เยาวชนชุมชนบางลำภูร้องขอพื้นที่โรงพิมพ์คุรุสภาที่ปิดร้าง เป็นพื้นที่สาธารณะใช้ทำกิจกรรม พ้อเรียกร้องมานานแต่ไม่ได้ เผยกรมธนารักษ์เตรียมปรับพื้นที่เป็นที่รับแลกเหรียญกษาปณ์
วันนี้ (14 พ.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. ที่บริเวณป้อมพระสุเมรุ ถ.พระอาทิตย์ น.ส.ปานทิพย์ ลิกขะไชย ตัวแทนกลุ่มชมรมเกสรลำพู ได้นำเด็กและเยาวชนในชุมชนบางลำภูกว่า 20 คน เดินทางมาทำกิจกรรม อาทิ เต้นบีบอย และการเขียนป้ายประกาศ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับทราบความต้องการของเยาวชนในชุมชน ในกรณีกรมะนารักษ์จะปรับพื้นที่อาคารโรงพิมพ์คุรุสภาให้เป็นสถานที่รับแลกเหรียญกษาปณ์
น.ส.ปานทิพย์ กล่าวว่า ได้ชวนน้องๆ ในชุมชนมาทำกิจกรรม เพื่อต้องการให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรับรู้ความต้องการของเด็กๆ ว่าเราต้องการพื้นที่ทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ซึ่งได้มีการเรียกร้องมาเป็นเวลานานแล้ว และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เคยรับปากแล้วว่าจะเร่งดำเนินการให้ เพราะเห็นว่าอาคารโรงพิมพ์คุรุสภายังอยู่ในสภาพใช้การได้
น.ส.ปานทิพย์ กล่าวอีกว่า พื้นที่ในโรงพิพม์คุรุสภาถือว่าค่อนข้างกว้างขวาง สามารถปรับพื้นที่ให้เป็นห้องสมุดสำหรับเยาวชน สถานที่จัดนิทรรศการต่างๆ เป็นพื้นที่ให้เด็กได้ทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ แต่ขณะนี้กรมธนารักษ์ได้ทำการปิดป้ายห้ามเข้า เพื่อที่จะปรับเปลี่ยนเป็นที่แลกเหรียญกษาปณ์
น.ส.ปานทิพย์ กล่าวว่า นโยบายของรัฐบาลบอกอยากให้เด็กและเยาวชนมีพื้นที่สาธารณประโยชน์ แต่ขณะนี้เมื่อพวกเราเรียกร้องขอพื้นที่ แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดให้ความช่วยเหลือ พวกเราขอเพียงพื้นที่แค่ลานของโรงพิมพ์คุรุสภาก็ได้ เพื่อที่จะใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ขอพื้นที่ใต้ถุนอาคารเล็กน้อยไว้ใช้หลบฝนก็ยังดี แต่ตอนนี้ไม่มีเลย ทางชมรมเกสรลำพูจึงได้รวมตัวเด็กๆ ในชุมชนออกมาทำกิจกรรมที่บริเวณด้านข้างป้อมพระสุเมรุ เพื่อเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้ความต้องการ โดยจะจัดทุกวันเสาร์และอาทิตย์ โดยวันนี้เป็นวันแรกที่เราเริ่มจัดกิจกรรม และครั้งต่อไปอาจจะมีการเดินรณรงค์ล้อเลียนให้ความรู้เกี่ยวกับพื้นที่ดังกล่าวให้ผู้ใหญ่ได้รับทราบ
ทั้งนี้ อาคารโรงพิมพ์คุรุสภา (โรงเรียนช่างพิมพ์วัดสังเวช) นับเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของชุมชนบางลำภู โดยสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2468 เป็นโรงพิมพ์ตำราของกระทรงธรรมการ ต่อมาได้เป็นโรงเรียนสอนช่างพิมพ์แห่งแรกของประเทศ และได้หยุดทำการสอนในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ยังคงผลิตตำราเรียน แบบเรียนต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงถูกเปลี่ยนเป็น "โรงพิมพ์วัดสังเวช" โดยในปี พ.ศ.2493 ถูกโอนเข้ามาอยู่กับองค์การค้าคุรุสภา และเปลี่ยนชื่อเป็น "โรงพิมพ์คุรุสภาพระสุเมรุ"
ต่อมาหลังการเปิดโรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าวอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.2501 งานพิมพ์ตำราเรียนจึงเปลี่ยนมาจัดพิมพ์ที่ลาดพร้าว อาคารโรงพิมพ์คุรุสภาพระสุเมรุได้รับใช้คุรุสภาจนถึงปี พ.ศ.2538 จึงหมดสัญญากับกรมธนารักษ์ และอยู่ในความดูแลของกรมธนารักษ์ และถูกทิ้งร้างไว้จนถึงปัจจุบัน
สำหรับหนังสือแบบเรียนที่เคยถูกตีพิมพ์ที่โรงพิมพ์คุรุสภา อาทิ หนังสือวรรณคดีไทย ได้แก่ พระอภัยมณี ขุนช้างขุนแผน อิเหนา สามก๊ก รามเกียรติ์ แบบเรียนประถมศึกษา 1-4 และมัธยมศึกษา 1-6 เป็นต้น
