ASTVผู้จัดการ – ชาวเน็ตหยิบข่าวผู้นำเกาหลีเหนือในเว็บ manager เปลี่ยนหัวข้อ-โปรย ระบุ “คิม จองอึน เตรียมบอมบ์ทุกเมื่อหากทีมฟุตบอลถูกโกงนัดชิงเหมือนทีมไทย” คนแชร์ว่อนระบายความอัดอั้นหลังบอลไทยแพ้เกาหลีใต้ ทั้งที่ข่าวจริงไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย เว็บมาสเตอร์ระบุเข้าใจว่าล้อเล่น แต่ต้องมีขอบเขต เพราะอาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ นำเข้าข้อมูลเท็จ สร้างความเข้าใจผิด
ผลพวงจากการแข่งขันฟุตบอลชายในกีฬาเอเชียนเกมส์ ที่อินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ช่วงค่ำวานนี้ (30 ก.ย.) ซึ่งทีมชาติไทยพ่ายให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ 2 ประตูต่อ 0 โดยแฟนบอลชาวไทยจำนวนไม่น้อยแสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินของผู้ตัดสินว่าเข้าข้างเจ้าภาพมากเกินไป จนก่อให้ในโลกออนไลน์เกิดการล้อเลียนเกมการแข่งขันดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้ ประเด็นหนึ่งที่มีการหยิบยกขึ้นมาล้อเลียน คือ กรณีที่ทีมชาติเกาหลีใต้จะต้องเข้าไปชิงชนะเลิศ เพื่อแย่งเหรียญทองกับทีมชาติเกาหลีเหนือ คู่ปรับในวันที่ 2 ต.ค. นี้ ทำให้ชาวไทยจำนวนไม่น้อยหยิบ นายคิม จองอึน ผู้นำหนุ่มของเกาหลีเหนือขึ้นมาเป็นตัวแทนในการระบายอารมณ์ อย่างไรก็ตาม การล้อเล่น-ล้อเลียน เพื่อระบายอารมณ์บางประการก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในวงกว้าง
ตั้งแต่ค่ำวานนี้ถึงวันนี้ (1 ต.ค.) ในโลกโซเชียลมีการส่งต่อภาพข่าวชิ้นหนึ่งไปในวงกว้าง ระบุหัวข้อว่า “คิม จองอึน” ประกาศกร้าว พร้อมบอมบ์ทุกเมื่อหากทีมฟุตบอลถูกโกงนัดชิงเหมือนทีมไทย พร้อมโปรยข่าวระบุว่า ผู้นำเกาหลีเหนือพร้อมสั่งบอมบ์ขีปนาวุธทุกเมื่อกับผู้เกี่ยวข้อง... โดยมีการลิงก์ข่าวมาที่ www.manager.co.th ซึ่งก็คือ เว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ส่งผลให้มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงข่าวชิ้นดังกล่าวที่ถูกนำไปลิงก์และแชร์ต่อนั้นมีหัวข้อว่า “ลือ “คิม จองอึน” มีปัญหาสุขภาพ หลังไม่โผล่ประชุมสภาโสมแดง” โดยเป็นข่าวต่างประเทศของเว็บไซต์ www.manager.co.th ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่มีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างไทยกับเกาหลีใต้เสียด้วยซ้ำ
นายนิรันดร์ เยาวภาว์ เว็บมาสเตอร์ของเว็บไซต์ ASTVผู้จัดการ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า เข้าใจว่าการนำลิงก์ข่าวจากเว็บไซต์ไปเปลี่ยนพาดหัวและโปรยข่าวดังกล่าวเป็นการกระทำเพื่อประสงค์ที่จะล้อเล่น อาจด้วยความคึกคะนอง หรือเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจส่วนบุคคล แต่การกระทำดังกล่าวอาจสร้างความเข้าใจผิดให้แก่บุคคลทั่วไป และทำให้คนเข้าใจผิดได้ว่าเป็นข่าวจากเว็บไซต์ www.manager.co.th ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าว แต่กลับนำเสนอเรื่องราวที่เป็นเท็จ
นอกจากนี้ การกระทำดังกล่าวก็อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ซึ่งในมาตรา 14 (1) ระบุว่า การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน มีโทษตามที่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. นายนิรันดร์กล่าวเสริม
สำหรับข่าวดังกล่าวจากเฟซบุ๊กเพจของวัยรุ่นคนหนึ่งมีผู้กดไลก์นับพันครั้ง ทั้งยังมีการนำข่าวไปแชร์ต่อนับร้อยครั้ง ขณะที่ผู้ที่เข้ามาแสดงความเห็นบางส่วนก็ระบุว่า
Gu Indyz - พาดหัว กับเนื้อหาข่าว คนล่ะเรื่องเลยอ่ะ
Laksamee Giftsy - อ่านในเนื้อหาข่าวยังไม่เจอประโยคพาดหัวเลยค่ะ....
Bbz Zolados - เปลี่ยนหัวข้อขำๆ น่ะ อย่าเครียดนะคับ 555
ด้านเจ้าของเพจก็ออกมายอมรับว่า “เราก็ไม่ทราบคะเพราะเราแชร์ก็แชร์ในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ใช่คนเปลี่ยนกระทู้ข่าว จะสังเกตได้ว่าเราแชร์มา ซึ่งกระทู้ข่าวตั้งเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ที่เกิดการแชร์เยอะเพราะเราอาจจะเป็นคนนึงที่มีคนติดตามพอสมควร ข่าวจึงกระจายเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นอย่าจริงจังเลยคะ”
Larly Bird Jongtanapiman - แชร์ = แบ่งปัน แปลว่าจะมีคนอื่นพบเห็นด้วยจะบอกว่าพื้นที่ส่วนตัวก็คงไม่ถูกนัก เล่นเอาฮาเฮก็ต้องมีขอบเขตนะครัชแหม่