“น้องจีโน่” เหยื่อสาวลวงเผาทั้งเป็นเสียชีวิตแล้ว บิดาโฮทำไมปล่อยตัวผู้ต้องหา - แจ้งความกลับ

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เผยหนุ่มวัยรุ่นเหยื่อหญิงคบซ้อนพาแฟนเก่าจุดไฟเผาที่กระทุ่มแบน สมุทรสาคร เสียชีวิตแล้ว หลังรักษาตัวจากผิวหนังถูกไฟไหม้นานถึง 84 วัน ก่อนหน้านี้ หัวใจหยุดเต้น แพทย์ปั๊มกลับมาได้ ก่อนสิ้นใจตอนตีห้า บิดาโฮทำไมปล่อยผู้ต้องหาออกมา แถมฝ่ายหญิงแจ้งความเอาผิดลูกซ้ำ ถามพวกเขาทำอะไรกัน ศพสวดที่วัดแคราย 5 คืน

วันนี้ (20 มี.ค.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความสำนักงานทนายความษิทรา เบี้ยบังเกิด และทีมงานทนายประชาชน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก “ษิทรา เบี้ยบังเกิด” ถึงกรณีที่ นายณขจร หรือ จีโน่ กิจฤกษ์ไทย อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 183/33 หมู่ที่ 10 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ถูกนายพชร หรือ กัส เทียนชูศักดิ์ อายุ 19 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม และ น.ส.จันทราลักษณ์ หรือ ออย ลั่นสิน อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ลงมือก่อเหตุราดน้ำมันแล้วจุดไฟเผาทำร้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณศาลารถโดยสารประจำทาง ริมถนนเศรษฐกิจ 1 หมู่ 3 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เนื่องจากไม่พอใจที่นายณขจรเข้ามาคบหากับ น.ส.จันทราลักษณ์ ในช่วงที่ห่างเหินกับนายพชร เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 ธ.ค. 2557 ที่ผ่านมา

โดย นายษิทรา เล่าว่า วันก่อนพลเมืองดีที่ถ่ายวิดีโอคลิปนายณขจร ที่ถูกเผาทั้งเป็น พา นางรัชวรรณ ครุธเนตร อายุ 41 ปี และ นายวิษณุ กิจฤกษ์ไทย ซึ่งเป็นมารดาและบิดาของนายณขจร มาขอความช่วยเหลือเรื่องคดีความว่าทำไมล่าช้า และผู้ต้องหาทั้งสองคนทำไมถึงได้ประกันตัว ตนก็รับปากว่าเมื่อคดีไปถึงศาลจะช่วยเป็นทนาย เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม พอถามถึงอาการ นางรัชวรรณ ก็บอกว่าอาการยังไม่ดีขึ้น ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาลรามาธิบดี ก็อยู่ห้องไอ.ซี.ยู. มาตลอด หมอต้องตัดนิ้วและหูทั้งสองข้างออก ไม่สามารถให้ใครเยี่ยมได้

“เมื่อคืนทราบข่าวว่าน้องหัวใจหยุดเต้น แต่หมอสามารถปั๊มหัวใจกลับมาได้ ก็รู้สึกโล่งใจคิดว่าคงไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ตอนตี 5 ได้รับข่าวร้ายจากญาติน้องจีโน่ว่า ตอนนี้น้องเสียชีวิตแล้ว ส่วนเรื่องคดีความหลังจากนี้ตำรวจก็คงเรียก 2 ผู้ต้องหาไปแจ้งข้อหาเพิ่มเติมจากข้อหาพยายามฆ่าโดยไตร่ตรอง เป็นข้อหาเจตนาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรอง ซึ่งเป็นโทษที่หนักกว่าเดิม และทีมงานทนายประชาชนก็จะช่วยเหลือเรื่องคดีกับพ่อแม่น้องจีโน่ต่อไป” นายษิทรา ระบุในเฟซบุ๊ก



จากนั้นในช่วงเย็น นายษิทรา ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า นายวิษณุ กิจฤกษ์ไทย บิดา นายณขจร พูดกับตนว่า ทำไมถึงไม่ได้รับความยุติธรรม คดีร้ายแรงขนาดนี้ตำรวจยังไม่คัดค้านการประกันตัว ปล่อยผู้ต้องหาออกมา แล้วถ้าหนีไปจะทำยังไง ลูกผมไม่ตายฟรีเหรอ? แถมผู้ต้องหาที่เป็นผู้หญิงยังมาแจ้งความลูกผมอีก แล้วจะให้ย่าน้องซึ่งแก่มากแล้วไปเป็นพยาน ทั้งๆ ที่ลูกผมยังไม่สามารถพูดหรือทำอะไรได้ พวกเค้าทำอะไรกัน” ตนได้ฟังก็รู้สึกหดหู่ ยิ่งได้เห็นศพนายณขจรมีแต่ผ้าพันไว้ มีแต่รอยไหม้ บวม ตามร่างกาย



สำหรับศพของ นายณขจร ได้ตั้งสวดพระอภิธรรมศพที่วัดสุวรรณรัตนาราม (วัดแคราย) ถนนเศรษฐกิจ 1 หมู่ 3 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เป็นเวลา 5 คืน

สำหรับคดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 27 ธ.ค. 2557 ที่ผ่านมา ประชาชนได้พบเห็นนายณขจรถูกไฟเผาร่างได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่และนำน้ำมาราดเพื่อดับไฟ นายณขจร ทำการถอดเสื้อและกางเกงยีนส์ที่ถูกไฟลุกไหม้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจากโรงพยาบาลวิชัยเวช สมุทรสาคร ที่มาถึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการใช้น้ำสะอาดและผ้าเปียกค่อยๆ เช็ดตามร่างกาย ก่อนนำส่งโรงพยาบาลกระทุ่มแบน โดย นายณขจร มีแผลถูกไฟลวกจนผิวหนังตั้งแต่ศีรษะถึงลำตัว ลอกหลุดออกมาเป็นแผ่น นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุยังพบรถมอเตอร์ไซด์ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีแดง ติดสติกเกอร์ลายตราสัญลักษณ์สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ทะเบียน ฬรง 120 กรุงเทพมหานคร ล้มคว่ำอยู่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และบริเวณหน้าศาลารอรถโดยสารประจำทาง ยังพบขวดน้ำพลาสติก 1 ขวด มีรอยถูกไฟไหม้ซึ่งเป็นขวดที่คนร้ายใส่น้ำมัน บนพื้นถนนมีคราบน้ำมัน และที่นั่งรอรถเมล์ยังพบรองเท้าถูกไฟไหม้อีก 1 คู่

นายณขจร กล่าวในระหว่างเกิดเหตุว่า คนร้ายทราบชื่อคือ นายกัส และ น.ส.ออย บ้านอยู่แถวสะแกงาม โดย น.ส.ออย โทรศัพท์เรียกให้ออกมาพบตรงที่เกิดเหตุ ระหว่างที่คุยกัน จู่ๆ นายกัส โผล่ออกมาจากป่าข้างทาง เข้าล็อกคอตนไว้ก่อนใช้น้ำมันที่ใส่ขวดพลาสติกราดศีรษะแล้วจุดไฟเผาทันที ก่อนที่จะหลบหนีไป ส่วนตนเจ็บปวดทรมานมาก รีบถอดเสื้อผ้าร้องตะโกนให้คนช่วยเหลือ ก่อนที่พลเมืองดีจะมาช่วยดับไฟ จากนั้นแพทย์จากโรงพยาบาลกระทุ่มแบน ได้นำตัวนายณขจร เข้ารักษาต่อที่หอผู้ป่วยอุบัติเหตุไฟไหม้ โรงพยาบาลรามาธิบดี เนื่องจากอาการยังสาหัส ร่างกายถูกไฟไหม้ไปประมาณ 63 เปอร์เซ็นต์ มีอาการบวม ต้องให้ยาช่วย เนื่องจากดิ้นมาก ไม่สามารถพูดได้ เนื่องจากต้องต่อท่อช่วยหายใจอยู่ ทั้งนี้ แพทย์ได้ใช้เวลารักษาตัวนายณขจรผ่านไป 84 วัน ก่อนที่นายณขจรจะเสียชีวิต

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน ได้จับกุม นายพชร และ น.ส.จันทราลักษณ์ ได้ที่ปั๊มน้ำมันมังกี้โกลด์ ถนนกาญจนบุรี - ด่านเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ใกล้ชายแดนไทย - พม่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 30 ธ.ค. 2557 โดย นายพชร รับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือก่อเหตุเพราะตนเองกับ น.ส.จันทราลักษณ์ คบหาเป็นแฟนกันอยู่ แต่ได้มีปากเสียงกัน ทะเลาะกัน และไม่เข้าใจกัน ซึ่งเป็นช่วงจังหวะพอดีกับที่ นายณขจร เข้ามาพูดคุยและตีสนิทกับ น.ส.จันทราลักษณ์

กระทั่ง นายณขจร ชวน น.ส.จันทราลักษณ์ ไปที่บ้านโดยบอกว่า จะให้ยืมคอมพิวเตอร์ทำงาน ก่อนพา น.ส.จันทราลักษณ์ ขึ้นไปในห้องนอน ก่อนมีเพศสัมพันธ์กันจนสำเร็จความใคร่ ภายหลังได้ทราบความจริงจาก น.ส.จันทราลักษณ์ ซึ่งอ้างว่า นายณขจร ข่มขู่ว่า หากนำเรื่องนี้ไปบอกใครจะเอาความลับนี้ไปเปิดเผย และจะอุ้มฆ่า ทำให้เกิดความโกรธแค้น และได้ปรับความเข้าใจกับ น.ส.จันทราลักษณ์ กระทั่ง นายณขจร โทรศัพท์มาหา น.ส.จันทราลักษณ์ เพื่อนัดไปที่บ้าน ตนจึงบอกให้นัดนายณขจรให้มารับที่ป้ายรถเมล์ แล้วค่อยเข้าไปแอบในพงหญ้าต้นไม้ข้างทาง เพื่อรอจังหวะที่นายณขจร จอดรถจักรยานยนต์พูดคุยกับ น.ส.จันทราลักษณ์ ก่อเหตุดังกล่าว

ส่วน น.ส.จันทราลักษณ์ ให้การรับสารภาพว่า อยู่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย โดยกล่าวว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ตนเจอนายณขจร 3 ครั้ง ช่วงนั้นตนกับนายพชรทะเลาะกัน นายณขจร ได้เข้ามา ตนบอกว่ายังไม่คบ ดูๆ กันไปก่อน ถึงปีใหม่ค่อยดูว่าจะคบกันได้หรือไม่ ซึ่งยอมรับว่าเคยเจอมารดาของนายณขจรครั้งสุดท้ายก่อนเกิดเหตุ

อีกด้านหนึ่ง นางรัชวรรณ มารดาของ นายณขจร ก็เปิดเผยว่า น.ส.จันทราลักษณ์ กับนายณขจร คบหาเป็นแฟนกันได้ระยะหนึ่ง เคยพามาที่บ้าน แต่ไม่บ่อยนัก ระยะหลังเห็นว่าฝ่ายหญิงหายไป จึงถามบุตรชายว่าเลิกรากันแล้วหรือไม่ นายณขจร ตอบว่า วันอาทิตย์นี้ (28 ธ.ค. 2557) ฝ่ายหญิงจะมาหาที่บ้าน กระทั่งวันเกิดเหตุ นายณขจร บอกกับย่าก่อนออกจากบ้านในตอนเช้าว่า กำลังจะไปรับฝ่ายหญิงมาที่บ้าน เป็นไปได้ว่าบุตรชายไปนั่งเล่นเกมที่ร้านอินเทอร์เน็ต ก่อนที่ น.ส.ออย จะโทรศัพท์มาเรียกก่อนเกิดเรื่องดังกล่าว