กรมชลฯ แจงตัวเลขครื่องสูบน้ำแต่ละจังหวัด ยันเดินเครื่องตลอด 24 ชม. เสริมอีก 65 เครื่องที่นครปฐมเพื่อเร่งสูบลงทะเล หลังจมบาดาล 7 อำเภอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่โดยเร็ว โดยที่ผ่านมาได้ระดมเครื่องสูบน้ำจากจังหวัดต่างๆ ที่ไม่เกิดปัญหาอุทกภัยเข้ามาติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมตามความเหมาะสมทั้ง 42 จังหวัด รวมทั้งหมด 1,067 เครื่อง โดยในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง เช่น ในพื้นที่ของ กทม.ได้จัดส่งไปสูบน้ำเคลื่อนที่ และเครื่องผลักดันน้ำ รวมจำนวน 31 เครื่อง โดยได้ติดตั้งในคลองมหาสวัสดิ์ คลองลาดพร้าว คลองแสนแสบ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามดูแลเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ให้สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังในจังหวัดต่างๆ ประกอบด้วย จ.ชัยนาท 37 เครื่อง ลพบุรี 49 เครื่อง สิงห์บุรี 58 เครื่อง สระบุรี 19 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 95 เครื่อง อ่างทอง 39 เครื่อง อุทัยธานี 12 เครื่อง สุพรรณบุรี 52 เครื่อง นนทบุรี 112 เครื่อง ปทุมธานี 163 เครื่อง สมุทรสาคร 4 เครื่อง และจังหวัดสมุทรปราการ 3 เครื่อง
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ โครงการชลประทานนครปฐมได้รายงานด้วยว่า ที่จ.นครปฐม ซึ่งมีพื้นที่น้ำท่วมขัง 7 อำเภอ คือ อ.เมือง บางเลน นครชัยศรี สามพราน ดอนตูม กำแพงแสน และพุทธมณฑล นอกจากจะควบคุมประตูระบายน้ำแล้วยังส่งเครื่องสูบน้ำจำนวน 65 เครื่อง และติดเครื่องผลักดันน้ำที่สะพานสำโรง-ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี จำนวน 44 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างต่อเนื่อง
