นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.นำมวลชนเดินเท้าออกจากถนนราชดำเนิน เคลื่อนขบวนไปย่านสีลม เพิ่อเชิญชวนออกมาร่วมการชุมนุมใหญ่ขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกจากนายกฯ รักษาการ ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้
วันนี้ (20 ธ.ค.) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง เมื่อเวลา 09.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส.พร้อมแกนนำหลัก อาทิ นายวิทยา แก้วภราดัย นายถาวร เสนเนียม นายอิสสระ สมชัย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ได้นำมวลชนเดินเท้าออกจากถนนราชดำเนิน เพื่อไปยังถนนสีลม ร่วมเดินรณรงค์เชิญชวนชาว กทม. ชักชวนประชาชนให้ออกมาชุมนุมใหญ่ขับไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้ออกจากการรักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 ธ.ค.56 เป็นวันที่สอง
จากนั้นเมื่อเวลา 09.29 น.ทางกลุ่ม กปปส. ได้เริ่มเคลื่อนขบวนออกจากบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศตามกำหนดการ โดยมีกลุ่ม กปท. นำหน้าเป็นหัวขบวน และตามด้วยกลุ่ม กปปส. โดยขบวนรณรงค์ดังกล่าวได้เคลื่อนออกจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศเข้า ถ.นครสวรรค์ เลี้ยวขวาเข้ าถ.กรุงเกษม ผ่านแยกสะพานขาว มุ่งหน้าหัวลำโพง เข้า ถ.พระราม 4 และมุ่งหน้าเข้า ถ.สีลม โดยบรรยากาศระหว่างเดินขบวนได้มีประชาชนตลอดสองข้างทางได้ต่างออกมายืนต้อนรับด้วยการโบกธง พร้อมส่งเสียงให้กำลังใจ ซึ่งก็ได้มีประชาชนจำนวนมากได้นำเงินสดยื่นใส่มือของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.เป็นระยะระหว่างเดินขบวน
ต่อมาเมื่อเวลา 12.30 น.ขบวนรณรงค์ได้เคลื่อนมาถึงถ.สีลม ซึ่งมีประชาชนรอต้อนรับอยู่จำนวนหลายพันคน โดยทันทีที่หัวขบวนมาถึงต่างเป่านกหวีดและโบกกธงชาติต้อนรับนายสุเทพด้วยความดีใจ ส่งผลให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะที่นายสุเทพ ได้เดินทักทายประชาชนชาวสีลมตลอดเส้น ถ.สีลมท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่นที่ล้อมตัวของนายสุเทพไว้ โดยตามกำหนดหนดการเดิมขบวนจะแวะพักรับประทานข้าวเที่ยงที่จุดสีลมประมาณ 12.00 น. แต่ต้องเลื่อนออกไปเป็น 14.30 น. เนื่องจากมีประชาชนพยายามเข้าบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือการชุมนุมของ กปปส. ให้กับนายสุเทพเป็นจำนวนมากและต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามความคิดเห็นของประชาชนบางส่วนที่ร่วมบริจาคเงินให้ กปปส. ผ่านนายสุเทพ ปรากฏว่าส่วนใหญ่ต้องการบริจาคเพื่อสนับสนุนการชุมนุมให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทราบข่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีการอายัดบัญชีแกนนำการชุมนุม
นายสมชัย วรัญญานุไกร อายุ 39 ปี พนักงานบริษัท ย่านอโศก กล่าวว่า ตนได้มาร่วมชุมนุมที่สีลม ซึ่งตนไม่เห็นด้วยกับการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ มีคำสั่งอาญัติบัญชีของแกนนำ กปปส. เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะยังไม่มีคำตัดสินที่ออกมาชัดเจนว่าแกนนำกระทำความผิด เท่ากับว่าการกระทำของดีเอสไอทำไปเพื่อต้องการกลั่นแกล้งไม่ให้การเคลื่อนไหวของ กปปส. ดำเนินต่อไปได้ อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวไม่น่าจะกระทบต่อการเคลื่อนไหวของ กปปส. แต่จะเป็นการเรียกแขกและทำให้มีการสนับสนุนจากประชาชนมากขึ้น
ด้าน นางมาลีกัญญา สากาลิก ข้าราชการเกษียรอายุ ที่เดินทางมาจากย่านเกษตร เพื่อมาให้กำลังใจผู้ชุมนุม กปปส. ที่ย่านสีลม กล่าวว่า การที่ดีเอสไอประกาศอายัดบัญชีของแกนนำนั่นเป็นสิ่งที่ไม่สมควร เพราะผู้ชุมนุมยังไม่ได้ทำความผิด แต่ก็จะไม่กระทบต่อการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุม เพราะแต่ละคนก็เป็นอิสระต่อกันอยู่แล้ว ไม่มีใครต้องการพึ่งพาคนอื่นหรือมาเพื่อรอรับบริจาค คน กทม. ต่างก็มีการนำอาหารและเตรียมความพร้อมมาเพื่อการชุมนุมอยู่แล้ว
"พี่บริจาคทุกวัน เพราะเราเป็นคน กทม. การบริจาคเพื่อต้องการให้คนที่อยู่ต่างจังหวัดและเข้ามาอยู่ใน กทม.หลายวันอาจจะขาดแคลงในเรื่องอาหาร แต่พี่ก็เชื่อว่าเขาไม่อยากได้ของบริจาค ถ้ามันไม่จำเป็น เพราะคนที่นี่เขามาด้วยใจ อย่างวันนี้พี่ก็เตรียมแซนวิสมาเผื่อให้คนที่หิว และก็เตรียมเงินบริจาคมาให้แกนนำด้วย เดี๋ยวจะเข้าไปขอถ่ายรูปแล้วบริจาคให้ถึงมือ" นางมาลีกัญญา กล่าว ขณะรอขบวน กปปส. ที่สีลม
ขณะที่นางศิริรัตน์ โพธิ์ทอง อายุ 56 ปี กล่าวว่า ต้องถามกลับว่าดีเอสไอทำไปเพราะอะไร การที่ดีเอสไอทำแบบนั้นแสดงถึงความไม่เป็นธรรม ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม การอายัดบัญชีแกนนำก็ไม่กระทบต่อการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมอยู่แล้ว เพราะทุนที่ใช้อยู่มีส่วนน้อยเท่านั้นที่มาจากแกนนำ ส่วนใหญ่ก็เป็นเงินที่มาจากการบริจาคของประชาชนด้วยกันเองทั้งนั้น
"พี่มาจากชลบุรี บริจาคค่ารถ เงินบ้างเป็นบางครั้ง เท่าที่จะทำได้ เพราะคิดว่าเราต้องช่วยกัน ต้องปฏิรูปประเทศ นายธาริต จะยิ่งช่วยให้มีคนบริจาคมากขึ้นไปอีก เพราะอย่างที่รู้คนไทยด้วยกัน ก็ต้องช่วยกัน เพื่อทำให้การเคลื่อนสำเร็จ" นางศิริรัตน์ กล่าว
ส่วนนางศิริพร ธงรัตนะ อายุ 71 ปี ที่เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินจากห้วยขวางตรงมายังสถานีสีลม เพราะรู้ว่าผู้ชุมนุมกปปส.จะผ่านเส้นทางนี้ กล่าวว่า ตนมาร่วมบริจาคหลายครั้ง รวมทั้งวันนี้ด้วย
"อยากจะช่วย กลัวคนที่มาร่วมไม่มีอะไรกิน เราบริจาคไปแล้ว เขาจะเอาไปทำอะไรก็ได้ เราไม่ได้คิดเรื่องนั้น บริจาคเพราะอยากจะช่วยเหลือ" นางศิริพร กล่าวภายหลังที่ยื่นธนบัตรใบละ 1,000 บาท ให้กับนายสุเทพ ที่เดินทางมาถึงกับมือตนเอง
ด้านนายทรงพันธุ์ ไม่เปิดเผยนามสกุล อดีตอาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในผู้ร่วมบริจาคเงินสนับสนุนการชุมนุมภายหลังที่ดีเอสไออายัดบัญชี ทรัพย์สินของแกนนำว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และนายธาริตก็ต้องเปิดเผยบัญชีของตัวเองด้วย เพราะมีทรัพย์สินที่ไม่ชอบมาพากลเช่นกัน ทั้งนี้เห็นว่าการกระทำของดีเอสไอจะยิ่งทำให้คนเห็นใจมากขึ้นและจะมีคนมาร่วมชุมนุมมากขึ้นอีกด้วย
สอดคล้องกับนางกิมเจื้อม แสนแก้ว ผู้ชุมนุมจาก จ.ชุมพร ที่อยู่ร่วมขุมนุมที่ราชดำเนินและร่วมเดินขบวนทุกครั้ง กล่าวว่า ตนได้ร่วมบริจาคเงิน 3,000 บาทและบริจาคกล้วยที่เอามาจากชุมพรด้วย เพราะต้องการช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนสามารถช่วยได้ถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม
นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าที่ไม่มีโอกาสร่วมเดินขบวน แต่ช่วยร่วมสนับสนุนการรณรงค์ครั้งนี้ อาทิ ร้านกาแฟคอปแมน ที่ตั้งอยู่ ถ.สีลม ยังได้ร่วมบริจาคโดยการให้ส่วนลดแก่ลูกค้าที่มีสัญลักษณ์ธงชาติหรือผู้ที่มาร่วมชุมนุม โดยระบุว่า ลดราคาให้กับคนที่มาช่วยชาติ
