ถ.ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี น้ำเริ่มลดลงแล้วเป็นระยะ 5-20 ซม.แต่รถเล็กยังวิ่งไม่ได้ ด้านทหารแฉเจอชาวบ้านกร่าง วางตะปูเรือใบ, ยิงปืนขึ้นฟ้าขู่ อ้างรถรับส่งทำคลื่นซัดบ้านพัง ขณะชาวนนท์แท้ๆ โอดเอกชนเมิน แห่ช่วยเหลือแต่บ้านจัดสรร
วันนี้ (5 พ.ย.) ที่ จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจบริเวณ ถ.ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ตั้งแต่ก่อนถึงแยก ถ.ทางหลวงสาย 345 จนไปถึงหน้า ร.ร.เทพศิรินทร์ นนทบุรี พบปริมาณน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยบริเวณช่วงหน้าหมู่บ้านบัวทองธานี ระดับน้ำลดลงแล้วราว 15-20 ซม. ในขณะที่ช่วงหน้าตลาดบางใหญ่ ระดับน้ำลดลงราว 10 ซม.ทางด้านหน้าวัดส้มเกลี้ยง ขณะนี้ระดับน้ำลดลง 5 ซม.แต่รถเล็กยังคงสัญจรโดยใช้การบนถนนดังกล่าวไม่ได้เช่นเคย ส่วนการเดินทางนั้น เจ้าหน้าที่ทหารได้ใช้ บีบี มาร์เก็ต ใกล้กับตลาดกลางบางใหญ่เป็นจุดเชื่อมต่อรถ ทั้งไปเส้นทาง ถ.รัตนาธิเบศร์ โดยวิ่งไปจนถึงแยกบางพลู เพื่อต่อรถประจำทาง เส้นทางขาออก ถ.กาญจนาภิเษก รถจะวิ่งไปสุดสายที่หน้าร้านไทวัสดุ นอกจากนี้ ยังมีรถวิ่งผ่านไปยังวงแหวน ถ.บรมราชชนนี ไปสุดสายที่ ถ.พระราม 2 ด้วย โดยรถแทบทุกสายของเจ้าหน้าที่ทหารจะหยุดให้บริการในเวลา 17.00 น.ทั้งนี้ พบชาวบ้านหลายรายนำผัก, เนื้อสัตว์ และอาหารมาขายบริเวณเกาะกลางถนนที่เป็นพื้นที่แห้งอีกด้วย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารรายหนึ่งซึ่งทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนในรถรับส่งของทหาร ได้เปิดเผยว่า ตนได้เข้ามาประจำการใน อ.บางบัวทอง มากว่า 1 เดือนแล้ว โดยในระยะแรกที่มาตนได้รับมอบหมายให้ไปขนกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำ ต่อมาเมื่อน้ำเข้าท่วมจึงมารับส่งประชาชนเข้าออกในพื้นที่ แต่ก็พบปัญหาและอุปสรรคบ้าง อาทิ เจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่นไม่ให้ความร่วมมือ บางพื้นที่มีการวางตะปูเรือใบ เพื่อไม่ให้รถทหารเข้าพื้นที่ เพราะกลัวว่ารถจะพัดคลื่นน้ำทำให้บ้านของเขาเสียหาย บ้างก็ออกมาด่าทอ บางรายถึงกับนำปืนยิงขึ้นฟ้าขู่เจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งทำให้หน่วยของตนต้องยุติปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ ก็จะมีชาวบ้านบางคนที่ฝ่าฝืนคำเตือนกระโดดลงรถจนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ก็มาต่อว่าพวกตนว่าขับรถไม่ดี ซึ่งตนก็ได้แต่อดทน และต้องไม่ตอบโต้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบางคนก็พูดในเชิงดูหมิ่น เช่น ปลอยให้พวกมันทำไป มันไม่ใช่หน้าที่เรา พวกตนก็มีความรู้สึกน้อยใจบ้างเป็นธรรมดา แต่ทั้งนี้ ตนยืนยันได้ว่า คนส่วนใหญ่ที่พบเป็นคนที่ดี บ้างก็นำข้าว นำน้ำ หรืออุปกรณ์ป้องกันน้ำ มาให้ได้ใช้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังพบว่า ความช่วยเหลือจากภาคส่วนต่างๆ ยังไม่เข้าไปทั่วถึงเท่าที่ควร โดยชาวบ้านย่านวัดส้มเกลี้ยง อ.บางกรวย รายหนึ่ง กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ริมคลองเป็นชาวนนทบุรีโดยกำเนิด บ้านของตนระดับน้ำสูงเกือบถึงชั้น 2 ตั้งแต่เกิดเหตุน้ำท่วมตนได้รับความช่วยเหลือจากทางเทศบาล คือ ได้รับถุงยังชีพ ส่วนทางภาคเอกชนก็มีเข้ามาในพื้นที่ แต่มักจะไปกระจายอยู่ภายในหมู่บ้านจัดสรรในพื้นที่ซึ่งเป็นคนที่เพิ่งเข้ามาอยู่ใหม่และได้รับความเดือดร้อนไม่มากนัก และส่วนใหญ่ก็อพยพออกไปกันแล้ว ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านในหมู่ของตนไม่สามารถหาช่องทางความช่วยเหลืออื่นๆ ให้ได้ เพราะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
