xs
xsm
sm
md
lg

พลิกปูม “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีคนที่ 29

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา-ภาพจากแฟ้ม
ที่สุดแล้ว ประเทศไทยก็ได้ผู้นำประเทศคนใหม่ ตามความคาดหมาย คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ และผู้บัญชาการทหารบก โดยทางสภานิติบัญญัติ หรือ สนช.ได้ออกเสียงเห็นชอบ 191 เสียง งดออกเสียง 3 ให้พล.อประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของประเทศไทย

สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เกิดเมื่อวันที่ 21เดือนมีนาคม 2497 ที่ จ.นครราชสีมา เป็นบุตรชายของ พ.อ.(พิเศษ) ประพัฒน์ และ นางเข็มเพชร จันทร์โอชา เป็นบุตรชายคนโตจากพี่น้องทั้งหมดสี่คน หนึ่งในน้องชายคือ พล.ท. ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3

ด้านชีวิตครอบครัว สมรสกับ รศ.นราพร จันทร์โอชา อดีตอาจารย์ประจำสถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีบุตรสาว 2 คน คือ นางสาวธัญญา จันทร์โอชา และนางสาวนิฏฐา จันทร์โอชา

พล.อ.ประยุทธ์สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนวัดนวลนรดิศ จากนั้นได้ไปศึกษาต่อจนจบมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จ.ลพบุรี ก่อนสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 12 และนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 23

เมื่อสำเร็จการศึกษา และเดินจากรั้วโรงเรียนนายร้อยฯ พล.อ.ประยุทธ์ รับราชการครั้งแรก ยศ "ร้อยตรี" ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) และเติบโตในหน่วยนี้มาโดยตลอด เป็นผู้บังคับกองพัน จนถึงผู้บังคับการกรม จากนั้นได้ขยับขึ้นไปยังกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ร.2 รอ.) และก้าวขึ้นเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 1 แม่ทัพภาคที่ 1

กระทั่งผงาดขึ้นเป็น ผบ.ทบ.คนที่ 37 ต่อจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2553

บทบาทสำคัญของพล.อ.ประยุทธ์ ได้รับตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551 ถึง 14 กันยายน พ.ศ. 2551 และรับตำแหน่งรองผู้อำนวยการกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารบกต่อจาก พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่เกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2553[3] ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2557 ได้แถลงการณ์ 7 ข้อ ระบุถึงสถานการณ์ที่มีแนวโน้มการเกิดจลาจล ทำให้ทหารต้องออกมาระงับอย่างเต็มรูปแบบ และได้ประกาศใช้กฎอัยการศึก เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ทั่วราชอาณาจักร เพื่อรักษาความสงบและจัดตั้ง กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ขึ้นมาดูแลสถานการณ์ เพื่อเป็นตัวกลางในการนำผู้ขัดแย้งมาหาทางออกให้กับประเทศ แต่สุดท้ายก็หาข้อสรุปไม่ได้

ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ประกาศยึดอำนาจจัดตั้งคสช.เพื่อบริหารประเทศ จากนั้นได้มีการกำหนดแผนโรดแมป 3 ขั้นและให้มีการจัดตั้ง สนช.เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อบริหารประเทศ

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายทหารที่มีความสนิทสนมกับ พล.อ.อนุพงษ์ เป็นอย่างมาก ด้วยความเป็นผู้ใต้บังคับบัญชามาตลอดในกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ โดยพล.อ.ประยุทธ์นับถือ พล.อ.อนุพงษ์เสมือนพี่และอาจารย์คนหนึ่งของตน โดยพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายทหารที่มีบุคลิกที่อ่อนนุ่ม โดยมักติดคำว่า "นะจ๊ะ" ต่อท้ายการพูด จึงได้รับอีกชื่อหนึ่งจากสื่อมวลชนว่า "ตู่นะจ๊ะ"

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายทหารอีกคนที่มีความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะกี่ครั้ง หากรับรู้ว่าสถาบันสูงสุดของประเทศถูกวิจารณ์พาดพิงจากบุคคลกลุ่มใดฝ่ายไหน ก็จะโต้ตอบทันทีด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและจริงจัง

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเคยได้รับการโหวตให้เป็น สุดยอด CEO ของภาคราชการและเจ้าหน้าที่รัฐแห่งปี 2554 ในความทรงจำและขวัญใจของตัวแทนกลุ่มธุรกิจ SME ด้วยผลโพลสำรวจถึงร้อยละ 59.1

ย้อนกลับไปวัยเด็ก ทางนิตยสาร นิตยสารชัยพฤกษ์ ของสำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช ปี 2512ได้เคยสัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ในในคอลัมน์ "เรียนดี" บทสัมภาษณ์ดังกล่าวระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก. ของโรงเรียนวัดนวลนรดิศ ประวัติการเล่าเรียนตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นี้ ไม่เคยได้ต่ำกว่า 80 เปอร์เซ็นต์

ประยุทธ์เป็นบุตรของ พ.ท.ประพัฒน์ และนางเข็มเพชร จันทร์โอชา เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2497ขณะนั้นตอนมีอายุได้ 15 ปี นับว่าเรียนได้เร็วสมกับเป็นคนเรียนเก่ง ประยุทธ์เป็นบุตรคนโตในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 4 คนโดยที่ต้องทำตัวเป็นพี่ที่ดี ในบางครั้งเขาจึงแลดูขรึมเป็นผู้ใหญ่กว่าวัย

การเรียนชั้นประถมนั้น ประยุทธ์เรียนที่โรงเรียนสหกิจวิทยา จังหวัดลพบุรี เขาเรียนอยู่ที่นั่นจนจบชั้นประถมปีที่ 7จึงได้ย้ายไปเรียนต่อที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัยในจังหวัดเดียวกัน ประยุทธ์เรียนอยู่ที่โรงเรียนพิบูลวิทยาลัยเพียงปีเดียวจากนั้นได้เข้ามาเรียนต่อที่โรงเรียนวัดนวลนรดิศ โดยที่บิดาของประยุทธ์เป็นนายทหาร จึงย้ายที่ทำการไปตามที่ต่างๆและครั้งหลังสุดนี้ไปประจำการอยู่ที่ค่ายธนะรัชต์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เมื่อถูกถามว่า ถ้าสอบได้ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้ว จะสอบเข้าเรียนต่อที่ไหน ประยุทธ์บอกกับผู้สัมภาษณ์ว่าเขาตั้งใจจะเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมทหาร และหวังว่าจะได้เป็นทหารบกในอนาคต

ประยุทธ์เป็นนักเรียนที่ใช้เวลาให้หมดไปกับหนังสือ ในวันหยุดจะไม่มีใครเห็นเขาวิ่งเล่นเช่นเด็กรุ่นเดียวกันเลยเขาดูหนังสือแบบทวนตั้งแต่ต้นจนกระทั่งจบแล้วขึ้นทวนใหม่ ทำเช่นนี้หลายๆ หน ก็จำวิชาที่เรียน และเข้าใจวิชานั้นๆอย่างถ่องแท้เมื่อติดขัดไม่เข้าใจวิชาอะไร เขาก็ถามพี่ๆ ที่บ้าน ในวันธรรมดาเขาใช้เวลาทวนวิชาเรียนตอนหลังอาหารเย็นไปจนถึงสี่ทุ่มจึงจะเข้านอน ตอนเช้าไม่มีเวลาดูหนังสือเพราะต้องรีบไปโรงเรียน ประยุทธ์บอกว่าดูหนังสือจนถึงสี่ทุ่มก็พอแล้ว เพราะเขาดูอย่างสม่ำเสมอ จึงไม่ต้องรีบร้อนดูตอนระยะใกล้สอบ

วิชาที่ประยุทธ์ถนัดเป็นพิเศษ ได้แก่คณิตศาสตร์ อังกฤษ และวิทยาศาสตร์ นอกจากจะเก่งวิชาเหล่านี้แล้วประยุทธ์ยังชอบเรียนวิชาพวกนี้อีกด้วย เขาให้เหตุผลว่าถ้าจะเรียนอะไรก็ตามที่ให้ได้ผล ควรจะมีใจรักในสิ่งนั้นๆ ด้วยนอกจากจะเป็นคนที่รักการเรียนเองแล้ว ประยุทธ์ยังได้รับการสนับสนุนในการเรียนจากบิดามารดา นับได้ว่าประยุทธ์เป็นเด็กโชคดีที่จะมีโอกาสดำเนินชีวิตผิดไปได้ยากมาก

ผลการสอบภาคกลาง ประยุทธ์ได้ 65 เปอร์เซ็นต์ กับผู้สัมภาษณ์ประยุทธ์บอกว่า การสอบทุกครั้งนั้นถึงแม้ตัว เขาจะได้เตรียมพร้อมมาแต่เนิ่นๆ แต่ก็อดมิได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น ขณะที่ทำการสอบมักจะตอบอย่างระมัดระวัง เมื่อทำเสร็จแล้วจะอ่านทานว่าที่ตอบไปนั้น ตอบไปตามภูมิความรู้ทั้งหมดที่ได้เรียนมาหมดหรือเปล่า

ประยุทธ์บอกว่า หนังสือที่ใช้เรียนในห้องเรียนยังไม่มากพอตามความต้องการของเขาเอง เพราะฉะนั้นเขาจึงหาหนังสืออื่นๆที่เป็นหนังสือนอกหลักสูตรไว้อ่านเพื่อประดับความรู้ หนังสือที่อ่านเป็นประจำได้แก่ "ชัยพฤกษ์" ประยุทธ์พูดกับ ผู้สัมภาษณ์ว่า "ผมอ่านชัยพฤกษ์ เพราะได้ความรู้มากครับ"

ประยุทธ์แม้จะเป็นคนขรึม แต่เขาก็เป็นคนมีน้ำใจ เมื่อกลับจากโรงเรียน เขามักจะช่วยพี่น้องทำงานบ้านทั่วๆ ไปเป็นต้นว่า รดน้ำต้นไม้ กวาดลานบ้าน แม้จะต้องทำงานบ้าง เขาก็พอใจด้วยเหตุที่ว่าความสำเร็จในชีวิตข้างหน้านั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเรียนหนังสือแต่อย่างเดียว ถึงเขาจะมุ่งดูหนังสือมากแต่ก็ยังมีเวลาสำหรับการบันเทิง เมื่อรู้สึกเมื่อยล้าจากการดูหนังสือเขาจะหยุดทันทีและหันมาดูอย่างอื่นเป็นการพักผ่อนสมองแทน เช่น ดูทีวีประยุทธ์ชอบดูหนังญี่ปุ่น และหนังสารคดีต่างแดน

ความหวังของประยุทธ์อยู่ที่การเป็นทหารบก เพราะได้รับแรงดลใจจากบิดาซึ่งเป็นนายทหารเชื่อแน่ว่าความหวังของประยุทธ์จะเป็นผลสำเร็จภายในเวลาอันเร็วนี้

จนมาถึงวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2557 สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 191 เสียงจากจำนวนสมาชิกในที่ประชุม 194 คน ให้เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพระมหากษัตริย์จะทรงแต่งตั้งตามมาตรา 19 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
กำลังโหลดความคิดเห็น