แท็กซี่นครชัยแอร์ ทุ่มงบประมาณ 700 ล้านบาท เปิดบริการแท็กซี่รูปแบบใหม่ “ออล ไทย แท็กซี่” ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และรถยนต์ไฮบริดป้ายแดงมาให้บริการ โดยมีแผนเปิดให้บริการ 500 คัน เบื้องต้นเริ่มเปิดให้โหลดแอปพลิเคชัน กับทดลองวิ่งได้ตั้งแต่เดือน เม.ย. ก่อนเปิดให้บริการทางการวันที่ 1 พ.ค. 58 ด้านขนส่งมั่นใจเป็นต้นแบบบริการยกระดับที่ดี ช่วยปัญหาการร้องเรียนได้
วันนี้ (10 ก.พ.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายอนันต์ วงศ์เบญจรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ได้ทุ่มงบประมาณ 700 ล้านบาท เปิดตัวให้บริการแท็กซี่รูปแบบใหม่ “ออล ไทย แท็กซี่” ด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ และรถยนต์ไฮบริดป้ายแดงมาให้บริการ โดยมีแผนเปิดให้บริการ 500 คัน เบื้องต้นเริ่มเปิดให้โหลดแอปพลิเคชัน กับทดลองวิ่งได้ ตั้งแต่เดือน เม.ย. นี้ ก่อนเปิดให้บริการเป็นทางการวันที่ 1 พ.ค. 58 เป็นต้นไป คิดค่าเรียกบริการ 20 บาท และค่าโดยสารตามมิเตอร์ที่กระทรวงคมนาคมกำหนด
สำหรับวิธีเรียกใช้บริการผ่านได้แอปพลิเคชันสมาร์ทโฟน หรือเรียกผ่านสายด่วน 1624 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนกรณีหากเห็นวิ่งตามท้องถนนและไม่ขึ้นเครื่องหมายจอง ก็สามารถโบกเรียกได้ ซึ่งการันตีว่า ออล ไทย แท็กซี่ จะไม่มีการปฏิเสธผู้โดยสารแน่นอน โดยบริษัทคาดว่า การลงทุนครั้งนี้จะช่วยคืนทุนได้ภายใน 5 - 7 ปี และ ออล ไทย แท็กซี่ จะไม่ส่งผลกระทบการแข่งขันกับแท็กซี่ทั่วไป เพราะเป็นการเรียกผ่านแอปพลิเคชัน ไม่ได้วิ่งตามถนนทั่วไป
“บริษัท ออล ไทย แท็กซี่ อยู่ในเครือนครชัยแอร์ ตั้งใจพัฒนาให้เป็นแท็กซี่ต้นแบบ ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้บริการแท็กซี่ไทย โดยเพิ่มความสะดวก ความปลอดภัย และความทันสมัยให้ประชาชน เช่น รถไฮบริดประหยัดพลังงาน ลดมลพิษ แอปพลิเคชันสำหรับเรียกใช้ ตรวจสอบเส้นทาง และร้องเรียนปัญหา มีระบบจีพีเอสติด และกล่องดำบันทึกข้อมูลคนขับ ป้ายติดตามความเร็ว จอภาพเพื่อความบันเทิง รวมถึงบริการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิต และเอทีเอ็ม ทั้งนี้ คนขับแท็กซี่จะเป็นพนักงานของนครชัยแอร์ทุกคน ที่ผ่านการอบรม มีเงินเดือน ค่าคอมมิชชัน และโบนัสต่างๆ มากกว่า 1,000 คน รวมถึงมีบริการ เลดี้ แท็กซี่ คนขับที่เป็นผู้หญิง เพื่อให้บริการแก่สุภาพสตรีด้วย” นายอนันต์ กล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนของความปลอดภัยในการใช้บริการ มีมาตรฐานในการคัดเลือกพนักงานให้บริการรุแท็กซี่ จัดอบรมและปลูกจิตสำนึกให้รับในการบริการ มีฐานเงินเดือนและให้รางวัลกับพนักงานที่ปฏิบัติงานได้ตามมาตรฐาน ซึ่งผู้โดยสารสามารถแจ้งพฤติกรรมพนักงานผ่านแอปพลิเคชันได้ อีกทั้งได้ติดตั้งระบบ CCTV จับตาดูพฤติกรรมของพนักงานทุกคัน
ด้าน นายธีระพงษ์ รอดประเสริฐ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมขนส่งฯ มีนโยบายสนับสนุนให้ผู้ประกอบการแท็กซี่ทุกราย เร่งปรับปรุงการให้บริการให้ดีขึ้น โดยการบริการ ออล ไทย แท็กซี่ ถือเป็นรายแรกที่ริเริ่มทำขึ้น ถือเป็นแท็กซี่ต้นแบบ ที่ช่วยยกระดับบริการแท็กซี่ของไทยให้ทันสมัยได้ และจะช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความปลอดภัยแก่ประชาชนได้มากยิ่งขึ้น และหลังจากนี้ กรมการขนส่งทางบกจะเร่งผลักดัน ให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่รายอื่นๆ เข้าร่วมพัฒนาคุณภาพ การให้บริการ เพื่อสร้างมาตรฐานการให้บริการรถแท็กซี่ไทย ให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องต่อไป
“ที่ผ่านมา การให้บริการด้วยรถแท็กซี่ ยังพบปัญหาการร้องเรียน ในประเด็นการปฏิเสธผู้โดยสาร การไม่ใช้มาตรมิเตอร์ สภาพตัวรถ รวมถึงมารยาทคนขับ ทางกรมการขนส่งฯ หวังว่า การร่วมมือกับผู้ประกอบการครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้น ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบริการแท็กซี่ไทยในอนาคต และหลังจากนี้ มีผู้ประกอบการรายอื่นสนใจร่วมยกระดับบริการด้วย ขณะนี้ทราบว่า ปัญหาร้องเรียนแท็กซี่ก็ลดลง โดยกรมการขนส่งทางบกฯ จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปเป็นส่วนหนึ่งประกอบการประเมิน ขึ้นค่าแท็กซี่มิเตอร์รอบสองในช่วงกลางปีด้วย"อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าว
นายธีระพงษ์ กล่าวอีกว่า ความแตกต่างของ All Thai Taxi กับอูเบอร์แท็กซี่ และแก็ปแท็กซี่ อยู่ที่การบริการติดตามผลตลอดระยะเวลาการใช้บริการรถแท็กซี่ของผู้โดยสาร ซึ่งจะไม่มีกรณีการปฏิเสธลูกค้า หรือไม่กดมิเตอร์ เนื่องจากมีระบบ GPS และ CCTV จับตาดูตลอดทุกคัน