สวนสัตว์ดุสิต นำ “งูเขียวหางไหม้ภูเก็ต” จากสวนสัตว์นครราชสีมา มาโชว์ช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นงูเขียวหางไหม้สายพันธุ์ใหม่ของโลก พบเฉพาะในเกาะภูเก็ตเท่านั้น สามารถเข้าชมได้ภายในอาคารสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ในระหว่างวันที่ 19-23 มกราคมนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สวนสัตว์ดุสิตเตรียมนำงูเขียวหางไหม้ภูเก็ตสายพันธุ์ใหม่ของโลกจากสวนสัตว์นครราชสีมา ที่นักวิจัยไทยศึกษาวิจัยร่วมกับต่างชาติเป็นเวลานาน 2 ปี มีเฉพาะบนเกาะภูเก็ตเท่านั้น มาจัดแสดงในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเป็นงูเขียวหางไหม้ เป็นงูที่มีลวดลายละเอียดกว่างูเขียวหางไหม้ทั่วไป พิษแรงไม่แตกต่างกัน สามารถเข้าชมได้ภายในอาคารสัตว์เลื้อยคลานและสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกในระหว่างวันที่ 19-23 มกราคมนี้เท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมพิเศษฉลองวันตรุษจีนด้วยการนำตัวอย่างสัตว์สตัฟฟ์ กระดูกสัตว์ กะโหลกสัตว์ ออกมาให้ชมร่วมกับจัดแสดงความสามารถของสุนัขและดนตรี
ลักษณะสำคัญงูเขียวหางไหม้ภูเก็ต มีหัวกว้างรูปสามเหลี่ยมและแบน คอเล็ก ลำตัวเรียวยาว หางยาวเมื่อเทียบกับงูเขียวหางไหม้ กลุ่มงูเขียวหางไหม้ท้องเขียว เป็นงูเขียวหางไหม้ที่มีสีเขียว และมีลายสีน้ำตาลแดงพาดขวางทั้งเพศผู้และเมีย
โดยเพศผู้จะลายที่ชัดเจนและเป็นระเบียบ มีจุดขาวอมฟ้าตามแนวกลางหลัง ส่วนเพศเมียมีลายพาดกลางหลัง แต่ไม่คาดถึงขอบท้อง มีแถบสีน้ำตาลแดงและเส้นสีขาวคาดจากส่วนท้ายของตาไปทางส่วนท้ายของหัวทั้งสองเพศ บนหัวมักมีสีแดงเลือดนกแต้มโดยเฉพาะเพศผู้ เส้นข้างของท้องเป็นเส้นสีขาว หรือเขียวอ่อนอยู่ด้านบน และสีแดงด้านล่างจากคอถึงแนวทวารร่วม หางมีแถบสีน้ำตาลแดงคาดเป็นบั้งถี่และไม่มีเส้นขอบหางตามยาว ใต้หางมีจุดประสีแดงและสีขาวบนสีเขียว งูเขียวหางไหม้เป็นงูพิษอ่อนอันตราย
งูเขียวหางไหม้ภูเก็ตมักอาศัยบนต้นไม้สูงแล้วลงซุ่มหากินในระดับต่ำใกล้พื้น อาหารหลัก ได้แก่ ปาด กลุ่มจิ้งจก และหนูขนาดเล็ก มีนิสัยค่อนข้างดุ และสามารถทำตัวแบนลงเพื่อเพิ่มแรงเกาะกิ่งไม้ได้ ปัจจุบันพบกระจายพันธุ์ในป่าดินบนเกาะภูเก็ต และคาดว่า อาจพบบนเกาะอื่นๆ ทางฝั่งทะเลอันดามันเพิ่มเติมในอนาค
มีการสืบพันธุ์โดยการออกลูกเป็นตัว มีระยะเวลาตั้งท้องประมาณ 3 เดือน ออกลูกครั้งละ 8-10 ตัว ลูกงูมีสีและลายเช่นเดียวกับตัวเต็มวัย แต่ปลายหางมีสีขาวเพื่อใช้ล่อเหยื่อให้เข้าใจว่าเป็นหนอนจึงเข้ามาให้ลูกงูจับกินโดยง่าย
