“เกิดมาเพื่อสร้างฝันหนุ่มๆ โดยแท้” หลายๆ คนคงคิดในทำนองเดียวกันอย่างที่ว่านี้ แต่เชื่อเถอะว่าไม่ใช่เฉพาะชายชาติอาชาไนยเท่านั้น เพราะสาวๆ หลายคนก็คงจะชื่นชอบไม่น้อยไปกว่ากัน

และนั่นคือสิ่งที่ “โอปอ” สาวน้อยวัย 24 ปี ซึ่งนอกจากจะเป็นเจ้าของธุรกิจร้านขายเสื้อผ้า ยังทำงานเป็นทั้งพริตตี้และเอ็มซี เกิดแรงบันดาลใจร่วมกันกับพี่ชายร่วมก่อร่างสร้างเพจเฟซบุ๊ก “เค้าเรียกหนูว่านางฟ้า” อันนี้ปณิธานแรงกล้าที่หวังสร้าง “โอกาส” ให้สาวๆ บ้านเกิดท้องถิ่นภูมิลำเนาอาศัยนอกเมืองหลวงอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวดวงเดียวกัน
ใครว่าเป็นนางฟ้าสาวพริตตี้แล้วจะสบายๆ … ถ้าไม่ใช่คนที่คลุกคลีในแวดวงการ
ใครว่าเป็นนางฟ้าลงรูปสวยๆ ไปวันๆ จะไร้ประโยชน์
นี่คือ ความรู้สึกของ “แกนนำพริตตี้” ที่ใจดีดั่ง “นางฟ้า” สมกับชื่อเพจ ด้วยการช่วยเหลือเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการ ให้มี “งาน” และ “เงิน”...

• อะไรเป็นจุดเริ่มต้นสร้างเพจรวมดาวสาวพริตตี้ต่างจังหวัดในนาม “เค้าเรียกหนูว่านางฟ้า”
เพราะว่าปอเรียนจบสาขาอีเวนต์ออแกไนซ์ ซึ่งเป็นสายตรงที่ต้องเกี่ยวข้องกับวงการพริตตี้ แล้วเราเองก็เป็นพริตตี้ด้วย แต่คือต้องบอกก่อนว่าหน้าตาเราก็ไม่ได้ดีถึงขนาดดีแบบ “born to be” หรือเกิดมาเพื่อจะเป็นพริตตี้ แต่เพราะเราได้รับโอกาสจากรุ่นพี่ชักชวนไปทำงาน และภายในระยะเวลาหนึ่งปี เราก็กลายเป็นที่รู้จัก มีงานเลี้ยงชีพตัวเองพอสมควรในวงการพริตตี้จังหวัดเชียงใหม่
พอมาวันนี้เราเป็นรุ่นพี่เขาบ้าง เราจึงอยากเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเปิดโอกาสให้น้องๆ รุ่นใหม่ที่เป็นพริตตี้เหมือนเรา เพราะจริงๆ สาวๆ พริตตี้จังหวัดเชียงใหม่ พริตตี้โซนทางภาคเหนือหรือภาคอีกสาน เราก็สวยและมีความสามารถไม่แพ้พริตตี้ Top 10 พริตตี้สาวกรุงเทพฯ เลย
• นั่นจึงเป็นการนำมาซึ่งการประชาสัมพันธ์เพจเฟซบุ๊ก
ค่ะ...เพราะพื้นฐาน ปอเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดและโตที่นั่น จนกระทั่งได้มีโอกาสสอบติดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทำให้เราได้มีโอกาสขึ้นมาสัมผัสคนภาคเหนือ นี่ก็เข้าปีที่ 5 ที่ 6 แล้วที่อยู่ที่นี่ ซึ่งจากชีวิตและการการทำงาน ทำให้เรารู้ว่า “โอกาส” เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการที่จะมีชื่อเสียงมีงานที่ดีขึ้น ล้วนแล้วแต่ต้องได้โอกาสทำในงานใหญ่ อย่างเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์
แต่ด้วยความที่เหตุผลเรื่องการเดินทางสำหรับบางคนมันอาจจะไม่คุ้มที่จะเสียค่าเดินทางหรือเวลาเพื่อไปแคสต์งาน และที่สำคัญที่สุดคือพอเราไปพิสูจน์ความสามารถจนประสบความสำเร็จ แต่พอกลับมาที่ภูมิลำเนาตัวเองเรตราคาก็เท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้นแต่ไม่มาก ทั้งๆ ที่ความสามารถและหน้าตา การันตีได้ว่า ไม่ต่างกัน
ปอก็อยากให้คนที่รักบ้านเกิดเขามีชื่อ คนที่เขาต้องเลือกรับค่าตอบแทนที่ต่ำกว่า แต่ได้อยู่ดูแลครอบครัว ทั้งๆ ที่หลายคนมีความสามารถ มีความเฟรช มีหน้าตา มีเอกลักษณ์ ถึงขนาดยืนมอเตอร์โชว์สบายๆ ในกรุงเทพฯ ได้ แต่เขาเลือกที่จะดูแลครอบครัว ปอเลยคิดว่าคนแบบนี้น่าจะได้รับการผลักดัน

• ที่ว่าเรตราคาน้อยกว่าเพราะอยู่ท้องถิ่นที่ไม่ใช่เมืองหลวงนี่ราคาเท่าไหร่
คือปกติพริตตี้ เราจะมีเรตพื้นฐานที่เราเป็นที่รู้ทั่วกันดีอยู่แล้ว คือเอาทั่วประเทศมาบวกลบกัน มันจะต่างกันไม่มาก อย่างพริตตี้อัตราค่าตอบแทนก็ตกอยู่ที่ 1,500 - 2,500 บาท พริตตี้เอ็มซี 2,000 - 4,000 บาท ถ่ายแบบแฟชั่นประมาณ 1,500 - 4,000 บาท ส่วนจะมากหรือน้อยต้องดูรายละเอียดงานกันตามเนื้องาน
• หลักๆ นอกจากจะลงรูป ระบุชื่อจริง นามสกุลจริง เพื่อให้ผู้ว่าจ้างหรือคนทั่วไปรู้จักแล้ว เราทำอะไรอย่างอื่นเพิ่มเติมบ้างไหม เช่น เป็นผู้ติดต่อประสานงาน หรือรับงานคล้ายโมเดลลิ่ง
ก็มีค่ะ...มีในกรณีที่ถ้าใครติดต่อผ่านเรา แต่โดยส่วนใหญ่แล้วคือหลักๆ เราลงรูปลงชื่อแนะนำสาวๆ พริตตี้ที่ทำงานหลักๆ อยู่ทางภาคเหนือ ภาคอีกสาน แล้วเราก็จะมีการเรียกไลค์ อย่างเช่น ถ้าคนนี้ถึง 200 ไลค์ เราจะเปิดวาร์ป ซึ่งคำว่า “วาร์ป” ในที่นี้ หมายถึง การให้ลิงก์เฟซบุ๊กเจ้าตัว ให้ติดต่อว่าจ้างกันโดยตรง
ก็อย่างที่บอกไป คือเราทำตรงนี้เพื่อให้พริตตี้มีชื่อเป็นที่รู้จัก มีงานเข้ามาเสริมเรื่อยๆ เท่านั้น ดังนั้น สามารถเชื่อถือได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนที่เราลงรูปคือพริตตี้จริงๆ ที่ทำหน้าที่ตรงนี้อย่างสุจริต เพราะจากที่เราทำงานเรารู้จักทุกคนและทุกคนก็รู้จักเรา
• การแนะนำตัวให้เป็นที่รู้จักนี้ เราเป็นคนคัดเองหรือว่าเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม
เราติดต่อไปค่ะ ก็ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เราเคยร่วมงานกัน พริตตี้สาวเชียงใหม่ พริตตี้ทางภาคเหนือจึงค่อนข้างจะเยอะกว่าภาคอีสานและภาคกลาง ส่วนเรื่องรูป เราก็ขออนุญาตให้เขาส่งมาให้เรา ให้เขาเลือกรูปที่มั่นใจที่สุด จะว่าคล้ายแคสต์งานก็ได้นะ แค่เพียงว่าแคสต์แนะนำให้กลุ่มกองเซ็นเตอร์
• แล้วกระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง ได้ตรงตามเป้าอย่างที่เราคิดไว้ไหม
ก็มีคนให้ความสนใจนะคะทั้งคนทั่วไป คนที่ทำงานด้านนี้และตัวพริตตี้เอง แต่คือเพจ “เค้าเรียกหนูว่านางฟ้า” ปอเพิ่งเริ่มทำกับพี่ชายได้เดือนเศษๆ เอง ก็ยังไม่ถึงหมื่นคนสำหรับคนที่กดติดตามแฟนเพจ แต่ถึงแม้เพจนี้จะยังไม่ดัง แต่ปอก็คิดว่า อย่างน้อยๆ เราก็ได้สร้างโอกาสของเราขึ้นมาเองแล้ว ดีกว่าอยู่รอเฉยๆ
คืออยากจะบอกว่าปอทำเพราะว่าเราเคยได้รับโอกาสจริงๆ เราจึงอยากเป็นคนหนึ่งที่ทำให้คนอื่นๆ มีบ้างเหมือนกัน ส่วนบางคนอาจจะดัง บางคนอาจจะไม่ดัง แต่เขาก็ควรมีโอกาสสักครั้งที่เป็นที่รู้จักและมีคนชื่นชมค่ะ







ภาพประกอบ : เพจเฟซบุ๊กเค้าเรียกหนูว่านางฟ้า
และนั่นคือสิ่งที่ “โอปอ” สาวน้อยวัย 24 ปี ซึ่งนอกจากจะเป็นเจ้าของธุรกิจร้านขายเสื้อผ้า ยังทำงานเป็นทั้งพริตตี้และเอ็มซี เกิดแรงบันดาลใจร่วมกันกับพี่ชายร่วมก่อร่างสร้างเพจเฟซบุ๊ก “เค้าเรียกหนูว่านางฟ้า” อันนี้ปณิธานแรงกล้าที่หวังสร้าง “โอกาส” ให้สาวๆ บ้านเกิดท้องถิ่นภูมิลำเนาอาศัยนอกเมืองหลวงอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวดวงเดียวกัน
ใครว่าเป็นนางฟ้าสาวพริตตี้แล้วจะสบายๆ … ถ้าไม่ใช่คนที่คลุกคลีในแวดวงการ
ใครว่าเป็นนางฟ้าลงรูปสวยๆ ไปวันๆ จะไร้ประโยชน์
นี่คือ ความรู้สึกของ “แกนนำพริตตี้” ที่ใจดีดั่ง “นางฟ้า” สมกับชื่อเพจ ด้วยการช่วยเหลือเพื่อนพ้องน้องพี่ในวงการ ให้มี “งาน” และ “เงิน”...
• อะไรเป็นจุดเริ่มต้นสร้างเพจรวมดาวสาวพริตตี้ต่างจังหวัดในนาม “เค้าเรียกหนูว่านางฟ้า”
เพราะว่าปอเรียนจบสาขาอีเวนต์ออแกไนซ์ ซึ่งเป็นสายตรงที่ต้องเกี่ยวข้องกับวงการพริตตี้ แล้วเราเองก็เป็นพริตตี้ด้วย แต่คือต้องบอกก่อนว่าหน้าตาเราก็ไม่ได้ดีถึงขนาดดีแบบ “born to be” หรือเกิดมาเพื่อจะเป็นพริตตี้ แต่เพราะเราได้รับโอกาสจากรุ่นพี่ชักชวนไปทำงาน และภายในระยะเวลาหนึ่งปี เราก็กลายเป็นที่รู้จัก มีงานเลี้ยงชีพตัวเองพอสมควรในวงการพริตตี้จังหวัดเชียงใหม่
พอมาวันนี้เราเป็นรุ่นพี่เขาบ้าง เราจึงอยากเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเปิดโอกาสให้น้องๆ รุ่นใหม่ที่เป็นพริตตี้เหมือนเรา เพราะจริงๆ สาวๆ พริตตี้จังหวัดเชียงใหม่ พริตตี้โซนทางภาคเหนือหรือภาคอีกสาน เราก็สวยและมีความสามารถไม่แพ้พริตตี้ Top 10 พริตตี้สาวกรุงเทพฯ เลย
• นั่นจึงเป็นการนำมาซึ่งการประชาสัมพันธ์เพจเฟซบุ๊ก
ค่ะ...เพราะพื้นฐาน ปอเป็นคนกรุงเทพฯ เกิดและโตที่นั่น จนกระทั่งได้มีโอกาสสอบติดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทำให้เราได้มีโอกาสขึ้นมาสัมผัสคนภาคเหนือ นี่ก็เข้าปีที่ 5 ที่ 6 แล้วที่อยู่ที่นี่ ซึ่งจากชีวิตและการการทำงาน ทำให้เรารู้ว่า “โอกาส” เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการที่จะมีชื่อเสียงมีงานที่ดีขึ้น ล้วนแล้วแต่ต้องได้โอกาสทำในงานใหญ่ อย่างเป็นพริตตี้มอเตอร์โชว์
แต่ด้วยความที่เหตุผลเรื่องการเดินทางสำหรับบางคนมันอาจจะไม่คุ้มที่จะเสียค่าเดินทางหรือเวลาเพื่อไปแคสต์งาน และที่สำคัญที่สุดคือพอเราไปพิสูจน์ความสามารถจนประสบความสำเร็จ แต่พอกลับมาที่ภูมิลำเนาตัวเองเรตราคาก็เท่าเดิม หรือเพิ่มขึ้นแต่ไม่มาก ทั้งๆ ที่ความสามารถและหน้าตา การันตีได้ว่า ไม่ต่างกัน
ปอก็อยากให้คนที่รักบ้านเกิดเขามีชื่อ คนที่เขาต้องเลือกรับค่าตอบแทนที่ต่ำกว่า แต่ได้อยู่ดูแลครอบครัว ทั้งๆ ที่หลายคนมีความสามารถ มีความเฟรช มีหน้าตา มีเอกลักษณ์ ถึงขนาดยืนมอเตอร์โชว์สบายๆ ในกรุงเทพฯ ได้ แต่เขาเลือกที่จะดูแลครอบครัว ปอเลยคิดว่าคนแบบนี้น่าจะได้รับการผลักดัน
• ที่ว่าเรตราคาน้อยกว่าเพราะอยู่ท้องถิ่นที่ไม่ใช่เมืองหลวงนี่ราคาเท่าไหร่
คือปกติพริตตี้ เราจะมีเรตพื้นฐานที่เราเป็นที่รู้ทั่วกันดีอยู่แล้ว คือเอาทั่วประเทศมาบวกลบกัน มันจะต่างกันไม่มาก อย่างพริตตี้อัตราค่าตอบแทนก็ตกอยู่ที่ 1,500 - 2,500 บาท พริตตี้เอ็มซี 2,000 - 4,000 บาท ถ่ายแบบแฟชั่นประมาณ 1,500 - 4,000 บาท ส่วนจะมากหรือน้อยต้องดูรายละเอียดงานกันตามเนื้องาน
• หลักๆ นอกจากจะลงรูป ระบุชื่อจริง นามสกุลจริง เพื่อให้ผู้ว่าจ้างหรือคนทั่วไปรู้จักแล้ว เราทำอะไรอย่างอื่นเพิ่มเติมบ้างไหม เช่น เป็นผู้ติดต่อประสานงาน หรือรับงานคล้ายโมเดลลิ่ง
ก็มีค่ะ...มีในกรณีที่ถ้าใครติดต่อผ่านเรา แต่โดยส่วนใหญ่แล้วคือหลักๆ เราลงรูปลงชื่อแนะนำสาวๆ พริตตี้ที่ทำงานหลักๆ อยู่ทางภาคเหนือ ภาคอีกสาน แล้วเราก็จะมีการเรียกไลค์ อย่างเช่น ถ้าคนนี้ถึง 200 ไลค์ เราจะเปิดวาร์ป ซึ่งคำว่า “วาร์ป” ในที่นี้ หมายถึง การให้ลิงก์เฟซบุ๊กเจ้าตัว ให้ติดต่อว่าจ้างกันโดยตรง
ก็อย่างที่บอกไป คือเราทำตรงนี้เพื่อให้พริตตี้มีชื่อเป็นที่รู้จัก มีงานเข้ามาเสริมเรื่อยๆ เท่านั้น ดังนั้น สามารถเชื่อถือได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ทุกคนที่เราลงรูปคือพริตตี้จริงๆ ที่ทำหน้าที่ตรงนี้อย่างสุจริต เพราะจากที่เราทำงานเรารู้จักทุกคนและทุกคนก็รู้จักเรา
• การแนะนำตัวให้เป็นที่รู้จักนี้ เราเป็นคนคัดเองหรือว่าเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม
เราติดต่อไปค่ะ ก็ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เราเคยร่วมงานกัน พริตตี้สาวเชียงใหม่ พริตตี้ทางภาคเหนือจึงค่อนข้างจะเยอะกว่าภาคอีสานและภาคกลาง ส่วนเรื่องรูป เราก็ขออนุญาตให้เขาส่งมาให้เรา ให้เขาเลือกรูปที่มั่นใจที่สุด จะว่าคล้ายแคสต์งานก็ได้นะ แค่เพียงว่าแคสต์แนะนำให้กลุ่มกองเซ็นเตอร์
• แล้วกระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง ได้ตรงตามเป้าอย่างที่เราคิดไว้ไหม
ก็มีคนให้ความสนใจนะคะทั้งคนทั่วไป คนที่ทำงานด้านนี้และตัวพริตตี้เอง แต่คือเพจ “เค้าเรียกหนูว่านางฟ้า” ปอเพิ่งเริ่มทำกับพี่ชายได้เดือนเศษๆ เอง ก็ยังไม่ถึงหมื่นคนสำหรับคนที่กดติดตามแฟนเพจ แต่ถึงแม้เพจนี้จะยังไม่ดัง แต่ปอก็คิดว่า อย่างน้อยๆ เราก็ได้สร้างโอกาสของเราขึ้นมาเองแล้ว ดีกว่าอยู่รอเฉยๆ
คืออยากจะบอกว่าปอทำเพราะว่าเราเคยได้รับโอกาสจริงๆ เราจึงอยากเป็นคนหนึ่งที่ทำให้คนอื่นๆ มีบ้างเหมือนกัน ส่วนบางคนอาจจะดัง บางคนอาจจะไม่ดัง แต่เขาก็ควรมีโอกาสสักครั้งที่เป็นที่รู้จักและมีคนชื่นชมค่ะ
ภาพประกอบ : เพจเฟซบุ๊กเค้าเรียกหนูว่านางฟ้า