กรมชลฯเร่งระบายน้ำคลองรังสิต-เขื่อนใหญ่ลดปล่อยน้ำ

กรมชลประทานเร่งระบายน้ำในคลองรังสิต พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพิ่มบริเวณประตู้น้ำจุฬาลงกรณ์-ปลายคลองรังสิตฝั่งตะวันออก ขณะที่น้ำที่นครสวรรค์ลดลง คาดสถานการณ์ดีขึ้นหลังเขื่อนใหญ่ลดปล่อยน้ำ

วันนี้ (17 ต.ค.) ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเร่งระบายน้ำในคลองรังสิตพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เพิ่มเติม บริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เพื่อเร่งระบายน้ำให้ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วยิ่งขึ้น และยังได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณปลายคลองรังสิตฝั่งตะวันออก เพื่อระบายน้ำส่วนหนึ่งออกทางแม่น้ำนครนายก ก่อนระบายลงสู่แม่น้ำบางปะกงและทะเลอ่าวไทยต่อไป

สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 4,560 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากวานนี้ 72 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 60 เซนติเมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท 3,610 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทรงตัวจากวานนี้ ระดับน้ำเหนือเขื่อน สูงกว่าระดับตลิ่ง 72 เซนติเมตร ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงกว่าตลิ่ง 1.21 เซนติเมตร

จังหวัดสิงห์บุรี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,875ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวานนี้เล็กน้อย ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.19 เมตร

จังหวัดอ่างทอง มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,652 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพิ่มขึ้นจากวานนี้เล็กน้อย ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 7 เซนติเมตร

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,479 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากวานนี้ ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 1.28 เมตร

อ.บางไทร มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 3,783 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากวานนี้ 50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 4 เซนติเมตร

แนวโน้มสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ได้ปรับลดการระบายน้ำลงอย่างต่อเนื่อง เหลือวันละ 50 ล้าน ลบม., 20 ล้าน ลบม., 8.70 ล้าน ลบ.ม.และ 26 ล้าน ลบ.ม.ตามลำดับ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง