"แกนนำกะเหรี่ยงสาละวิน-เครือข่ายภาคประชาชน" ตบเท้าเข้าพบนายกฯ ยื่นหนังสือต้าน กฟผ.สร้างเขื่อนฮัตจี โดยระบุหากสร้างจะเกิดปัญหาร้ายแรงทั้งด้านมนุษยชนและระบบนิเวศ ชี้ ไม่โปร่งใสหมกเม็ดข้อเท็จจริงขัดแถมรธน.50หลายข้อ
วันนี้ ( 23 พ.ย. ) นายนุ ชำนาญคีรีไพร แกนนำชาวกะเหรี่ยงลุ่มน้ำสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยตัวเเทนภาคประชาสังคม นิิสิตนักศึกษา ได้เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ยกเลิกการสนับสนุนให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยดำเนินโครงการสร้างเขื่อนฮัตจีบนแม่น้ำสาละวิน และหลังจากนั้นจะไปยื่นหนังสือกับนางศรีประภา เพชรมีศรี ผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนอาเซียนอีกรอบ
ทั้งนี้สาเหตุที่แกนนำชาวกะเหรี่ยงต้องเข้ายื่นหนังสือเพื่อขัดขวางการสร้างเขื่อนเนื่องจากจะก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงหลายประการ เช่น ปัญหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศพม่า ปัญหาไทยต้องแบกภาระผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงจากชุมชนรอบๆ เขื่อนมากขึ้น หลังจากทางการพม่าขับไล่ อีกทั้งยังปิดกั้นการอพยพของปลา และเปลี่ยนระบบนิเวศของแม่น้ำสาละวินไปโดยสิ้นเชิง ทำให้การปลูกพืชฤดูแล้งบนฝั่งแม่น้ำสาละวินและแม่น้ำเมยได้รับความเสียหายอย่าง รุนแรง
นอกจากนี้ แกนนำกะเหรี่ยงกล่าวด้วยว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กำลังผลักดันโครงการเขื่อนในพม่าโดยปราศจากความโปร่งใส และมีแนวโน้มที่จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 หลายประการ นับตั้งแต่การที่พื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนฮัตจี จะกินพื้นที่เข้ามาในเขตไทย ที่บ้านสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังมิได้ปักปันเขตแดนระหว่างไทยและพม่าให้ชัดเจน จนกระทั่งบัดนี้ กฟผ.ยังไม่เคยเปิดเผยผลการศึกษาที่อ้างว่าเคยได้ดำเนินการต่อสาธารณชนไทยไว้แล้ว