ASTVผู้จัดการออนไลน์-แกะรอย “กองกำลังต่างชาติ” จากปากคำ ผบ.หน่วยซีลเตือนให้ระวัง พร้อมกับคำถามเป็น กลุ่มเดียวกันกับ“ชายชุดดำ” ที่เคยรับจ้างก่อเหตุบึ๊ม-ยิงป่วนมวลชน เผยอัตราค่าจ้าง บึ้มลูกละแสน-เปรี้ยงนัดละ5หมื่น คนเจ็บ-ล้มตายได้โบนัสพิเศษ รู้จัก “หน่วยซีล” ทหารแกร่งของทัพเรือ ลั่นไม่มีวันเอาความเป็น “มนุษย์กบ” ไปหากินไปรับจ้าง
หลังจากตำรวจ สน.นางเลิ้ง ตั้งด่านจนมีการจับกุมนายทหารเรือ 3 นายจาก หน่วยบัญชาการสงคามพิเศษทางเรือ (นรส.) หรือ หน่วยซีล ประกอบด้วย เรือเอกไพรัตน์ พลายงาม จ่าเอกบัลลังค์ ขันทะพล และจ่าเอกไพรินทร์ โพธิ ถูกจับกุมพร้อมอาวุธปืน เครื่องกระสุน เสื้อเกราะ แถมยังมีอุปกรณ์เก็บเสียง และที่สำคัญมีการพบ บัตร ผู้ชุมนุม คปท. ระดับ วีไอพี 3 ใบ โดยเฉพาะบัตร มีการกล่าวถึงว่า เป็นของจริงหรือของปลอม
ทั้งหมดอ้างว่า มาภารกิจปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะมีหนังสือการปฏิบัติงานของชุดตรวจค้น และจับกุมในการสนับสนุนชุดปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเพื่อเอาชนะยาเสพติด กองทัพเรือ
ขณะที่ผบ.ทร. “พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย” ก็ออกมาย้ำว่า ทหารทั้ง 3 นาย เป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเพื่อเอาชนะยาเสพติด กองทัพเรือ ที่ออกมาปฏิบัติภารกิจต่อเนื่องตั้งแต่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และต่อเนื่องถึง กทม.
มีการยืนยันว่า ทหารทั้ง 3 นายได้รับคำสั่งจาก “พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์” ผบ.หน่วยสงครามพิเศษทางเศษทางเรือ หรือ หน่วยซีล เข้ามาปฏิบัติภารกิจขางต้น!
ต่อมาเมื่อมีเหตุขว้างระเบิดที่ ถ.บรรทัดทอง รวมถึงบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กลับแจกจ่ายภาพ โดยมีการนำมาเปรียบเทียบกับภาพ มือขว้างระเบิด อนุสาวรีย์ และโยงภาพว่า เป็นการ์ด นายสุเทพ จนเป็นเสมือน “หน่วยซีล”เป็นผู้ร้าย
ย้อนกลับมาดูเหตุการณ์ปัจจุบัน การจับกุมทหารเรือ 3 คน เป็นเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงชัตดาวน์ กทม. ของกลุ่ม กปปส.หลังจากจับกุมได้ไม่กี่วัน กระทรวงกลาโหมได้ออกคำสั่งด่วนถึง บก.กองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ขอให้ทุกเหล่าทัพกวดขันระเบียบวินัยทหาร เพราะตั้งแต่มีการชุมนุมพบว่ามีการจับกุมทหาร และอาวุธ และมีหลักฐานเกี่ยวข้องกับการชุมนุม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ จึงใคร่ขอย้ำให้ข้าราชการทหารในสังกัดกลาโหม ให้วางตัวเป็นกลางทางการเมือง และไม่แต่งเครื่องแบบไปร่วมชุมนุมใดๆ ทำให้เกิดความเสียหายกับกองทัพ และจะมีการผิดทางวินัยทหารในกรณีพกพาอาวุธ
ล่าสุด ทาง “กองทัพเรือ”ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องนี้แล้ว จึงต้องรอความชัดเจนอีกครั้ง เพราะ “หน่วยซีล” ถูกโจมตีอย่างหนัก โดยเฉพาะ พล.ร.ต.วินัย ผบ.หน่วยสงครามพิเศษ ถึงขั้นที่มีข่าวอ้างว่า เป็นหลาน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.
ขณะที่ “พ.อ.วินธัย สุวารี” รองโฆษกทบ. กล่าวถึง เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ว่า ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจการทำงานของผู้เกี่ยวข้อง อย่าเพิ่งด่วนสรุปหรือป้ายสีกันไปมา ขอให้เป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจ.คงมีเบาะแสอยู่บ้างเพราะจากพยานหลักฐานที่ได้จากที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะตัวแบบและรุ่นของระเบิดที่ใช้มีลักษณะเฉพาะที่สามารถจดจำได้ ที่สำคัญ ระเบิดรุ่นนี้มีประวัติเคยถูกนำมาใช้เพื่อข่มขู่กันรวมทั้งในอดีต ทาง ตำรวจเคยมีประวัติการจับกุมผู้ลักลอบครอบครองมาแล้วด้วย ซึ่งคิดว่าทางตำรวจน่าจะพอเชื่อมโยงได้บ้าง เนื่องจากคดีลักษณะนี้ฐานความผิดค่อนข้างรุนแรง
"ขณะนี้ยังคงมีข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่นิยมความรุนแรงเร่งระดมจัดหาอาวุธและวัตถุระเบิดเพื่อสร้างความรุนแรงกับกลุ่มตรงข้าม เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก"
ขณะที่ “พล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์” ผบ.นสร. ก็ยืนยันว่า เป็นการสร้างกระแสเพื่อให้ทหารเรือได้รับความเสียหาย
"ที่ผ่านมาทหารเรือไม่เคยมีประวัติทำร้ายประชาชน แม้แต่ปืนนัดเดียวกันไม่เคยยิงใส่ประชาชน ทหารเรือก็ไม่ได้เป็นคู่กรณีกับกลุ่มผู้ชุมนุมจึงไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องทำร้ายผู้ชุมนุมและประชาชน "
"ทหารไม่ได้ทำเลวอะไร สิ่งที่ทหารทำไม่ได้ต้องการหวังสิ่งตอบแทนเหล่านั้น ที่สำคัญที่สุดผมจะอยู่ข้างประชาชน ไม่ต้องการให้ประชาชนถูกฆ่าตาย ดังนั้นการทำงานของหน่วยคือไม่ต้องการให้คนไทยฆ่ากัน แม้ว่าจะฝ่ายไหนก็ไม่อยากให้มาฆ่ากัน แต่สิ่งที่ระวังมากคือการเอากองกำลังต่างชาติมาทำ เพราะเมื่อปี 2553 มีกองกำลังชุดดำที่มาตอบโต้เจ้าหน้าที่ทหารคือกองกำลังต่างชาติ" พล.ร.ต.วินัย ผบ.หน่วยซีล ทร.พูด ออกมาชัดๆ เป็นครั้งแรก
กองกำลังชุดดำ คือ กองกำลังต่างชาติ??
หลังจากที่เคยร่ำลือมานาน หลายปีว่า มีกองกำลังต่างชาติเข้ามา ช่วยสู้กับทหาร และทำร้าย ประชาชนในเวลานั้น ถ้ามีหลักฐาน เพราะตอนนั้นมีการจับกุม ชาวต่างชาติ เพื่อนบ้าน ได้หลายคน แต่ข่าวในเวลานั้น ฝายเสื้อแดง ระบุว่า มีนักการเมือง น.แถบอีสาน เอามาช่วยสู้กับคนเสื้อแดง
การเปิดเผยของ “พล.ร. ต.วินัย” ครั้งนี้ อาจจะเป็นช่อง ในการสู้คดี 98 ศพ ของกองทัพ ได้เป็นอย่างดี อีกด้วย...น่าจับตาดูว่า กองกำลังต่างชาตินี้ จะกลายเป็น "มือที่สาม" หรือ แพะรับบาป ในอนาคตหรือไม่
ขณะที่ ล่าสุดก็มีการพบเห็นรถตู้ทะเบียนกัมพูชา มาโผล่หลบๆซ้อน ๆใกล้กับ ทำเนียบรัฐบาล
มีกระแสข่าวทางลึกพบว่า พรรคการเมืองใหญ่ คนไกล สั่งชายชุดดำ และเขมรฮาร์ดคอร์ เข้ามาป่วนม็อบทั้งกลางวันและกลางคืน โดยอนุมัติค่าจ้างป่วน “หลักพันล้าน” มีอัตราดังนี้
-ปาระเบิดใส่ประชาชนลูกละแสน
- ออกไปยิงป่วนให้ประชาชนจ้างคนละห้าหมื่น
- ถ้ามีประชาชนเจ็บ ตาย คนไกลจะมีโบนัสก้อนให้
- ทนายคนสนิทของหญิงกระบังลม เป็นผู้สนับสนุนอุปกรณ์ขนาดคลังแสงอาวุธระเบิดปา RGD-5 รัสเซีย ปืนนานาชนิด ถูกลำเลียงส่งเข้ามารอในกรุงเทพฯ ก่อนหน้าแล้ว
- ยังมีอาวุธหนักทั้ง M 79 ระเบิด RPG เสื้อแดงบางคนบอกว่ามี ปืน ค.40 ด้วย อาวุธเหล่านี้มีหัวหน้าชายชุดดำ และแตงโมทรยศบางคน มีส่วนรู้เห็นเป็นใจอำนวยความสะดวกให้เอาเข้ามาด้วยมุ่งให้เกิดความหวาดกลัวแล้วไม่เข้าร่วมการชุมนุม ไม่เข้าร่วมการเดินขบวน จนการชุมนุมของ กปปส.ต้องยุติลง คิดการใหญ่ไปถึงหากไม่มีเลือกตั้ง 2 ก.พ.57 จะก่อสงครามกลางเมืองตามยุทธวิธีของขบวนการล้มล้างสถาบัน ที่เป็นเป้าแก่นสำคัญ
อีกด้าน “ผู้สื่อข่าวASTV ผู้จัดการ” เข้ามาตรวจสอบในเว็บไซต์ของกองทัพเรือ และ เวปไซด์ที่กล่าวถึง “หน่วยซีล”ดูในหัวข้อภารกิจของ “หน่วยซีล”ย้ำตอนหนึ่งว่า เพื่อต่อต้านการก่อการร้ายสากล ปฏิบัติการจิตวิทยาในพื้นที่ที่ ทร.รับผิดชอบ ดำเนินการหาช่าวลับ ก่อวินาศกรรม เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ
ปฏิบัติการสงครามนอกแบบ ถวายอารักขาและรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญปฏิบัติภารกิจพิเศษอื่น ๆตามที่ได้รับมอบหมาย หรือตามที่บุคคลระดับวีไอพีร้องขอ โดยจะต้องมีการทำหนังสือส่งไปร้องขอกับ ผบ.ทร. โดยตรงเพื่อพิจารณาจัดส่ง “หน่วยซีล”เข้าปฏิบัติหน้าที่ ส่วนใหญ่เป็นการอารักขาและรักษาความปลอดภัยบุคคลเหล่านั้น มีรัฐมนตรีหลายรัฐบาล ขอความร่วมมือจัดคนไปคุ้มกันมาหลายคนแล้ว
การที่จะได้เป็นหน่วย Navy Seal หน่วยรบทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือ Navy Seal ของไทย โดยมี “เกาะพระ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การฝึก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ ในสังกัดกองเรือยุทธการ (นสร.กร.) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรีสามารถหาดูได้ในหนังสือหลายๆเล่ม โดยเฉพาะหนังสือที่ชื่อ “Super Seal นักรบพันโหด”ที่เขียนโดยน.ส.วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหาร ของนสพ.บางกอกโพตส์ ที่เขียนถึงหน่วยนี้อย่างลึกซึ้ง หรือ ตามเวปไซด์ข้อมูลหน่วยซีล ของของไทยและต่างประเทศอีกหลายแห่ง
"พวกกูป้องกันประเทศเพื่อให้พวกอยู่อย่างสงบสุขไม้ใช่ให้พวกได้ทะเลาะกันอย่างสงบ"
"พวกกูมีหน้าที่ป้องกันประเทศไม่ใช่มีหน้าที่ไว้ปฏิวัติยึดอำนาจจากประชาชน"
"พวกกูถูกฝึกมาเพื่อรบไม่ใช่มีหน้าที่ไปดูแลคุณหนู คุณนาย ของพวกผู้ที่มีเครดิตทางสังคม"
"พวกกูฝึกกันแทบตายแต่กลับมาใช้กูเป็นแค่คนขับรถของพวกคนยศสูงๆแค่นี้เหรอ"
ข้างต้นเป็นคำพูดที่ คนฝึกหน่วยซีล ของไทยนิยมร้องในยามฝึก
ตามข้อมูลส่วนใหญ่ หลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจม(มนุษย์กบ)เป็นหลักสูตรรบพิเศษของกองทัพเรือใช้ ระยะเวลาในการฝึกตลอดหลักสูตร 7 เดือนซึ่งถือว่าเป็นหลักสูตรการฝึกรบพิเศษที่นานที่สุดของไทย โดยแบ่งช่วงการฝึกออกเป็น 5 ช่วงการฝึกที่สำคัญๆ
1) ช่วงแรกจะเป็นการแนะนำการฝึกและเตรียมการฝึกเบื้องต้นโดยใช้เวลาการฝึกประมาณ 3 สัปดาห์ เป็นการแนะนำเรื่องการออกกำลังกายโดยใช้วิทยาศาสตร์การกีฬา การวิ่ง ,ว่ายน้ำ ,แบกซุง ,เรือยาง, เป้ทราย, ข้ามเครื่องกีดขวาง,ฯลฯ
2) ช่วงที่สองเป็นช่วงการฝึกล้วนๆ ไม่มีการแนะนำก็เป็นการฝึกอย่างที่แนะนำในช่วงแรกใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์
3) ช่วง ที่สามเป็นช่วง “สัปดาห์นรก” ครูฝึกจะนำเหตุการณ์แปลก ๆมาทรมาน ที่ว่านรกก็เพราะเป็นการฝึกต่อเนื่อง 120 ชม.หรือห้าวันหกคืนโดยไม่มีการพักนอน การฝึกห้าวันหกคืนก็ฝึก อย่างที่เขาแนะนำในช่วงแรก ถ้าผ่านสัปดาห์นี้ได้ถึงจะเริ่มการเรียน
4)เป็นการเรียนความรู้ทั้งหมดที่หน่วยรบพิเศษควรจะรู้เช่น ดำน้ำ,ยิงปืน ,ระเบิดทำลาย ,การลาดตระเวน,ฯลฯ
ช่วง สุดท้ายเป็นช่วงการฝึกในภาคป่าภูเขาและภาคทะเลโดยใช้เวลาในการฝึกประมาณสองเดือนจากนั้นก็สำเร็จหลักสูตรได้รับ “เครื่องหมายฉลามขาว” มาติดที่หน้าอกข้างซ้ายและได้เป็นทหารเรือก็จะได้ค่าฝ่าอันตรายในทุกๆเดือน โดยในแต่ละปีมีคนจบหลักสูตรนี้ไม่เยอะ!
เห็นได้จากหน่วยซีล คนหนึ่ง ที่ในเฟซบุ๊คของ น.ส.วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวบางกอกโพตส์ ระบุไว้ว่า
“หน่วยซีล คนหนึ่ง กระซิบว่า พวกเขาไม่มีวันเอาความเป็น มนุษย์กบ ไปหากินไปรับจ้าง แต่ "นายสั่ง"หรือไม่ หรือ นายคนใด ระดับไหนสั่ง หรือว่าพวกเขาไปภารกิจ ปราบปรามยาเสพติด จริง..ให้รอผลการสอบสวน... เพราะไม่ว่าอย่างไร พวกเขาอาจต้องเสียสละตัวเอง เพื่อปกป้อง "นาย" และปกป้องกองทัพเรือ”
(ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก หน่วยซีล และ Wassana Nanuam)
