พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสถานที่สอบนายสิบตำรวจสายอำนวยการและสนับสนุน ก่อนเข้าห้องสอบ ซึ่งมีผู้เข้าสอบประมาณ 30,000 คน เพื่อป้องกันทุจริตสอบซ้ำ เพิ่มมาตรการพิมพ์ลายนิ้วมือในกระดาษคำตอบป้องกันการสอบแทน
วันนี้ (3 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.ที่สนามสอบมหาวิทยาลัยรามคำแหง2 วิทยาเขตบางนา พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานการจัดการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกผู้มีวุฒิการศึกษามัธยมปลายหรือเทียบเท่าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนปี 2555 ใหม่ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผบช.ศ.เดินทางมาตรวจความพร้อมในการสอบคัดเลือกบุคคลภายนอกเข้าเป็นตำรวจชั้นประทวน หรือนายสิบตำรวจ ในการสอบบรรจุเข้าสายอำนวยการวันแรก
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ในการสอบวันนี้มีผู้เข้าสอบจากทั่วประเทศกว่า 1.7 แสนคน โดยแบ่งเป็น 48 สนามสอบ หรือ 2,800 ห้องสอบทั่วประเทศ ซึ่งในวันนี้จะเป็นการสอบของสายอำนวยการ และรับเพียงแค่ 500 คนเท่านั้น ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามีปัญหาในเรื่องที่ผู้เข้าสอบเดินทางมาสอบผิดสนาม ซึ่งทางเราก็อนุโลมให้เพราะอาจเกิดจากความเข้าใจผิด ส่วนภาพรวมในการสอบทั่วประเทศก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด โดยครั้งนี้ทาง สตช.ได้ใช้มาตรการป้อกันการโกงสอบตำรวจ โดยนำแผนประทุษกรรมของผู้ต้องหาที่ทุจริตการสอบครั้งที่แล้วมาปรับปรุงเพื่อปิดช่องโหว่ในการสอบตำรวจ ทั้งด้านการออกข้อสอบ การส่งข้อสอบ และแผนกลโกงข้อสอบต่างๆ โดยใช้เครื่องสแกนโลหะและเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ ลดสนามสอบและจำนวนห้องสอบลงกว่า 80% ส่วนการคุมในห้องสอบจะใช้เจ้าหน้าที่ 1 คน ต่อ 1 แถว เพื่อคอยดูแลความเรียบร้อยเพื่อป้องกันการทุจริต เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและโปร่งใสมากที่สุด
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า สำหรับในการสอบครั้งที่ผ่านมามีผู้ถูกตัดสินถึง 535 ราย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในขบวนการทุจริต ในการสอบในครั้งนี้เราได้เพิ่มมาตรการให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้นโดยการนำเทคโนโลยี อุปกรณ์ตัดสัญญาณโทรศัพท์และรีโมท มีการพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อตรวจเอกลักษณ์บุคคล ว่าเป็นคนเดียวกับผู้เข้าสอบจริงหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามักจะใช้กลโกงให้คนอื่นสอบแทนกัน โดยจะเก็บลายนิ้วมือไว้และหากพบว่ามีปัญหาก็จะนำมาดูว่าคนที่เข้าสอบแทนเป็นใคร นอกจากนี้ยังให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเรื่องการข่าวของขบวนการทุจริตและส่งตำรวจสายลับนอกเครื่องแบบคอยติดตามเฝ้าระวัง พร้อมทั้งใช้รถตำรวจสายตรวจวิ่งตรวจตรารอบๆสนามสอบเพื่อดูความเรียบร้อย ซึ่งเชื่อว่าในการสอบครั้งนี้จะไม่มีการทุจริตแน่นอนและหวังว่าทุกอย่างคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
