ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สถานเอกอัครราชทูตไทยในเกาหลีใต้โพสต์ข้อความแจงความกังวลต่อสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี ระบุมีความเป็นมายาวนานกว่า 60 ปี สลับซับซ้อน และมีปัจจัยอยู่เหนือการควบคุม ยากต่อการเข้าใจ ไม่ฟันธงสงครามจะเกิดหรือไม่ แต่คนเกาหลียังใช้ชีวิตปกติ สถานทูต 103 แห่ง ยังไม่ได้แจ้งให้คนของประเทศตนอพยพ
วันนี้ (10 เม.ย.) สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซล เกาหลีใต้ ได้เขียนข้อความผ่านเฟซบุ๊กของสถานเอกอัครราชทูตฯ (https://www.facebook.com/pages/Royal-Thai-Embassy-Seoul/267424153352939?fref=ts) ถึงสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีต่อความกังวลของหลายฝ่าย ดังนี้
ตามที่หลายท่านมีความห่วงกังวลกับสถานการณ์ในเกาหลีใต้ในขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่ได้เงียบหายไปนะครับ กำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
สถานการณ์อันตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี มีความเป็นมายาวนาน 60 ปี มีความสลับซับซ้อน และมีปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ยากต่อการเข้าใจ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเกาหลีเหนือ ซึ่งน้อยคนในโลกจะรู้จักความคิดอ่าน จึงขอความกรุณาทุกท่านใช้เวลามากสักหน่อยกับสิ่งที่จะนำเสนอในวันนี้
ไม่มีใครฟันธงเด็ดขาดได้ว่า สงครามจะเกิดหรือไม่เกิด สถานการณ์จะปลอดภัยหรือไม่ ที่หลายๆ ฝ่ายทำได้ก็คือ นำเอาข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ มาชั่งวิเคราะห์ และประเมินว่า ความเป็นไปได้มีมากน้อยเพียงใด ส่วนมากออกมาทำนองเดียวกันว่า มีโอกาสน้อยที่จะเกิดสงครามใหญ่ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นเกาหลีเหนือเองก็จะเป็นฝ่ายที่ประสบกับความเสียหายย่อยยับด้วย แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าจะไม่เกิดการปะทะกันด้วยอาวุธในพื้นที่ที่เกาหลีเหนือติดกับเกาหลีใต้ (ทั้งทางบกและทางทะเล) ซึ่งเคยเกิดมาแล้วในอดีต
ส่วนที่มักถามกันว่า ท่านควรเดินทางไปทัศนาจรที่เกาหลีใต้หรือไม่ สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่อยู่ในฐานะที่จะตัดสินใจแทนท่านหรือใครได้ ที่ทำมาตลอดก็คือ การให้ข้อมูลจากในพื้นที่ เช่น
(1) คนในเกาหลีใต้ยังใช้ชีวิตและทำมาหากินกันปกติ ไม่มีการตื่นตระหนก อาทิ ไม่ได้หาซื้อเสบียงอาหารมาสำรองไว้ ดังที่เคยทำในอดีต เพื่อพิจารณาประกอบกับข้อมูลข่าวสารจากแหล่งอื่นๆ เช่น สื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างประเทศ ข้อมูลจากคนไทยที่อยู่ที่เกาหลีใต้
(2) จนถึงขณะนี้ สถานทูต 103 แห่งในกรุงโซล ยังไม่ได้ประกาศให้มีการอพยพคนชาติของตน หรือแจ้งห้ามคนชาติตนเดินทางไปเกาหลีใต้
(3) รัฐบาลเกาหลีใต้ย้ำมาโดยตลอดว่า กองทัพและฝ่ายต่างๆ พร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นจากเกาหลีเหนือ
นอกเหนือจากการลงทะเบียนไว้กับสถานเอกอัครราชทูตฯ แล้ว สิ่งที่ท่านทั้งหลายที่อยู่ในเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะไปทัศนาจร หรือทำงาน หรือพำนักอาศัยอยู่ที่เกาหลีใต้ ควรมีติดตัวไว้ในยามสถานการณ์ฉุกเฉิน อาจประกอบด้วย
1.หนังสือเดินทาง หากใครไม่มีเพราะหาย หรือหมดอายุก็อาจเตรียมบัตรประชาชนหรือสำเนาทะเบียนบ้านพกติดตัวไว้เพื่อเป็นหลักฐานแสดงตนว่าเป็นคนไทย
2.เอกสารสำคัญ เช่น บัตรโดยสารเครื่องบิน
3.เสื้อผ้าเท่าที่จำเป็นและไม่เป็นภาระ เช่น 1-2 วัน
4.ยาประจำตัวที่ต้องใช้
5.เงินสด
6.เครื่องมือสื่อสาร เช่น โทรศัพท์ พร้อมถ่านและอุปกรณ์ชาร์ต
ควรต้องติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอและใกล้ชิดจาก
(1) สถานเอกอัครราชทูตฯ เช่น Facebook ที่ Royal Thai Embassy, Seoul หรือ Twitter ที่ @RTE_seoul รวมทั้งทาง email ที่ rteseoul@gmail.com (ซี่งรวมถึงที่สถานเอกอัครราชทูตฯ จะติดต่อไปยังท่าน) อนึ่ง ในยามสถานการณ์ฉุกเฉิน การใช้โทรศัพท์เพื่อติดต่อกับสถานเอกอัครราชทูตฯ จะมีข้อจำกัดบางประการ เช่น จำนวนคู่สายและสายที่ว่าง ในขณะที่อาจจะมีคนพยายามติดต่อเข้าไปพร้อม ๆ กันจำนวนมาก
(2) ประกาศจากทางการเกาหลีใต้ ซึ่งจะมีผ่านสื่อต่างๆ บทบาทและมาตรการของรัฐบาลเกาหลีใต้มีความสำคัญและเป็นหัวใจสำหรับการดูแลช่วยเหลือชาวต่างชาติ เพราะสถานทูตต่าง ๆ รวมทั้งไทย ไม่สามารถดำเนินการใดๆ โดยลำพังได้ โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นสถานการณ์ที่มีความร้ายแรงและรุนแรงในวงกว้าง ณ ขณะนี้ ขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า ทางการเกาหลีใต้ประเมินว่า ยังไม่มีภัยคุกคามความปลอดภัยชาวต่างชาติ จนต้องดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม
อย่างไรก็ดี เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับท่าน หากมีความจำเป็นต้องอพยพ หนทางที่รวดเร็วที่สุดคือ ทางอากาศ ในกรณีที่ท่าอากาศยานยังให้บริการได้อยู่ เช่น ท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน สำหรับคนที่อยู่ทางตอนเหนือ ซึ่งมีการบินไทยให้บริการวันละหลายเที่ยวบิน และสำหรับคนที่อยู่ทางตอนใต้ มีท่าอากาศยานนานาชาติคิมแฮ ที่นครปูซาน มีการบินไทยให้บริการสัปดาห์ละ 5 เที่ยว (อาทิตย์ จันทร์ พุธ พฤหัสฯ ศุกร์) นอกจากนี้ยังมีสายการบินอื่น ๆ ให้บริการในเส้นทางระหว่างเกาหลีใต้กับไทยหลายเที่ยวบินต่อสัปดาห์ รวมทั้งสิ้น 192 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีสายการบินใดยกเลิกเที่ยวบิน
หากสนามบินไม่สามารถให้บริการได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด รวมถึงมีคนจำนวนมากพยายามจะเดินทางออกนอกประเทศ ก็จำเป็นต้องพิจารณาใช้ทางเรือ ท่าเรือสำคัญคือ ที่อินชอน ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ไป 10 เมืองในจีน ที่ปูซาน ทางใต้ไป 5 เมืองในญี่ปุ่น ที่พยองแท็ก (Pyeongtaek) ทางตะวันตก ไป 4 เมืองในจีน และที่ทงแฮ (Donghae) ทางตะวันออกไปรัสเซีย
สถานเอกอัครราชทูตฯ ยังคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อรายงานให้ท่านทราบพัฒนาการต่างๆ ในคาบสมุทรเกาหลี
ผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์ลักษณะนี้มาแล้วในที่อื่นๆ จะพูดตรงกันว่า “สติ” มีความสำคัญที่สุด จึงต้องตั้งสติให้ดี อย่าตื่นตระหนก