กลุ่มตัวแทนประมงพื้นบ้านจากภาคใต้ และกลุ่มสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง ประมาณ 100 คน เข้ายื่นหนังสือต่อ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ เพื่อขอให้ช่วยแก้ไขปัญหา การคุกคามของเรือประมงที่ใช้ อุปกรณ์ ขนาดใหญ่ หาปลา เป็นส่วนทำให้ระบบนิเวศทางทะเลเสียหาย ทำให้มีผลกระทบโดยตรง กับวิถีชีวิตของประมงพื้นบ้าน และยังขอให้เร่งแก้ไขปัญหาจาก น้ำมันรั่วลงทะเล เร่งพื้นฟู ระบบนิเวศทางทะเลที่ได้รับผลกระทบ
วันนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน จ.ระยอง และตัวแทนชาวประมง 16 จังหวัด ยื่นหนังสือต่อ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะกำกับดูแลกรมประมง เพื่อเรียกร้องให้บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC หรือ ปตท.จีซี เพิ่มความชดเชยความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว
นายจตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง กล่าวว่า แม้บริษัท ปตท.จีซี จะจ่ายเงินเยียวยาบางส่วนแล้ว แต่เงินชดเชยเพียง 1 เดือนไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และต้องการให้เพิ่มเงินชดเชยเป็นวันละ 2,000 บาท นาน 3 ดือน รวมทั้งของให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตั้งกองทุนฟื้นฟูประมงถาวร และให้มีตัวแทนจากองค์กรอิสระ นักวิชาการ และภาคประชาชนเข้าร่วม โดยให้ใช้เงินจากการฟ้องร้องชดเชยค่าเสียหายมาดำเนินการ ซึ่งขณะนี้กำลังประเมินวงเงินที่เหมาะสม คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนนี้
นอกจากนี้ นายจตุรัส กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมาบริษัท ปตท.จีซี พยายามประชาสัมพันธ์ฟื้นฟูเรื่องการท่องเที่ยวของเกาะเสม็ด ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเพียงร้อยละ 20 ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านยังได้รับผลกระทบจากปริมาณสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาหมึกที่ลดลงจากที่เคยจับได้วันละ 20-30 กิโลกรัม เหลือเพียง 2-3 กิโลกรัม ทำให้ชาวประมงต้องออกเรือไปไกลถึง จ.จันทบุรี ทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ สมาคมพร้อมตัวแทนกลุ่มประมง 16 จังหวัดจะเข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งรัดการเยียวยาชาวประมง และฟ้องร้อง ปตท.จีซี เพื่อชดเชยค่าเสียหายโดยเร็ว
