“พล.ต.อ.พงศพัศ” เผย “ปู” เลิกฝืนสั่งพื้นที่ไหนรับมือไม่ไหวก็อย่าดันทุรัง เตรียมถก ครม.เฉพาะกิจเรื่องน้ำรองรับอนาคต หาทางป้องกันกรุงเทพฯ สั่ง พม.ปรับศูนย์อพยพหากงานให้ ปชช.ทำ เพื่อรองรับสถานการณ์อยู่ยาวเป็นเดือน ขณะที่ล่าสุดมีรายงาน นวนครท่วมแล้วเกือบเต็มพื้นที่ สูง 50 ซม.
วันที่ 17 ต.ค. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา สบ.10 ในฐานะโฆษกด้านตำรวจของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรี ว่า นายกฯ ได้แสดงความเป็นกังวลว่าน้ำอาจจะมีการกระจายไปในหลายทิศหลายทาง จนส่งลกระทบต่อกทม.จึงอยากให้ทุกฝ่ายไปดูในเรื่องการป้องกันพื้นที่กรุงเทพมหานคร สำหรับในส่วนของจังหวัดต่างๆที่ประสบปัญหาน้ำท่วมมาแล้ว มีความเสียหายเกิดขึ้น ก็ให้ฟื้นฟูกันไป แต่สิ่งที่มองไปในอนาคตคือว่าน้ำจะไปที่ไหน ซึ่งวันอังคารนี้ นายกฯ จะประชุม กับ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งตั้งคืนนี้และวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ได้ขอให้รัฐมนตรีไปทำงาน เพื่อจะมาสรุปภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าทิศทางน้ำใน2-3 วันนี้จะไปทางไหน ถ้าจุดที่น้ำผ่านเมื่อทำทุกวิถีทางแล้วไม่สามารถป้องกันได้ ก็ให้ไปสู่มามาตรการที่ 2-3 ต่อไป เพื่อที่จะไปดูแลจุดนั้น โดยมีเป้าหมายว่าทำอย่างไรไม่ให้ประชาชน กทม.ได้รับผลกระทบ
“นายกฯ พูดชัดเจนว่าถ้ามันจมไปแล้ว ผ่านไปแล้วไม่เป็นไรเดี๋ยวเรามาหาทางฟื้นฟู ดูแลกัน แต่สิ่งที่ต้องการเมื่อรู้ว่าน้ำจะไปทางไหนอย่างไร หากทำไม่ได้ ต้องบอกประชาชน จะอพยพจะเคลื่อนย้ายอะไร ต้องบอกประชาชน เพื่อรักษาชีวิตประชาชนไว้ ถ้าไม่ไหวจริงๆไม่อยากให้ดันทุรัง ต้องเตือนและเอาประชาชนออกมาจากพื้นที่เสี่ยงภัยให้ได้ และให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงอื่นที่เกี่ยวข้อง ไปปรับพัฒนาศูนย์อพยพ ให้ประชาชนอยู่ได้ในระยะยาว เนื่องจากต้องอยู่กันเป็นเดือน และทำให้เกิดการจ้างงาน เพื่อเป็นการเตรียมงานในอนาคต”
พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวต่อว่า หลังจากนี้นายกฯได้ย้ำให้ทุกฝ่ายทำงานกันอย่างใกล้ชิด และให้ศปภ.ติดตาม เมื่อมีการสั่งงานอะไรต้องมีการรายงานทุกวันเพื่อดูว่าอะไรทำได้ไม่ได้ และสิ่งที่ต้องการคือเครื่องสูบน้ำขนาด 12 นิ้ว เพื่อนำไปใช้ในอนาคตที่จะป้องกันสถานที่สำคัญ และในวันอังคารนี้จะมีผู้เชี่ยวชาญมาสรุปข้อมูลว่า ภายใน 2-3 วันข้างหน้าทิศทางของน้ำจะไปทางไหน
เมื่อถามว่ากระแสข่าวการประกาศ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า วันนี้การทำงานภายใต้พระราชบัญญัติการบริหารราชกรแผ่นดินที่มีนายกฯเป็นผู้ออกคำสั่ง ซึ่งทุกฝ่ายได้ให้คำมั่นว่าสามารถดำเนินการไปได้ เพียงแต่ปัญหาเรื่องน้ำเป็นเรื่องที่ไม่สามารถควบคุมได้เหมือนการจัดแถวทหารหรือตำรวจ พื้นที่ไหนพื้นที่ตำก็ไปหมด เพราะฉะนั้นการบริหารจัดการน้ำ นายกฯ เห็นว่า เป็นเรื่องที่เราต้องบริหารจัดการไม่ให้ท่วมในจุดที่สำคัญ ไม่ใช่เป็นภัยร้ายแรงที่ทำประชาชนเสียชีวิต หรือ ต้องดำเนินการอะไรเป็นจำนวนมาก แต่เราจะเน้นการอพยพ และนายกฯ พยายามที่จะหาเครื่องมือทุกวิถีทาง ในการที่จะบริหารจัดการในทุกองคาพยพ สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และกองทัพก็เข้ามาเต็มรูปแบบ
ขณะที่รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมได้มีการสรุปสถานการณ์ล่าสุดของนิคมอุตสาหกรรมนวนคร โดยระบุว่าขณะนี้ถือได้ว่าน้ำได้ท่วมพื้นที่นิคมนวนครแล้วเกือบเต็มพื้นที่ โดยระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซม.
