จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในขณะนี้นั้น จากข้อมูลพบว่ากลุ่มที่มีการแพร่ระบาดมากที่สุดคือกลุ่มเด็กนักเรียนมัธยม โดยมีสถาบันกวดวิชาเป็นแหล่งสำคัญในการแพร่เชื้อ เนื่องจากความแออัดคับแคบของสถานที่ซึ่งเอื้อต่อการติดต่อและแพร่กระจายเชื้อไวรัสดังกล่าว ดังตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในกรณีของเด็กนักเรียนโรงเรียนเซนต์คาเบียล และนักเรียนโรงเรียนนวมินทราชูทิศ เตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า ซึ่งได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 มาจากสถาบันกวดวิชา ส่งผลให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ต้องสั่งปิดโรงเรียนกวดวิชาที่ตรวจพบว่ามีเด็กติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เป็นการชั่วคราว รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความสะอาดของสถาบันกวดวิชาต่างๆอีกด้วย
ดังนั้นการเรียนกวดวิชาผ่านเว็บไซต์จึงนับเป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยให้เด็กๆสามารถเพิ่มพูนความรู้ได้โดยไม่ต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009
ซึ่งเว็บไซต์อันดับต้นๆที่ได้รับการยอมรับในประสิทธิภาพการติวเข้มผ่านระบบอินเทอร์เน็ตก็คือ www.tutoronline.co.th ที่เปิดสอนวิชาต่างๆมาเกือบ 2 ปีแล้ว และด้วยผลงานที่สามารถผลักดันให้เด็กจำนวนไม่น้อยสามารถฝ่าด่านอรหันต์เอนทรานซ์ติดในสถาบันอุดมศึกษาต่างๆได้ในปีที่ผ่านๆมานั้นทำให้ชื่อเสียงของ ‘ติวเตอร์ออนไลน์’ กลายเป็นที่รู้จักของเด็กๆและผู้ปกครองที่มองเห็นว่าการศึกษาคือรากฐานสำคัญในการสร้างอนาคต
เซฟค่าใช้จ่าย ไม่ต้องเหนื่อยเดินทาง
‘เปรมกมล พูลละผลิน’ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคมปัส ติวเตอร์ ออนไลน์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เปิดสอนกวดวิชาผ่านเว็บไซต์ www.tutoronline.co.th บอกเล่าถึงที่มาของเว็บไซต์กวดวิชาแห่งนี้ว่า เกิดจากแนวคิดที่ต้องการช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองที่ต้องจ่ายเงินจำนวนมากเป็นค่าเรียนกวดวิชาของบุตรหลาน ทำให้เธอเริ่มมองหาช่องทางใหม่ๆในการเรียนการสอนที่สามารถติวเข้มให้นักเรียนได้โดยที่เด็กไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากนัก
“ คือมีรุ่นพี่ที่รู้จักหลายๆคนชอบมาบ่นให้ฟังว่าต้องจ่ายค่าเรียนพิเศษให้ลูกๆเยอะมาก เทอมละเป็นหมื่นเลย ยิ่งถ้าเป็นสถาบันกวดวิชาดังๆค่าเรียนยิ่งแพงใหญ่ แล้วเขาก็สงสารลูกๆที่เรียนกันเหนื่อยมาก วันธรรมดาโรงเรียนเลิกแล้วยังไปเรียนกวดวิชา กว่าจะกลับถึงบ้านก็ค่ำ เสาร์-อาทิตย์ก็ต้องตื่นแต่เช้าไปเรียนพิเศษอีก จะไม่เรียนก็ไม่ได้ ไม่ทันเพื่อนเขา จะไปสอบแข่งกับใครก็ลำบาก เลยมาคิดว่า เอ๊ะ..มันจะมีช่องทางไหนบ้างที่เด็กๆเขาสามารถเรียนกวดวิชาได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าเรียนแพงๆ และเด็กไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง
วันหนึ่งระหว่างที่เปิดดูข่าวทางเว็บไซต์เราก็สังเกตว่า เออ..เดี๋ยวนี้เว็บไซต์มันทำอะไรได้หลายอย่าง สัมภาษณ์ดาราแล้วเอาวิดีโอมาออนไลน์ก็ได้ คุยกันผ่านเว็บบอร์ดก็ได้ คือการสื่อสารมันสะดวกรวดเร็วมาก ก็เลยคิดว่าถ้าเราเอาตรงนี้มาปรับใช้กับการติววิชาต่างๆให้แก่นักเรียนที่ปกติเขาต้องไปเรียนพิเศษตามสถาบันกวดวิชาต่างๆก็น่าจะเป็นประโยชน์แก่เด็ก และค่าใช้จ่ายในการเรียนมันก็คงจะถูกกว่าสถาบันกวดวิชาเพราะว่าไม่ต้องเสียค่าแอร์ ค่าเช่าสถานที่ ก็เลยลองปรึกษากับพี่ๆที่เขามีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ดู จนได้ข้อสรุปว่าถ้างั้นเรามาทำสถาบันกวดวิชาทางเว็บไซต์กันดีกว่า ก็เลยออกมาเป็นเว็บไซต์ www.tutoronline.co.th ซึ่งเปิดติววิชาต่างๆทางอินเทอร์เน็ต โดยเก็บค่าใช้จ่ายในราคาถูก ทำมาถึงวันนี้ก็เกือบๆ 2 ปีแล้ว ” เปรมกมล กล่าว
ทั้งนี้ สถาบันติวเตอร์ออนไลน์เปิดสอนในระดับมัธยมปลายเป็นหลัก โดยมี 6 รายวิชาให้เลือกเรียน คือ อังกฤษ คณิตศาสตร์ ภาษาไทย สังคม ฟิสิกส์ เคมี และวิชาพื้นฐานวิศวะ ส่วนในระดับมัธยมต้นนั้นปัจจุบันมีเพียงคอร์สวิชาภาษาอังกฤษเพียงวิชาเดียว
ซึ่งข้อดีอย่างหนึ่งของการกวดวิชาผ่านเว็บไซต์ก็คือเด็กๆไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางไปเรียนกวดวิชาตามสถาบันต่างๆ นักเรียนจะคลิกเข้าไปเรียนในวิชาไหนเมื่อไรก็ได้ เนื่องจากเป็นระบบออนไลน์ 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถคลิกเข้าเรียนซ้ำในบางบทบางตอนที่ยังไม่เข้าใจ หรือหากรู้สึกว่าอาจารย์พูดเร็วไปและฟังตามไม่ทันก็สามารถรีเพลย์กลับมาดูใหม่ได้
“ ระบบนี้เหมือนกับเราส่งติวเตอร์ไปติวเข้มให้เด็กๆถึงที่บ้าน เด็กไม่ต้องเสียเวลานั่งรถไปเรียนไกลๆให้เหนื่อย ทำให้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น แต่ยังได้ความรู้จากการเรียนพิเศษเหมือนเดิม ขณะเดียวกันก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองด้วยเพราะนอกจากค่าเล่าเรียนจะถูกแล้ว เด็กๆก็ยังไม่ต้องเสียค่ารถ ค่าเรือ หรือค่าอาหาร เหมือนกับการไปเรียนพิเศษนอกบ้านอีกด้วย” เปรมกมลพูดถึงข้อดีของการเรียนกวดวิชาผ่านทางเว็บไซต์
ประหยัดคุ้มกับคอร์สบุฟเฟ่ต์
สำหรับค่าเรียนในแต่ละวิชาแต่ละคอร์สของติวเตอร์ออนไลน์นั้นนับว่าถูกกว่าสถาบันกวดวิชาต่างๆถึง 3-4 เท่าเลยทีเดียว โดยคอร์สที่เปิดสอนจะมี 2 แบบให้เลือก คือคอร์สบุฟเฟ่ต์ ซึ่งสามารถเรียนได้ทุกวิชา และคอร์สรายวิชา ซึ่งในแต่ละคอร์สจะเป็นการเลือกเรียนวิชาใดวิชาหนึ่ง แต่สามารถลงเรียนพร้อมกันหลายๆคอร์สได้ ซึ่งวิธีการซื้อคอร์สเรียนก็ง่ายมาก เพียงแค่เข้าไปในเว็บไซต์ www.tutoronline.co.th คลิกเลือกคอร์สหรือบทเรียนในแต่ละวิชาที่ต้องการ หน้าเว็บจะปรากฏยอดเงินที่ต้องชำระ กรอกรายละเอียดส่วนตัว แล้วคลิกส่งคำสั่งซื้อ และชำระเงินผ่านทางธนาคาร จากนั้นทางติวเตอร์ออนไลน์จะจัดส่งพาสเวอร์ดให้ตามอีเมลที่ระบุ ผู้เรียนก็สามารถนำพาสเวอร์ดดังกล่าวมาล็อกอินในวิชาที่เลือกเรียนได้ทันที
ซึ่งในส่วนของเอกสารประกอบการเรียนนั้นหากเป็นคอร์สเรียนแบบรายวิชา ทางสถาบันได้รวมค่าตำราไว้ในคอร์สที่เรียนแล้ว พร้อมทั้งจะดำเนินการจัดส่งเอกสารให้ถึงบ้าน แต่หากเป็นคอร์สแบบบุฟเฟต์ ทางผู้เรียนก็สามารถเลือกได้ว่าจะดาวน์โหลดตำราเรียนและนำไฟล์ที่ได้ไป print เป็นเอกสารเอง หรือจะสั่งซื้อตำราเรียนจากทางสถาบัน
“ ต้องบอกว่าค่าเรียนของเราถูกกว่าสถาบันกวดวิชาทั่วๆไปค่อนข้างมาก อย่างคอร์สบุฟเฟ่ต์ 499 บาท ระยะเวลา 30 วัน นี่ถือว่าคุ้มสุดๆ คือคอร์สนี้นักเรียนจะสามารถคลิกเข้าเรียนได้ทุกวิชาและทุกระดับชั้นที่เราเปิดสอน จะคลิกเข้าไปเรียนเรื่องอะไร เมื่อไรก็ได้ เรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งต่างจากการไปเรียนกับสถาบันกวดวิชาซึ่งเด็กต้องลงเรียนตามช่วงเวลาที่อาจารย์เปิดสอน ถ้าวันไหนเด็กเกิดป่วยไปเรียนไม่ได้ ไปเรียนอีกทีก็ต่อไม่ติดแล้ว ระยะเวลาเรียน 30 วัน ก็ตกแค่วันละ 16 บาทเท่านั้น แต่สามารถเรียนได้ถึง 6 วิชา ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่เด็กปิดเทอมเขาก็นั่งเรียนได้ทั้งวัน ถ้าเบื่อก็ลุกไปทำอย่างอื่น หายเบื่อก็คลิกเข้ามาเรียนใหม่ หรือจะแชร์กันกับเพื่อนๆโดยใช้พาสเวิร์ดเดียวกันก็ได้ ใครสะดวกเรียนวันไหน เช้า สาย บ่าย เย็น ก็แบ่งกันเอา หรือจะเลือกคอร์สระยะสั้นแบบบุฟเฟต์ 199 บาท ระยะเวลา 10 วัน ก็แล้วแต่สะดวก เรียนได้ทุกวิชาทุกระดับชั้น ตลอด 24 ชั่วโมงเหมือนกัน
แต่ถ้าต้องการจะเรียนในบางวิชาเท่านั้น ก็สามารถเลือกคอร์สแบบเรียนเป็นรายวิชา ซึ่งคอร์สนี้จะมีระยะเวลาเรียนนานถึง 6 เดือน และคิดค่าเรียนตามจำนวนเรื่องที่เลือก เช่น เลือกเรียนภาษาอังกฤษระดับ ม.4 จำนวน 5 เรื่อง ราคารวม 750 บาท และเรียนวิชาฟิสิกส์ ม.4 อีก 4 เรื่อง ราคารวม 1,200 บาท รวมทั้งหมดเป็น 1,950 บาท บวกค่าจัดส่งตำราเรียนทางไปรษณีย์อีก 40 บาท ก็เป็น 1,990 บาท ซึ่งจะดีตรงที่ระยะเวลาการเรียนนานกว่า และในแต่ละวิชาก็ยังสามารถเลือกเรียนเฉพาะเรื่องที่ต้องการได้ คือถ้าในวิชานั้นๆเด็กยังอ่อนเรื่องไหนก็เลือกเรียนเฉพาะเรื่องนั้น” เปรมกมล อธิบายถึงการเลือกคอร์สเรียนของติวเตอร์ออนไลน์
ทีมงานติวเตอร์มืออาชีพ
เนื่องจากเป็นสถาบันกวดวิชาแนวใหม่ ทำให้นักเรียนบางคนอาจกังวลว่าอาจารย์ผู้สอนของเว็บไซต์ติวเตอร์ออนไลน์จะมีความรู้ความสามารถมากน้อยเพียงใด สู้ติวเตอร์ที่สอนประจำตามสถาบันกวดวิชาได้หรือไม่ และมีประสบการณ์ในการสอนมาก่อนหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคมปัส ติวเตอร์ ออนไลน์ ไขข้อข้องใจให้ฟังว่า อาจารย์ส่วนใหญ่นั้นจะมาจากสถาบันกวดวิชาที่มีชื่อ มีประสบการณ์การสอนมายาวนาน ที่สำคัญยังมีเทคนิคในการจำและ เคล็ดลับในการแก้โจทย์ต่างๆแบบง่ายๆ ทำให้เด็กสามารถเข้าใจในเนื้อหา และตอบโจทย์ทุกแนวได้อย่างทะลุปรุโปร่ง อีกทั้งอาจารย์บางท่านยังเป็นถึงเจ้าของสถาบันกวดวิชาเลยทีเดียว
“ ติวเตอร์ของเราแต่ละท่านนี่ระดับหัวกะทิทั้งนั้น แล้วก็มีเทคนิคการสอนเฉพาะตัว เรียกได้ว่านอกจากเด็กจะสนุกสนานกับการเรียนแล้ว ก็ยังได้สูตรได้เทคนิคในการทำข้อสอบในแต่ละวิชาด้วย อาจารย์บางคนก็เป็นเจ้าของสถาบันกวดวิชาแต่แบ่งเวลามาสอนให้เรา เช่น อาจารย์หนึ่ง (อาจารย์วีรพล ปัญญาวิสุทธิกุล) ที่สอนวิชาคณิตศาสตร์ เป็นเจ้าของสถาบัน Nisit Tutor อยู่ที่สยามสแควร์ ซอย 9 หรืออย่างอาจารย์อ้วน (อาจารย์อิสเรศ ปิตินวกรรม) ซึ่งสอนวิชาฟิสิกส์ ก็มีประสบการณ์เยอะ เป็นหัวหน้าทีมสอนฟิสิกส์ และเป็นคนวางหลักสูตรของสถาบัน The Tutor อีกทั้งยังเป็นผู้แต่งตำราคู่มือเตรียมสอบฟิสิกส์ที่ขายดีในประเทศไทยด้วย
อีกคนที่เด็กๆติดกันมากคืออาจารย์ฮ้วง (อาจารย์เสาวลักษณ์ ลี้รุ่งเรืองพร) ที่สอนภาษาอังกฤษ เพราะเขาสอนสนุก คืออาจารย์ฮ้วงนี่สอนพิเศษที่สถาบันกวดวิชา The Tutor ด้วย แล้วก็มาดังมากๆตอนที่สอนในรายการ Happy English ที่ออกอากาศทางช่อง Happy Variety สถานีโทรทัศน์ ASTV แต่ละวิชาเราจะมีอาจารย์สอนหลายท่าน ซึ่งเด็กๆสามารถเลือกได้ว่าชอบสไตล์การสอนของอาจารย์ท่านไหน คือก่อนที่จะสมัครเรียนก็คลิกเข้ามาดูตัวอย่างการสอนของอาจารย์แต่ละท่านก่อนได้ หรือจะทดลองเรียนฟรีก็คลิกเข้ามาสมัครทดลองเรียนได้ โดยเราเปิดโอกาสให้ทดลองเรียนฟรีนานถึง 1 เดือนเลยทีเดียว”
ตอบทุกเรื่องทันใจในเว็บบอร์ด
อย่างไรก็ดี การกวดวิชาผ่านเว็บไซต์นั้นก็ยังเป็นที่กังขาว่าในกรณีที่เด็กไม่เข้าใจในบทเรียนจะปรึกษาหรือสอบถามอาจารย์ผู้สอนได้อย่างไร ซึ่งประเด็นนี้ เปรมกมล ชี้แจงว่า นักเรียนสามารถสอบถามปัญหาต่างๆกับอาจารย์ผ่านทางเว็บบอร์ดของเว็บไซต์ติวเตอร์ออนไลน์ได้ โดยอาจารย์แต่ละท่านจะเข้ามาตอบคำถามให้ทุกวัน หรือในกรณีที่อาจารย์ติดภารกิจจริงๆก็จะมีเจ้าหน้าที่ของทางเว็บไซต์ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ในสาขาวิชาต่างๆเข้ามาตอบคำถามแทน
“ คือเราจะมีหน้าเว็บบอร์ดของอาจารย์แต่ละท่านโดยเฉพาะ เด็กๆเขาก็จะเข้ามาถามปัญหาที่เขาสงสัย ไม่เข้าใจตรงไหน ทำโจทย์ข้อนั้นข้อนี้ไม่ได้ ซึ่งบางทีก็ไม่ใช่เนื้อหาในคอร์สที่เรียนนะ อย่างบางคนทำการบ้านไม่ได้ ก็เขียนเข้ามาถาม อาจารย์ก็เฉลยให้ อยากให้เฉลยข้อสอบ GAT สงสัยเรื่อง ONET หรือจะไปเรียนต่อต่างประเทศ เด็กๆเขาถามทุกเรื่อง (หัวเราะ) อาจารย์ก็ไปหาข้อมูลมาตอบให้ แล้วเวลาเด็กเขียนเข้ามาถามนี่อาจารย์แองเขาก็ภูมิใจนะคะ เพราะถึงจะเป็นอาจารย์ออนไลน์แต่ช่วยเด็กๆได้เยอะ คืออาจารย์ที่นี่จะค่อนข้างสนิทกับลูกศิษย์ เป็นทั้งอาจารย์ผู้สอน อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์แนะแนว อีกอย่างอาจารย์ก็ยังดูวัยรุ่นกันทุกคน ถึงบางคนจะอายุไม่น้อยแล้ว (หัวเราะ) เขาก็เลยเข้าใจเด็กๆได้ดี และแม้แต่เด็กที่เข้ามาเรียนในเว็บไซต์นี้เขาก็จะมีสังคมในเว็บบอร์ดของเขา อย่างเด็กคนหนึ่งเข้ามาถามว่าโจทย์ข้อนี้แก้ยังไง เด็กอีกคนแก้โจทย์ได้เขาก็เข้ามาตอบให้ แล้วถ้าทีมงานของเราดูแล้วเด็กเขาตอบถูกเราก็ปล่อยไป แต่ถ้าตอบผิดเราลบออกจากเว็บบอร์ด บางทีเขาก็คุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กันตามประสาเด็กๆ ” เปรมกมล พูดถึงการสื่อสารระหว่างนักเรียนและอาจารย์ผู้สอนผ่านเว็บบอร์ด ซึ่งนับเป็นการสื่อสารแบบสองทางที่มีประสิทธิภาพไม่น้อยทีเดียว
ทั้งนี้ นอกจากจะมุ่งให้ความรู้แก่เด็กๆผ่านทางเว็บไซต์ซึ่งถือเป็นการพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาให้แก่เยาวชนของชาติแล้ว สถาบันแห่งนี้ก็หาได้มองข้ามปัญหาทางสังคมที่กำลังบั่นทอนสติปัญญาของเด็กๆอย่างปัญหาเด็กติดเกมส์ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมไทยอยู่ในขณะนี้ ดังนั้นเว็บไซต์กวดวิชาติวเตอร์ออนไลน์จึงได้ร่วมมือกับกระทรวงวัฒนธรรมในการรณรงค์ ‘โครงการร้านเกมส์สีขาว’ โดยได้แจกพาสเวิร์ดให้แก่ร้านอินเทอร์เนตในเขตกรุงเทพมหานครที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ จำนวน 200 กว่าร้าน เพื่อให้เด็กๆที่เข้าไปใช้บริการในร้านอินเทอร์เนตดังกล่าวได้มีโอกาสเรียนกวดวิชาผ่านเว็บไซต์ www.tutoronline.co.th โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
ขณะที่การเรียนกวดวิชาเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านการศึกษาดูจะกลายเป็นสิ่งจำเป็นต่ออนาคตของเด็กไทย การกวดวิชาผ่านเว็บไซต์จึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งของเด็กๆและผู้ปกครองที่พยายามหลีกเลี่ยงการเรียนพิเศษในสถาบันกวดวิชาต่างๆซึ่งกำลังเป็นแหล่งแพร่เชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 อยู่ในขณะนี้
* * * * * * * * * *
เรื่อง – จินดาวรรณ สิ่งคงสิน
ภาพ - จิรโชค พันทวี