นครปฐม - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นำทีมแถลงจับกุม 9 ใน 10 ผู้ต้องหาแก๊งวัดม่วง เครือข่าย “แก๊งโอรส” โดยมีเยาวชนร่วมด้วยหลายคนหลังออกตระเวนก่อเหตุปล้นจี้ชิงทรัพย์ตามท้องถนนเป็นว่าเล่น “ไอ้เอ แขนไฟ” รับสารภาพเป็นหัวหน้า “แก๊งวัดม่วง” ที่แตกลายมาจากแก๊งโอรส มี “ไอ้เบียร์” เป็นหัวหน้าใหญ่ที่ยังหลบหนีอยู่
เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (19 มี.ค.) ที่ สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว พร้อมชุดจับกุมได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมคนคนร้ายในคดีร่วมกันปล้นทรัพย์ โดยมีชื่อว่า “แก๊งวัดม่วง” ซึ่งก่อเหตุหลายคดีในพื้นที่ปริมณฑล โดยเป็นเครือข่ายที่แตกตัวออกมาจาก “แก๊งโอรส” โดยการจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมด 9 คน จาก 10 คน โดยรายที่ 10 ขณะนี้ยังหลบหนีอยู่คือ นายชาติชาย หรือ “เบียร์” ถ้ำเหม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/20 ม.16 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
สำหรับผู้ที่ถูกจับกุมได้ทั้งหมด 9 คน ประกอบด้วย 1.นายสุรเชษฐ์ หรือ “เอ แขนไฟ” กาญจนัด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 909/426 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 2.นายอ๊อฟ เพไร อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 161 ซ.เจริญกรุง 109 แยก 10-4 แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 3.นายธีรพงศ์ หรือ “โด้" สืบพรม” อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/28 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 4.นายตรีวิทย์ หรือ “เวอร์” จันทร์สว่าง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/9 ม.14 ต.บางผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ 5.นายเต้ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี 6.นายเต๊ะ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี 7.นายโบ้ท (นามสมมติ) อายุ 16 ปี 8.นายเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และ 9.นายเจ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี
พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 4 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง มีดปลายแหลม 1 เล่ม หมวกกันน็อกสีฟ้า 1 ใบ ซิมการ์ดโทรศัพท์ 1 อัน เหตุเกิดที่หน้าหมู่บ้านปรีชา ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ม.9 ต.กระทุ่มล้ม อ.สามพราน จ.นครปฐม
โดยเมื่อวันที่ 14 มี.ค.58 เวลาประมาณ 03.00 น. คนร้ายทั้งหมดได้นัดกันมาร่วมตัวกันที่ปากซอยถนนเพชรเกษม 63 หน้าวัดม่วง เพื่อเดินทางมาแข่งรถ และหาเหยื่อ และขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกัน 5 คัน รวม 10 คน มาตามถนนพุทธมณฑลสาย 3 มุ่งหน้าถนนบรมราชชนนี เลี้ยงเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 แล้วกลับรถหน้าหมู่บ้านสินสมบูรณ์ เขตกระทุ่มแบน
กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุหน้าร้านอาหารแอ๊ด เป็นร้านอาหารใต้ นายเวอร์ นายเบียร์ นายเอ๋ นายโบ๊ท ได้ขับขี่รถไปตามเป้าหมาย โดยขี่ย้อนศรมา และขับขึ้นไปบนฟุตปาธจนกระทั่งพบเหยื่อ ก่อนจะใช้มีดจี้ข่มขู่ปลดทรัพย์สินจากผู้เสียหาย 2 คน โดยได้เงินไป 80 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ 1 คัน
หลังจากนั้น ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนพุทธมณฑลสาย 5 และพบผู้เสียหายคือนายสมบัติ ขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่จึงได้เข้าไปปาดหน้า จากนั้น นายเบียร์ นายเวอร์ นายเอ๋ ได้ลงจากรถ และนายเวอร์ ได้ใช้อาวุธจี้ และชกผู้เสียหาย แล้วนายเวอร์ กับนายเบียร์ ได้ล้วงเงินสดประมาณ 8,500 บาท แล้วหลบหนีไป จนมาถึงถนนเพชรเกษม เข้าเขตกระทุ่มแบน ได้ทำการปล้นทรัพย์ชาวพม่าได้กระเป๋าเงิน และโทรศัพท์มือถือ รวมถึงเงินสดไปด้วยอีกจำนวนหนึ่ง
จากนั้นทั้งหมดได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปที่ตลาดกัลปพฤกษ์ ถนนพระราม 2 เพื่อแบ่งเงินกันคนละ 300 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ได้จากผู้เสียหาย นายเวอร์ นำไป ส่วนของอื่นๆ นายเต้ อายุ 16 ปี ได้นำไปให้นางอ้อย เหมมณี แม่ของตน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำการจับกุมในเวลาต่อมา เนื่องจากทราบดีว่า บุตรชายเป็นหนึ่งในคนร้าย แต่ก็ยังรับของ และยังได้ทรัพย์สินจากบุตรชายบ่อยครั้ง จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดีด้วย
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.58 เวลาประมาณ 05.00 น. ในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ได้มีการก่อเหตุใช้มีดจี้ น.ส.บุญญาภัตร วิโรจน์รัตน์ และสามีที่หน้าห้างไทยวัสดุก่อสร้าง อ.เมืองสมุทรสาคร ได้โทรศัพท์มือถือไป 2 เครื่อง ถัดไปเวลาประมาณ 05.30 น.ได้ใช้มีดจี้ น.ส.วัชราภรณ์ พาจันลา พร้อมสามี ที่บริเวณตรงข้ามตลาดมหาชัยเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรสาคร ได้โทรศัพท์มือถือไป 1 เครื่อง
หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 11 มี.ค.58 มีคนร้าย 7 คน ได้ลงมือปล้นทรัพย์โดยกระชากกระเป๋าที่หน้าหมู่บ้านสาครธนทรัพย์ ถ.เศรษฐกิจ อ.เมืองสมุทรสาคร ได้เงินสดไป 19,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง วันที่ 13 มี.ค.58 เวลาประมาณ 05.30 น. มีคนร้าย 4 คน ก่อเหตุชิงทรัพย์ที่บริเวณหน้าร้านค้า ก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ปตท.เมืองใหม่ ม.1 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร ได้โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
วันที่ 14 มี.ค.58 เวลา 05.40 น.ที่สะพานต่างระดับหัวคู้ เยื้องค่ายกำแพงเพชร ม.8 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นายเสนอ บุญทวี อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 145 ม.13 ต.คำเตย อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร ถูกคนร้ายชิงทรัพย์เป็นแท็บเล็ต 1 เครื่อง เงินสด 5,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยเงิน พระหลวงปู่สด 1 องค์ โดยใช้อาวุธปืนปล้นไป เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมดว่าร่วมกันปล้นทรัพย์
ทั้งนี้ นายสุรเชษฐ์ กาญจนัด หรือ “เอ แขนไฟ” รับสารภาพว่า แก๊งของตนชื่อ แก๊งวัดม่วง จะอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมี นายชาติชาย หรือเบียร์ ถ้ำเหม อีกคนที่หลบหนีอยู่เป็นหัวหน้าใหญ่ ก่อนหน้านี้ ได้ออกตระเวนชิงทรัพย์ในเขตกรุงเทพฯ และแยกตัวออกมายังพื้นที่จังหวัดนครปฐม และสมุทรสาครเพื่อก่อเหตุ โดยมีหลายคดีที่ได้ก่อเหตุไว้ได้ทรัพย์สินมาก็จะแบ่งกันและมีเยาวชนร่วมด้วยหลายคน ทั้งหมดที่นำมาตั้งแก๊งคือ 15 คน ที่อยู่ด้วยกัน ซึ่งตนเป็นหัวหน้าแก๊งระดับต้นๆ
พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผบช.ภ.7 กล่าวปิดท้ายว่า แก๊งวัดม่วง เป็นกลุ่มคนร้ายที่แยกขยายตัวแตกสาขามาจาก แก๊งโอรส ซึ่งมีชื่อเสียงในเขตกรุงเทพฯ โดยมีพฤติกรรมก่อเหตุเป็นการปล้นทรัพย์โดยใช้จำนวนคนเป็นหลักมีการทำร้ายเหยื่อหลายราย หรือเรียกว่าก่อเหตุแบบหมาหมู่ โดยหลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนในสังกัดได้ระดมออกติดตามตัวมาตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา จนได้เบาะแส และแกะรอยติดตามตัวมาได้เกือบหมด ซึ่งจะมีการระดมกวาดล้างให้หมดไปจากพื้นที่ซึ่งถือว่าเป็นการท้าทายกฎหมายบ้านเมือง