“ธีระ” เผยหลังตรวจการระบายน้ำฝั่งตะวันออก ระบุสั่งกรมชลฯ เร่งพร่องน้ำคลองรังสิตระบายออกสู่ทะเลโดยเร็ว รับมือปริมาณน้ำเหนือ คาดจะมีปริมาณไหลมาทางฝั่งตะวันออกของลุ่มเจ้าพระยาไม่เกิน 300 ล้านลูกบาศก์เมตร/วินาที
วันนี้ (19 ต.ค.) นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการติดตามสถานการณ์การระบายน้ำฝั่งตะวันออกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา ณ ประตูระบายน้ำธรรมราชา อ.หนองเสือ จังหวัดปทุมธานี ว่าขณะนี้ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งรัดการระบายน้ำจากคลองรังสิตออกลงทะเลที่สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ มากกว่า 50% เพื่อรอรับน้ำที่จะไหลจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่คาดว่าจะถึงคลองรังสิต คลอง 13 คลอง 26 และคลอง 8 อีก 10 วัน โดยคาดว่าปริมาณน้ำจากจังหวัดนครนายกที่จะลงมาถึงจะมีปริมาณประมาณ 180 ล้าน ลบ.ม./วินาที ส่วนน้ำที่มาจากจังหวัดอยุธยา จะมีปริมาณประมาณ 130 ล้าน ลบ.ม./วินาที ดังนั้น คาดว่าปริมาณน้ำทั้งหมดที่จะไหลมารวมทางด้านฝั่งตะวันออกของลุ่มน้ำเจ้าะยาจะมีปริมาณไม่เกิน 300 ล้าน ลบ.ม./วินาที ซึ่งยังคงเป็นปริมาณน้ำที่ควบคุมได้และไม่กระทบต่อประชาชนในพื้นที่ ขณะเดียวกัน มอบหมายให้กรมชลประทานดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เพิ่มเติมที่สถานีสูบน้ำจุฬาลงกรณ์ ทำให้สามารถระบายน้ำจากคลองรังสิตลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงให้มีการเสริมคันกั้นน้ำฝั่งขวาของคลองระพีพัฒน์ คลอง 13 ไปจนถึงคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และเข้มงวดกับวิธีการเสริมคัน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้คันกั้นน้ำตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กรมชลประทานเร่งรัดการขุดลอกคูคลอง ผักตบชวา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำตามแผนการรองรับน้ำเหนือ จึงค่อนข้างมั่นใจว่าน้ำจะไม่ท่วมฝั่งตะวันออก แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญที่ว่าจะต้องไม่มีน้ำฝนตกมาเพิ่ม