนไงจำไม่ได้เหรอ?
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : ปัญญพัฒน์ เข็มราช และ facebook pages: คนอะไรเป็นแฟนหมี
