ผบ.ทร.รับมอบ “เรือหลวงมาตรา"” หนุนภารกิจน้ำมันเชื้อเพลิง

กองทัพเรือจัดพิธีรับมอบเรือน้ำมัน ขนาดระวางบรรทุกน้ำมัน 1,200 กิโลลิตร “ในหลวง” พระราชทานชื่อ “เรือหลวงมาตรา”

วันนี้ (27 มิ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ กองบัญชาการ กองเรือยกพลขึ้นบก และยุทธบริการ แขวงบางนา เขตบางนา พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธีรับมอบเรือน้ำมันจาก พล.ร.ต. ทวีศักดิ์ ดีรอด กรรมการผู้จัดการ บริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด โดยมี พล.ร.อ.พิจารณ์ ธีรเนตร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ และ พล.ร.ต.ธานินทร์ ลิขิตวงศ์ ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบก และยุทธบริการ ให้การต้อนรับ

โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ.ณรงค์ ได้ให้โอวาทแก่กำลังพลประจำเรือน้ำมัน ตอนหนึ่งว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมากองทัพเรือ พัฒนาขีดความสามารถกองกำลังทางเรือ เพื่อสนองภารกิจการรักษาอธิปไตยและความมั่นคงทางทะเล จึงมีความจำเป็นที่กองทัพเรือต้องจัดหาเรือน้ำมันเพื่อสนับสนุนเรือที่ออกไปปฎิบัติราชการในทะเล เรือน้ำมัน ถือเป็นกำลังสำคัญที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการดูแลอธิปไตย ปกป้องผลประโยชน์ในน่านน้ำ

กองทัพเรือ อนุมัติให้มีการจัดสร้าง เรือน้ำมัน ขนาดระวางบรรทุกน้ำมัน 1,200 กิโลลิตร จำนวน 1 ลำ จัดสร้างโดยบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด เรือน้ำมันลำนี้มีภารกิจในการสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับเรือกองทัพเรือที่ปฏิบัติการในทะเลขนาดตั้งแต่เรือฟริเกตลงมา สนับสนุนการส่งกำลังบำรุงและการส่งกลับทางสายแพทย์ การลำเลียงน้ำมันเชื้อเพลิงทางทะเลในการช่วยเหลือประชาชนตามแนวชายฝั่งทะเลสนับสนุนเรือหน่วยเฉพาะกิจ หน่วยราชการ โครงการตามพระราชดำริ ประชาชนตามเกาะและแนวชายฝั่งทะเล และสนับสนุนการฝึกปฏิบัติงานของหน่วยต่างๆ ทั้งในและนอกกองทัพเรือ โดยเรือน้ำมันลำนี้ ได้รับพระราชทานชื่อเรือ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “เรือหลวงมาตรา” โดยจะเข้าประจำการในกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ

สำหรับคุณลักษณะทั่วไปมีความยาวตลอดลำ 63.50 เมตร กว้างกลางลำ 12.00 เมตร ลึกกลางลำ 5.10 เมตร กินน้ำลึกเต็มที่ 3.92 เมตร ส่วนความจุของถังระวางบรรทุกน้ำมัน 1,200 กิโลลิตร ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 90,000 ลิตร ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิงสำรอง 8,000 ลิตร ความจุของถังน้ำจืด 100 ตัน โดยมีขีดความสามารถ ความเร็วสูงสุดต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 12 นอต ที่ระวางขับน้ำเต็มที่ ระยะปฏิบัติการ 4,000 ไมล์ทะเล ด้วยความเร็วมัธยัสถ์ (10 นอต) ที่ระวางขับน้ำเต็มที่ สามารถปฏิบัติงานในทะเลต่อเนื่องได้ไม่น้อยกว่า 12 วัน โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุง

นอกจากนี้ ยังมีขีดความสามารถในการส่งน้ำมันในขณะเรือเดินในทะเลทางท้ายเรือ ตามมาตรฐานของ NATO สามารถส่งน้ำมันในขณะเรือจอดได้พร้อมกัน 2 จุด คือ ทางกราบซ้ายและทางกราบขวา พร้อมทั้งสามารถรับ - ส่งเฮลิคอปเตอร์ขนาดน้ำหนัก 6 ตัน ได้จำนวน 1 เครื่อง สามารถรับการเข้าเทียบของเรือขนาดไม่น้อยกว่า 500 ตัน จำนวน 2 ลำ ในขณะเรือจอดทอดสมอ และปฏิบัติภารกิจได้ในสภาพทะเลเมื่อมีระวางบรรทุกสูงสุดได้ไม่เกิน Sea State 5