เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ออกตรวจร้านจำหน่ายของเก่าในตลาดนัดสวนจตุจักร พร้อมทำความเข้าใจและตรวจสอบใบอนุญาตทำการค้าโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ ระบุ กว่า 200 ร้านค้า พบเพียง 37 ร้านค้า ที่มีใบอนุญาตการค้าเท่านั้น ซ้ำร้ายร้านค้าหลายร้านเลี่ยงการตรวจสอบ ปิดร้านเงียบ
วันนี้(28 พ.ย.) เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร และภัณฑารักษ์ หรือเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ออกตรวจร้านจำหน่ายของเก่าในตลาดนัดสวนจตุจักร พร้อมทำความเข้าใจและตรวจสอบใบอนุญาตทำการค้าโบราณวัตถุและศิลปวัตถุซึ่งกว่า 200 ร้านค้า พบเพียง 37 ร้านที่มีใบอนุญาตการค้า โดยผู้ค้าส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าค่าใช้จ่ายในการขอใบอนุญาตมีราคาแพง
ด้าน นายเขมชาติ เทพไชย รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ร้านค้าส่วนใหญ่ภายในสวนจตุจักรจะเป็นร้านจำหน่ายศิลปวัตถุ ซึ่งจากการตรวจสอบในวันนี้ (28 พ.ย.) ถือเป็นการป้องกันเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เจ้าของร้านรับซื้อของโจรที่ขโมยมา ส่วนที่เจ้าของร้านอ้างว่า การขอใบอนุญาตมีค่าใช้จ่ายสูง เห็นว่าเป็นข้ออ้าง เพราะจากการตรวจสอบทุกปีเจ้าของร้านมักอ้างเหตุผลเดิม
ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบว่าร้านค้าหลายร้านไม่เปิดจำหน่ายในวันนี้ บางร้านอ้างว่าเป็นเจ้าของเดียวกัน สำหรับการขอใบอนุญาตหากร้านที่จำหน่ายโบราณวัตถุซึ่งเป็นของที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป จะต้องเสียค่าธรรมเนียมปีละ 10,000 หมื่นบาท ส่วนร้านที่จำหน่ายศิลปวัตถุที่ทำขึ้นมาใหม่และเลียนแบบของจริง หรือว่าเป็นงานที่มีฝีมือจะเสียค่าธรรมเนียมปีละ 2,000 บาท
วันนี้(28 พ.ย.) เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร และภัณฑารักษ์ หรือเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ออกตรวจร้านจำหน่ายของเก่าในตลาดนัดสวนจตุจักร พร้อมทำความเข้าใจและตรวจสอบใบอนุญาตทำการค้าโบราณวัตถุและศิลปวัตถุซึ่งกว่า 200 ร้านค้า พบเพียง 37 ร้านที่มีใบอนุญาตการค้า โดยผู้ค้าส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่าค่าใช้จ่ายในการขอใบอนุญาตมีราคาแพง
ด้าน นายเขมชาติ เทพไชย รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ร้านค้าส่วนใหญ่ภายในสวนจตุจักรจะเป็นร้านจำหน่ายศิลปวัตถุ ซึ่งจากการตรวจสอบในวันนี้ (28 พ.ย.) ถือเป็นการป้องกันเบื้องต้นเพื่อไม่ให้เจ้าของร้านรับซื้อของโจรที่ขโมยมา ส่วนที่เจ้าของร้านอ้างว่า การขอใบอนุญาตมีค่าใช้จ่ายสูง เห็นว่าเป็นข้ออ้าง เพราะจากการตรวจสอบทุกปีเจ้าของร้านมักอ้างเหตุผลเดิม
ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบว่าร้านค้าหลายร้านไม่เปิดจำหน่ายในวันนี้ บางร้านอ้างว่าเป็นเจ้าของเดียวกัน สำหรับการขอใบอนุญาตหากร้านที่จำหน่ายโบราณวัตถุซึ่งเป็นของที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป จะต้องเสียค่าธรรมเนียมปีละ 10,000 หมื่นบาท ส่วนร้านที่จำหน่ายศิลปวัตถุที่ทำขึ้นมาใหม่และเลียนแบบของจริง หรือว่าเป็นงานที่มีฝีมือจะเสียค่าธรรมเนียมปีละ 2,000 บาท