กปน.ยืนยันสามารถคุมน้ำที่ทะลักเข้าในคลองประปาได้แล้ว ชี้ใช้เวลาตรวจสอบคุณภาพน้ำ หากผลิตไม่ได้ก็จะปล่อยให้ไหลผ่าน ย้ำชัดน้ำประปาได้มาตรฐานสูง วอน ปชช.ที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์อย่าพยายามรื้อคันกั้นน้ำ
วันนี้ (31 ต.ค.) นายวิกรม สุวรรณชมพู ผู้ช่วยผู้ว่าการสำนักผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) กล่าวยืนยันถึงกรณีการผลิตน้ำประปาเพื่ออุปโภคและบริโภคของประชาชน กทม.ว่าสามารถควบคุมและเสริมคันกั้นน้ำบริเวณชุมชนวัดนาวง บริเวณหมู่บ้านเมืองเอก จ.ปทุมธานี ทำให้น้ำไม่ไหลลงไปในคลองประปาได้แล้ว ทั้งนี้ ทางการประปายังคงต้องใช้เวลาอีกนิดในการตรวจสอบคุณภาพน้ำบางส่วนที่ไหลลงไปในคลองประปาก่อนหน้านี้ หากอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สามารถใช้ทำน้ำประปาได้ ทางการประปานครหลวงจะปล่อยน้ำช่วงดังกล่าวผ่านไปก่อน ดังนั้นพี่น้องประชาชนชาว กทม.และปริมณฑลไม่ต้องเป็นห่วง
ยืนยันว่าการประปานครหลวงขณะนี้ยังสามารถผลิตน้ำประปาให้ประชาชนได้ เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างแน่นอน อย่างไรก็ดี เพื่อความสบายใจของประชาชนก็สามารถต้มน้ำก่อนนำไปรับประทานได้
นายวิกรมยังกล่าวอีกด้วยว่า ขอร้องพี่น้องประชาชนให้ช่วยดูแลคันกั้นน้ำตลอดแนวสองฝั่งของคลองประปาที่ต้องนำไปผลิตเป็นน้ำเพื่อใช้อุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนกว่า 10 ล้านคนของ กทม. และปริมณฑลด้วย เพราะทุกคนต้องการน้ำที่สะอาดใช้ดื่มกิน หากการประปานครหลวงไม่สามารถผลิตน้ำประปา ที่ถือเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันได้ นอกจากจะกระทบกับสุขภาพของพี่น้องประชาชนแล้ว ยังกระทบต่อเนื่องไปยังเศรษฐกิจ และสังคมเป็นวงกว้างอีกด้วย ดังนั้น การประปานครหลวงจึงขอให้ประชาชนที่อาจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรืออาจเกิดอาการเครียดเพราะน้ำท่วมบ้าน หยุดรื้อกระสอบทรายหรือคันกั้นน้ำดังกล่าว เพราะจะกระทบกับความเป็นอยู่ของทุกคนทั่ว กทม. โดยเฉพาะในภาวะน้ำท่วมเช่นนี้
ผู้ช่วยผู้ว่าการสำนักผู้ว่าการการประปานครหลวงยังกล่าวต่ออีกว่า ส่วนการผลิตน้ำประปาฝั่งตะวันตกของ กทม. ที่โรงงานมหาสวัสดิ์ ล่าสุดได้เพิ่มการผลิตจากวันละ 600,000 ลบ.ม.ต่อวัน เป็นวันละ 800,000 ลบ.ม.ต่อวันแล้ว ทำให้ปริมาณการผลิตเริ่มเพียงพอกับการบริโภคของประชาชนย่านฝั่งธนบุรี และจะเข้าสู่ระดับปกติได้ในเร็วๆ นี้ แต่ยังยอมรับว่ายังมีปัญหาเรื่องสีและกลิ่น แต่ภาพรวมก็ดีกว่าเดิม