"อานนท์" คาดบางบัวทอง ใช้เวลาสูบน้ำออกใน 2-3 สัปดาห์ จะกลับสู่ภาวะปกติ รับรื้อบิ๊กแบ็กล่าช้าเนื่องจากติดระเบียบราชการที่ต้องแจ้งคืนวัสดุ ยันศปภ.ทำหน้าที่จนกว่าน้ำจะลดหมด แต่อาจย้ายที่ทำการจากกระทรวงพลังงานไปยังทำเนียบฯ หรือกระทรวงยุติธรรม
วันนี้ (5ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.30 น.นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการคณะกรรมการบริหารจัดการระบายน้ำในพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัยร้ายแรง กล่าวว่า ขณะนี้การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่กทม.ไม่มีความน่าเป็นห่วง แต่จุดสำคัญคือบริเวณหมู่บ้านเศรษฐกิจฝั่งตะวันตกและพื้นที่อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เป็นพื้นที่กว้างยังคงต้องนำเครื่องสูบน้ำไปช่วยสูบน้ำออก คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2 - 3 สัปดาห์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้
ในส่วนของน้ำค้างทุ่งได้มีการระบายน้ำเข้าสู่ระบบคลอง แต่ทั้งนี้จำเป็นต้องเหลือน้ำค้างทุ่งอยู่บ้าง เพราะว่ามีเกษตรกรที่ยังคงจำเป็นต้องใช้น้ำในการทำนาปรัง ซึ่งต้องระวังเรื่องภัยแล้ง แต่ยังคงมีน้ำในเขื่อนรองรับอยู่
สำหรับความคืบหน้าในการรื้อเก็บแนวคันกั้นน้ำบิ๊กแบ็กนั้น ยอมรับว่าอาจจะล่าช้าไปบ้าง เพราะติดระเบียบขั้นตอนทางราชการที่จะต้องมีการแจ้งคืนวัสดุ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร แต่ก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายปฏิบัติการที่พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม ในฐานะผอ.ศปภ.มอบหมายให้นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำหน้าที่ดูแล
เมื่อถามถึงการยุบ ศปภ. นายอานนท์ กล่าวว่า สำหรับการปรับการทำงานของศปภ.นั้น ขณะนี้เป็นหน้าที่ของศปภ.จังหวัดดูแลพื้นที่โดยตรง เนื่องจากการบริหารจัดการน้ำในขณะนี้เป็นเรื่องเฉพาะพื้นที่ เพราะแต่ละพื้นที่มีปริมาณน้ำไม่เท่ากัน ส่วนศปภ.กลางมีหน้าที่ประสานให้ความช่วยเหลือศปภ.จังหวัด เช่นการจัดหาเครื่องสูบน้ำ ดังนั้นโดยโครงสร้างแล้ว ศปภ.ยังจำเป็นต้องมีอยู่จนกว่าปัญหาน้ำท่วมจะลดหมดลง
ทั้งนี้โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าในอนาคตอาจจะมีการย้ายสถานที่ทำการศปภ.ออกจากกระทรวงพลังงานไปตั้งศูนย์ในสถานที่สะดวกต่อการทำงานและประสานงาน เช่น ทำเนียบรัฐบาล หรือกระทรวงยุติธรรม แต่เรื่องดังกล่าวยังไม่ได้มีการหารืออย่างเป็นทางการ