แม้ว่าการปฏิบัติการตามล่าหาเสียงจริง ตัวจริงของเวที The Voice Thailand season 3 จะได้ตัดสินเลือกผู้ชนะเลิศไปได้สักพักแล้ว แต่ชื่อเสียงของหนึ่งในผู้เข้าประกวดแถมยังเป็นหนึ่งในผู้เข้ารอบคนนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะซาลงไปด้วยเลย ซึ่งเธอยังคงโด่งดังและเป็นที่รักของแฟนคลับแถมปริมาณแฟนคลับยังมากขึ้นแล้วจะยังมากขึ้นอยู่เรื่อยๆ
สาวหมวยเสียงมหัศจรรย์วัยเพียง 16 ปี ที่พ่วงดีกรีตำแหน่งรองแชมป์ในการประกวดบนเวทีที่ขึ้นชื่อของผู้คนที่อยากมาทดสอบความสามารถด้านเสียงได้สำเร็จ ซึ่งนอกจากเธอจะชื่นชอบการร้องเพลงแล้วนั้น เธอยังชอบฟังเพลงและแต่งเพลงอีกด้วย เรียกได้ว่าอาชีพนักร้องคือความใฝ่ฝันในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้
และนี่ก็คือก้าวแรกแห่งความสำเร็จของสาวน้อยเสียงดีได้ใจคนนี้ “อิมเมจ-สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ”...
• มีชื่อเสียงมาจากเวทีเดอะวอยซ์ ก่อนอื่นขอถามก่อนเลยว่าทำไมถึงอยากมาประกวดที่เวทีนี้ เป็นเวทีที่ใฝ่ฝันเลยหรือเปล่า
มันมีเหตุผลมากมายหลายอย่างมากค่ะ อิมเมจชอบรายการนี้ อิมเมจอยากมาทดสอบตัวเอง อยากเจอโค้ช อยากออกทีวี อะไรประมาณนี้ค่ะ และเดอะวอยซ์ก็เป็นเวทีใหญ่ที่แรกเลยที่อิมเมจมาสมัคร จริงๆ ก็อยากมาเวทีนี้ตั้งแต่ซีซันแรกแล้วค่ะ พอเห็นซีซันแรกก็มานั่งคิดว่าทำไมเราถึงไม่รู้ ทำไมถึงสมัครไม่ทัน แต่ว่าก็สมัครไม่ได้อยู่ดีเพราะตอนนั้นยังอายุไม่ถึงด้วย แล้วก็มีเดอะวอย คิดส์ อันนี้ไม่ทันจริงๆ ต่อมาเดอะวอยซ์ ซีซัน 2 ก็ยังอายุไม่ถึง ส่วนเดอะวอยซ์ คิดส์ 2 หนูก็อายุเกินแล้ว (หัวเราะ) เลยได้มารอบนี้ (ยิ้ม)
แต่ตอนแรกหนูก็เกือบจะไม่มาแล้วเหมือนกันนะคะ เพราะกลัวว่ามาแล้วจะไม่ได้ กลัวตัวเองเสียใจ ก็เลยคิดว่าไม่มาดีกว่าอะไรแบบนี้ แต่สุดท้ายก็มีแรงฮึด ไหนๆ ก็อยากมาแล้ว ก็มาเลยแล้วกัน
• แล้วแบบนี้พอได้มายืนอยู่บนเวทีเดอะวอยซ์ เรารู้สึกอย่างไรบ้างคะ
ตอนนั้นตื่นเต้นมากเลยค่ะ แต่หนูเชื่อว่าต้องมีคนหันมา เพราะว่าถ้าเกิดเราไปร้องแล้วเราคิดว่าถ้าไม่มีคนหันมา เราก็จะกร่อยไปเอง ตอนนั้นอิมเมจก็มีเลือกโค้ชมาจากบ้านบ้างนะคะ แต่ก็เปลี่ยนไปเรื่อย อยากอยู่ด้วยที่สุดก็เป็นพี่แสตมป์ หลายๆ คน ทั้งแม่ของเพื่อน เพื่อนของแม่ ทั้งแม่ ทุกคนจะบอกเลือกพี่ก้องนะลูก (หัวเราะ) แต่ใจหนูนี่ยังไงก็พี่แสตมป์แน่นอน แต่ก็มีแวบหนึ่ง หนูก็อยากอยู่กับโค้ชพี่เจนนิเฟอร์ คิ้ม เหมือนกัน แต่พอหนูดูไปเรื่อยๆ ก็เริ่มรู้สึกว่าทีมโค้ชพี่คิ้มมีแต่คนเก่งๆ ทั้งนั้นเลย คิดว่าหนูคงไม่กล้าเลือกพี่คิ้มเข้าไปคงตายแน่เลย ส่วนโค้ชพี่โจ้ (โจอี้บอย) พี่เขาแนวมาก แวบหนึ่งหนูก็คิดนะ หรือว่าอยู่กับโค้ชพี่โจ้ดี คงเท่แน่เลย แต่สุดท้ายพอเขาหันมา หนูก็เลือกพี่แสตมป์อยู่ดี (หัวเราะ)
• สุดท้ายแล้วก็เลือกโค้ชแสตมป์
อิมเมจชอบพี่แสตมป์ (ยิ้ม) เพราะพี่เขาร้องเพลงออกมาจากความรู้สึก เวลาคนฟังจะสัมผัสได้ มันดูเป็นความรู้สึกนั้นจริงๆ ทำให้เราอินและเข้าถึงได้ในทุกเพลง อีกอย่างพี่เขาแต่งเพลงเองด้วย แถมเล่นกีตาร์ก็ได้ ดูเท่มาก (หัวเราะ) หนูเองก็อยากเล่นกีตาร์ให้ได้บ้าง
• ย้อนไปถามถึงก่อนมาประกวดสักหน่อย มาสมัครประกวดร้องเพลง แสดงว่าก็ต้องเป็นคนที่ชื่นชอบร้องเพลงอยู่แล้ว
ที่บ้านของหนูชอบฟังเพลง เราก็เลยชอบฟังไปด้วย ร้องตามไปด้วย ตอนเด็กๆ ก็เคยมีไปประกวดร้องเพลงบ้าง แต่ก็เป็นการประกวดเล่นๆ แต่ก็จำไม่ค่อยได้ว่าตัวเองไปประกวดได้ยังไง (ยิ้ม) ที่จำได้น่าจะเป็นการประกวดที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากมายค่ะ เหมือนครูส่งให้ไปประกวด ก็เอ้า..ไปประกวดเลย อะไรทำนองนี้ค่ะ แต่ตอนเด็ก หนูคิดว่าหนูคงร้องเพลงง่อยๆ หน่อยมั้งคะ (หัวเราะ) เสียงเด็กๆ น่าจะตลกๆ แต่เราก็จำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ว่าเหตุการณ์เป็นยังไง เราทำอะไรไว้บ้าง มีแต่รูปที่รู้ว่า อ่อ นี่เรานะ เคยร้องเพลงนะ
หนูมารู้ว่าตัวเองชอบร้องเพลงมากๆ น่าจะเป็นช่วง ป.6 ขึ้น ม.1 ตอนนั้นที่รู้ว่าตัวเองชอบก็ยังไม่เคยได้ไปประกวดที่ไหนนะคะ จะมีก็แค่ร้องเพลงอยู่ในโรงเรียน เป็นการประกวดเล็กๆ ที่โรงเรียน แต่ถ้าถามถึงตอนนี้ หนูคงจะตอบว่าหนูอยากเป็นนักร้อง หนูชอบดูคอนเสิร์ตของคนอื่น มีคนมาดูเขาเยอะแยะเลย เราก็อยากเป็นแบบนั้นบ้าง อยากให้มีคนร้องเพลงเราได้ คนมาดู มาฟังเรา ก็เลยคิดว่าน่าจะอยากเป็นนักร้อง
• แบบนี้เคยได้ไปเรียนร้องเพลงมาก่อนหรือเปล่า
อิมเมจเคยเรียนร้องเพลงตอนประถมค่ะ ตอนนั้นเรียนที่ KPN เห็นเพื่อนๆ เขาไปเรียนกันก็อยากเรียนบ้าง พอได้ยินคำว่าร้องเพลงก็รบเร้าให้แม่พาไปเรียน ทางบ้านก็จะสนับสนุนเต็มที่ ก็ลงเรียนไปคอร์สหนึ่ง พอขึ้นมัธยมก็ไม่มีเวลาไปเรียน มาได้เรียนอีกทีตอนอยู่มัธยมปีที่ 3
• แล้วนอกจากการร้องเพลง มีอย่างอื่นเกี่ยวกับดนตรีที่ชื่นชอบอีกบ้างหรือเปล่าคะ
ชอบเล่นเปียโนค่ะ ซึ่งเปียโนจะเรียนมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว แต่ก็พอเล่นได้ ไม่ได้ถือว่าเก่งมาก ส่วนตอนนี้ก็พยายามฝึกเล่นกีตาร์อยู่ค่ะ พยายามฝึกแต่ยังเล่นได้ไม่ดีเท่าไหร่ (หัวเราะ)
• พอรู้ตัวแล้วว่าเราเริ่มชอบร้องเพลง จนถึงขั้นไปเรียนร้องเพลง เคยคิดว่าการร้องเพลงเป็นพรสวรรค์ของตัวเองหรือเปล่า
หนูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันใช่พรสวรรค์ไหม จริงๆ หนูไม่ค่อยฝึกนะคะ เป็นคนขี้เกียจฝึก ตอนไปเรียน เขาให้ฝึกเสียง หนูก็จะไม่ค่อยได้ฝึก ส่วนใหญ่หนูจะได้มาจากการฟังมากกว่าค่ะ หนูชอบฟังเพลงเยอะมาก บางทีเราฟังหลายๆ แบบ เราก็เก็บมาใช้ได้
อิมเมจชอบฟังเพลงหลายแนว จะแล้วแต่เลยว่าช่วงนั้นเพลงไหนโดนใจ เมโลดี้ติดหู อิมเมจชอบเพลงสากลด้วยเพราะเป็นคนชอบเรียนภาษาอังกฤษ ก็เลยทำให้ชอบฟังเพลงสากลไปโดยปริยาย ส่วนเพลงไทยหนูก็ชอบเหมือนกันนะคะ
• ตอนนี้คิดว่าประสบการณ์ในการร้องเพลงมากขึ้นหรือยัง มีอะไรเกี่ยวกับการร้องเพลงหรือในแง่ของดนตรีที่อยากพัฒนาอีกบ้างคะ
อิมเมจว่าอิมเมจมีประสบการณ์มากขึ้นจากแต่ก่อนค่อนข้างเยอะนะคะ แต่ถ้าไปเทียบกับคนอื่นๆ พี่ๆ ในรายการ ส่วนตัวหนูก็คิดว่ายังน้อยอยู่ จริงๆ เราก็มีจุดด้อยอยู่ อิมเมจคิดว่ามันยังน่าจะพัฒนาไปได้อีกเรื่อยๆ คืออยากพัฒนาไปในทุกๆ ด้าน ตอนนี้เรายังมองไม่เห็นว่าเพดานเราสุดแค่ไหน มันยังไปได้อีกเรื่อยๆ อิมเมจก็จะไปอีกเรื่อยๆ เช่นกันค่ะ
ส่วนตอนนี้ก็คิดแค่ว่าอยากเล่นกีตาร์ อยากร้องเพลง ยังวนๆ อยู่แถวนี้ (หัวเราะ) อยากแต่งเพลงบ้าง ตอนนี้ก็มีแต่งไว้บ้างแล้วนะคะ เป็นเพลงของตัวเองเลย แต่ยังไม่เคยเอาไปร้องที่ไหน (ยิ้ม)
• ถามตรงๆ ไม่ได้แชมป์เดอะวอยซ์เราเสียใจไหม
ไม่เสียใจเลย (เน้นเสียง) เพราะว่าเราไม่ได้หวังตั้งแต่แรกแล้ว เราไม่ได้คิดว่าเราต้องได้ที่หนึ่งอยู่แล้ว เพราะแค่ได้ไปอยู่ตรงนั้นสำหรับหนูมันโอเคแล้วค่ะ จริงๆ ได้ตำแหน่งรองแชมป์มาหนูก็ดีใจมากแล้วนะคะ เพราะส่วนตัวหนูเองคิดว่าหนูมาถึงความฝันตั้งแต่ที่โค้ชหันมาแล้ว เพราะเสน่ห์ของรายการมันคือรอบแรกสุด (ยิ้ม)
• ถ้าจะว่าไปแล้ว อิมเมจได้อะไรจากเวทีเดอะวอยซ์บ้าง
เรียกว่าอิมเมจประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งเลยค่ะ ต้องขอบคุณทุกคนในรายการ ขอบคุณโค้ชทุกคน เพราะเวทีนี้ถ้าขาดใครไปคนหนึ่ง หนูอาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้ก็ได้ ยิ่งส่วนตัวโค้ชพี่แสตมป์เป็นโค้ชที่น่ารักมากๆ หนูไม่แน่ใจนะคะว่าทีมอื่นเป็นยังไง แต่หนูขอพูดถึงทีมที่หนูอยู่ พี่แสตมป์เขาจะใส่ใจกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ ในทีม ซึ่งคนในทีมก็จะคล้ายๆ กันที่เวลาร้องเพลง เราก็จะร้องออกมาจากความรู้สึก
อีกอย่างอิมเมจได้เพื่อน ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เยอะแยะเลยค่ะ ได้ออกทีวี ได้อะไรเยอะมาก อย่างเช่นทักษะการร้องเพลงซึ่งมีบางจุดที่ไม่ดี เราก็ช่วยกันแก้ไข เก็บกลับมาเป็นประสบการณ์ของตัวเอง
• ณ วันนี้ อิมเมจมีคนชื่นชอบเยอะมาก เรียกได้ว่าแฟนคลับเหนียวแน่นมากเลยทีเดียว
ถ้าเทียบกับเป้าที่เราตั้งคือแค่ให้โค้ชหันมารอบแรกก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วค่ะ อิมเมจตื่นเต้นนะคะ ดีใจมากจริงๆ เขาน่ารักกันมากเลยค่ะ ตัวหนูเองไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาชอบเรามากขนาดนั้น ส่วนใหญ่แฟนคลับจะเข้ามาให้กำลังใจในโซเชียลมีเดียทั้งเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม ก็จะมีเข้ามาตลอด เจอกันตัวจริง เขาก็น่ารัก มีของขวัญมีอะไรติดไม้ติดมือมาให้กัน (ยิ้ม)
• เห็นว่าตอนนี้อยู่ในช่วงใกล้สอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ส่วนตัวอิมเมจอยากเรียนคณะอะไร หรืออยากเรียนดนตรีตามที่เราชอบไหม
หนูอยากเข้าคณะเศรษฐศาสตร์ เพราะหนูคิดว่าถ้าเราไปเรียนทางด้านดนตรี เรากลัวว่าจะเบื่อ อย่างถ้าเรียนดนตรี อาจจะโดนบังคับร้องเพลง ต้องสอบต้องอะไร จากที่ชอบๆ มันก็จะกลายเป็นว่าไม่ชอบไปเลย อย่างตอนประถมที่เราชอบเลข เราก็ชอบสนุกดี บวกลบคูณหาร เราก็เฉยๆ พอมาเรียนเรื่องนั้นเพิ่ม เรื่องนี้เพิ่ม เอ้าทำแบบฝึกหัด เอ้าสอบมันเลยกลายเป็นว่าน่าเบื่อไปเลย ถามเด็กประถมชอบเลขหมดเลย แต่พอขึ้นมัธยมปุ๊บ คนที่ชอบเลขก็น้อยลง ตอนนี้ส่วนตัวอิมเมจไม่ได้เกลียดวิชาเลขนะ แต่เลี่ยงได้ก็จะเลี่ยง (หัวเราะ)
• เกลียดเลข แต่ก็เลือกเศรษฐศาสตร์?
ใช่ค่ะ แต่หนูคิดว่าทุกคณะน่าจะต้องเจอเลขเหมือนกันหมด (หัวเราะ) จริงๆ จบมาก็อยากเป็นนักร้องเหมือนเดิมค่ะ แต่ที่อยากเรียนสายนี้เพราะคิดว่ามีความรู้ไว้น่าจะดีกว่า (ยิ้ม
• ถ้าไม่ได้เป็นนักร้องล่ะคะ อยากเป็นอะไร
อยากลองเขียนหนังสือ เป็นช่างภาพ เพราะหนูชอบถ่ายรูป ชอบอ่านหนังสือแต่ไม่ค่อยชอบหนังสือเรียนนะคะ (หัวเราะ) แต่หนูจะชอบหนังสือแนวนวนิยายอย่างแฮร์รี่ พ็อตเตอร์ หนูจะอ่านบ่อยมาก อ่านจากเล่มหนึ่งไปเล่มเจ็ด เสร็จแล้วอ่านจากเล่มเจ็ด มาเล่มหนึ่ง อ่านหลายรอบมาก เพราะพอเราอ่านถึงเล่มเจ็ด อ้าว เราลืมแล้วว่าเล่มหนึ่งเป็นยังไง ก็ย้อนกลับไปอ่าน (หัวเราะ)
• มีน้องๆ เด็กๆ มาขอคำปรึกษาไหมคะว่า หนู/ผมอยากเป็นแบบพี่อิมเมจจังเลย
เขาไม่เชิงเข้ามาขอคำปรึกษาค่ะ ส่วนใหญ่คุณพ่อคุณแม่น้องจะจูงมาบอกกับหนูว่าเนี่ยน้องอยากร้องเพลงได้ น้องเรียนร้องเพลงอยู่นะ ซึ่งหนูคิดว่ามันดีนะคะ เหมือนว่าสมัยนี้มีอะไรให้ทำมากขึ้น เอาเวลาไปทำอะไรที่มีประโยชน์ได้มากขึ้น พ่อแม่เห็นความสำคัญของกิจกรรมที่นอกเหนือจากการเรียนมากขึ้น (ยิ้ม)
• ถ้าถามเรื่องไลฟ์สไตล์ตัวตนอิมเมจเป็นยังไงคะ เพราะเท่าที่สัมผัสเห็นในรายการเดอะวอยซ์อิมเมจดูห้าวๆ ลุยๆ พอตัวเหมือนกัน
อิมเมจจะดูเหมือนเป็นคนลุยๆ เพราะน่าจะเป็นที่การแต่งตัว ไม่ชอบหวีผมเพราะขี้เกียจหวี หวีไปแล้วก็ยุ่งอีก ไม่รู้จะหวีไปทำไมอะไรแบบนี้ (หัวเราะ) แต่จริงๆ หนูก็รักสวยรักงามนะ ก็อยากสวยเหมือนกัน แต่งหน้าก็มีบ้าง แต่จะทำเองไม่เป็น ตอนนั้นที่ประกวดเดอะวอยซ์ ได้แต่งหน้าครั้งแรก หนูตื่นเต้นนะคะ (หัวเราะ) แต่พอได้แต่งบ่อยๆ ก็มานั่งคิดถึงตอนล้าง มันก็ดึกไง ต้องมานั่งลบ (หัวเราะ) หลังๆ หนูก็จะบอกพี่ที่แต่งหน้าว่าขอเบาๆ ใสๆ ค่ะหนูขอเบาๆ จะได้ล้างง่ายๆ แต่ตอนแรกไม่นะคะ บอกพี่เขาเลยว่าพี่คะ หนูขอจัดเต็ม เอาตาโตๆ เลย (หัวเราะ)
จริงๆ ถ้าถามว่าหนูห้าวไหม หนูบอกเลยว่าหนูไม่ได้ตั้งใจจะเป็นคนห้าวเลยนะคะ แต่ผู้ชายกลัวหนูหมดเลย (หัวเราะ) ไม่มีใครจีบเลย มีอยู่ช่วงหนึ่ง หนูผมสั้นด้วย ก็จะมีแต่ผู้หญิงมาชอบ หนูจะบอกไปว่าไม่ใช่แบบนั้นนะ ไม่ได้เป็นทอม (หัวเราะ)
อีกอย่างหนูเป็นคนเส้นตื้นค่ะ ขำง่าย เจออะไรหน่อยก็ขำ อย่างตอนไปขอบคุณสื่อกับอีก 3 คนในเดอะวอยซ์ อิมเมจก็นั่งขำทั้งวันเลย (หัวเราะ) เพราะทุกคนนี่ดาวตลกกันมากเลย (ยิ้ม)
• ถ้าบอกว่าไม่ได้เป็นทอมแสดงว่าเราก็ชอบผู้ชาย แบบนี้มีสเปกของตัวเองบ้างไหมหรือเราวางมาตรฐานหนุ่มในฝันไว้อย่างไรบ้าง
หนูชอบคนหล่อค่ะ (หัวเราะ) เพราะถ้าหล่อ หนูก็อยากมองไง จุดแรกหนูก็จะดูที่หน้าตาก่อนเพราะมันเป็นอะไรที่ดึงดูดความสนใจได้ง่าย เพราะเราไม่สามารถมองหน้าแล้วทะลุเห็นนิสัยได้เลย แต่ถ้าจะชอบใครจริงๆ ชอบมากๆ เราคงต้องรู้จักกันอยู่แล้ว รู้จักนิสัยเขา เห็นว่าเขาเป็นยังไง เพราะถ้าชอบจริงๆ มันคงไม่ได้ชอบที่หน้าตาอยู่ดี คงต้องดูที่นิสัยค่ะ อีกอย่างหนูชอบคนสูงกว่าหนู สูงๆ ได้ยิ่งดี อย่าขาวมากเพราะถ้าเขาขาวมากๆ มันดูเขาบดบังรัศมีเรา เพราะเราก็ไม่ใช่คนขาวไง (หัวเราะ)
ไม่ชอบเลยก็ผู้ชายขาเล็ก เห็นแล้วอิจฉา (หัวเราะ) ซึ่งอิมเมจมีเพื่อนบางคนที่เป็นผู้ชายขาเล็กมาก ซึ่งตัวเขาก็จะบ่นว่าทำไมขาเขาเล็กจัง เราก็จะแบบ...เอ่อ...สลับกันไหม (หัวเราะร่วน)
• มาถึงจุดนี้ ภูมิใจในตัวเองไหมเพราะอายุยังน้อยแถมยังประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้
หนูคิดว่าตัวเองโชคดีหลายๆ อย่าง โชคดีมาตลอด ชาติที่แล้วทำบุญมาดี ชาตินี้ก็ต้องทำต่อ ชาติหน้าจะได้ดีต่อไปเรื่อยๆ (หัวเราะ)
• ท้ายนี้ เขาว่าอิมเมจเป็นสาวเสียงมหัศจรรย์ คิดยังไงบ้างกับคำคำนี้
ไม่ขนาดนั้นหรอก (ลากเสียงยาว) จริงๆ หนูก็ว่าหนูไม่ได้มหัศจรรย์อะไรเลยนะคะ มีคนชมเราก็ดี แต่ถ้าวันหนึ่งเราชมตัวเอง ก็จะกลายเป็นเราหลงตัวเองไปเลย ตอนนี้หนูดีใจที่มีคนมาชื่นชม แต่ส่วนตัวเราเองก็จะคิดเสมอว่า เราไม่ได้ดีขนาดนั้น
3 เรื่องที่อิมเมจรัก
ฟังเพลง
เพราะว่าพอเราได้ฟังเพลง เพลงมันก็จะซึมเข้ามาอยู่ในสมองเรา เราซึมเข้าไปอยู่ในเพลง เป็นการแลกเปลี่ยนกัน อิมเมจเป็นคนขี้ลืม ก็จะใช้วิธีการจำ อย่างตอนอ่านหนังสือ ถ้าเกิดเปิดเพลงไปด้วย พอนึกถึงเพลงนี้ หรือได้ยินเพลงนี้ เราก็จะจำได้ว่าตอนเพลงนี้เปิดเราอ่านเรื่องนี้อยู่นะ มันก็จะช่วยได้บ้างค่ะ มันเป็นอะไรที่เตือนความจำเราได้
ร้องเพลง
เพราะว่ามันเป็นการได้สื่อสารความรู้สึก ความคิดของเรา โดยสื่อสารออกมาเป็นเพลงได้
แต่งเพลง
แต่ก็แต่งยังไม่เก่งนะคะ อิมเมจชอบเพราะว่ามันเหมือนได้ใส่อะไรลงไป เราได้สร้างมันขึ้นมาเอง มันสนุกดี เหมือนเราได้ใส่ส่วนหนึ่งของเราลงไป อยากใส่อะไรก็ใส่ ตอนนี้ก็มีเริ่มแต่งๆ บ้างซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นแนวอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นเพลงเศร้า แต่หนูไม่ใช่คนเศร้านะคะ อย่างบางที หนูมีความสุขอยู่ แต่เพลงที่แต่งออกมาก็จะเป็นเพลงเศร้า เพราะเราชอบฟังเพลงเศร้า พอฟังบ่อยๆ เราก็ชอบความเศร้าในเพลงไปเลย หนูไม่ใช่คนซึมเศร้าอะไรนะ แต่เป็นคนคิดเยอะมันก็จะแตกออกมา บางทีมีความสุขอยู่ แต่สิ่งที่โชว์ออกมาในเพลงมันก็คือความเศร้า
Profile
ชื่อ : สุธิตา ชนะชัยสุวรรณ
ชื่อเล่น : อิมเมจ
อายุ : 16 ปี
วันเกิด : 28 มกราคม 2541
ศิลปินในดวงใจ : แสตมป์ อภิวัชร์, เทเลอร์ สวิฟต์ (ศิลปินหญิงชาวอเมริกัน นักร้องคนแรกที่ชื่นชอบมาก)
ผลงาน : การประกวดเวที the voice thailand 3, ถ่ายแบบและให้สัมภาษณ์ลงนิตยสาร, ร้องเพลงตามร้านอาหาร ตามงานต่างๆ
เรื่อง : วรัญญา งามขำ
ภาพ : พลภัทร วรรณดี