วันนี้( 22 เม.ย.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนางศุภรัตน์ นาคบุญนำ ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ดังนี้
มหาดไทยสั่งโยกย้ายผู้ว่าฯ 16ตำแหน่งทั่วประเทศ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า สืบเนื่องจากการที่กระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 จำนวนทั้งสิ้น 17 ตำแหน่ง โดยมี 1 ตำแหน่งเป็นกรณีเฉพาะ โดยกระทรวงมหาดไทยมีตำแหน่งระดับ 10 ว่าง 2 ตำแหน่ง เหตุผลเพราะว่าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวังรับโอนนายประสงค์ พิทูรกิจจา ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรัขันธ์ ไปรับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนในพระองค์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง เทียบเท่ารองเลขาธิการสำนักพระราชวัง จำนวน 1 ตำแหน่ง และคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้กำหนดตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือนักบริหาร 10 สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เพิ่มเติมจำนวน 1 ตำแหน่ง นอกเหนือจากนายประสงค์ แล้ว อีก 16 ตำแหน่งก็มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1.นายปานชัย บวรรัตนปราณ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่ราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
2.นายเจตน์ ธนวัฒน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น
3.นายไพรรัตน์ สกลพันธุ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก
4.นายสุวัฒน์ ตันประวัติ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
5.นายสุกิจ เจริญรัตนกุล พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ
6.นายพลวัตร ชยานุชร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ
7.นายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง
8.นายเดชา ตันติยวรงค์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์
9.นายอธิคม สุพรรณพงศ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู
10.นายธนเษก อัศวานุวัตร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดเกระทรวงฯ
11.นายปรีชา กมลบุตร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
12.นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ
13.นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
14.นายประชา จิตสุทธิผล พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์
15.นายอมรพันธ์ นิมานันท์ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมการปกครอง ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน
16.นางสาวเรืองวรรณ บัวนุช ตำแหน่งรองผู้ว่ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม หลังจากเรื่องนี้ก็มีเรื่องสำคัญอยู่อีก 4-5 เรื่อง เรื่องแรก
ครม.เห็นชอบกฎหมายพิจารณาหลักประกัน เกี่ยวกับโครงการจัดปฏิรูปที่ดิน
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาหลักประกันเพื่อความมั่นคง และคุ้มครองผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการจัดปฏิรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ.2551 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาหลักประกันเพื่อความมั่นคง และคุ้มครองผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ.2551 มีสาระโดยสรุป ดังนี้
1.กำหนดให้ผู้เสนอโครงการจัดรูปที่ดินยื่นหลักประกันต่อคณะกรรมการส่วนจังหวัดแห่งท้องที่ที่โครงการนั้นตั้งอยู่ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการส่วนจังหวัดมีมติให้เรียกหลักประกัน 2.ให้คณะกรรมการส่วนจังหวัดกำหนดให้ผู้เสนอโครงการจัดรูปที่ดินวางหลักประกันในกรณีของที่ดิน และงานก่อสร้างโดยแยกจากกันตามที่กำหนด 3.กำพหนดประเภทของหลักประกัน และกำหนดให้คืนหลักประกันแก่ผู้เสนอโครงการจัดรูปที่ดินตามที่กำหนดมีรายละเอียดของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ ถ้าสื่อมวลชนสนใจเจ้าหน้าที่จะสำเนาให้ภายหลังการแถลงข่าว
ครม.รับทราบการลงนามMOUระหว่างมท. กับUNHCR
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบการลงนามในบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยู ระหว่างการะทรวงมหาดไทยกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ประจำภูมิภาคในประเทศไทยตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า UNHCR ได้เสนอบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยู ในการให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาผู้หนีภัยการสู้รบในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบริเวณชายแดนไทย-พม่า ของ UNHCR ในโครงการจัดทำทะเบียนผู้หนีภัยการสู้รบ และการพิจารณาสถานะบุคคลสัญชาติพม่าปี 2551 และกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการตรวจสอบบันทึกความเข้าใจดังกล่าวแล้ว เห็นว่าสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวเป็นไปตามบันทึกความเข้าใจซึ่งได้เคยพิจารณา และดำเนินการไปแล้วเมื่อปี 2548 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 และเป็นไปตามนโยบายและแนวทางที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติกำหนดเอาไว้แล้ว จึงได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยู ที่ UNHCR เสนอไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2551
ครม.เห็นชอบร่างพรฎ.เงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการฯ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ... ที่คณะรัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติอนุมัติหลักการ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป คือเออร์ลี่ รีไทร์
ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ... มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดให้ข้าราชการซึ่งมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการให้เงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการต้องเป็นข้าราชการในสังกัดส่วนราชการ ดังต่อไปนี้
1.1 ส่วนราชการที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกจากระบบราชการ
1.2 ส่วนราชการที่ประสงค์จะยุบเลิกบางภารกิจ
1.3 ส่วนราชการที่มีอัตรากำลังเกินความจำเป็น
1.4 ส่วนราชการที่มีจำนวนข้าราชการตั้งแต่อายุ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนข้าราชการทั้งหมดของส่วนราชการนั้น
2. กำหนดคุณสมบัติของข้าราชการซึ่งจะเข้าร่วมโครงการ โดยต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป หรือมีเวลาราชการตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ให้นับถึงวันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ และมีเวลาราชการที่เหลือไม่น้อยกว่า 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ โดยวันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการต้องอยู่ในระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 - 1 ตุลาคม 2555 ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขของโครงการและกำหนดลักษณะต้องห้ามของข้าราชการที่จะเข้าร่วมโครงการ เช่น ไม่เป็นอยู่ระหว่างถูกสั่งพักราชการ ไม่เป็นผู้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องออกจากราชการ และไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับส่วนราชการ เป็นต้น
3. กำหนดให้จ่ายเงินช่วยเหลือแก่ข้าราชการซึ่งได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ ตามโครงการเป็นจำนวน โดยวิธีการคำนวนจะคำนวน โดยเอาจำนวนปีของเวลาราชการที่เหลือบวกด้วยแปด แล้วคูณเงินเดือนเดือนสุดท้ายแต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 15 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย
4. กำหนดให้โครงการที่ได้ดำเนินการก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้บังคับใช้ เป็นโครงการตามพระราชกฤษฎีกานี้ และให้ข้าราชการซึ่งแสดงความประสงค์และได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการดังกล่าวก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้บังคับใช้ เป็นการแสดงความประสงค์ และได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ซึ่งพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้จะบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ครม.เห็นชอบเลื่อนสองขั้นกำลังพลใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ 2 ขั้น นอกเหนือโควต้าปกติ จากงบกลางเพิ่มเติม ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เรื่องนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน.ได้รายงานต่อที่ประชุม ครม.ว่าการปฏิบัติงานของกำลังพลใน กอ.รมน.ภาค 4 เป็นการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกำลังพลต้องตรากตรำทำงานอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย และอยู่ในภาวะกดดันทางด้านจิตใจจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัวในขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต่างจากกำลังพลที่ปฏิบัติงานทั่วไปในพื้นที่อื่นๆ สภาวการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความตึงเครียด ทำให้กำลังพลบางหน่วยจำเป็นต้องหมุนเวียนกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่คราวละ 6 เดือน กอ.รมน.จึงพิจารณาเห็นว่าการหมุนเวียนกำลังพลมาปฏิบัติหน้าที่คราวละ 6 เดือนดังกล่าว ทำให้กำลังพลที่มาปฏิบัติงานในรอบครึ่งปีแรกไม่ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี เนื่องจากการคิดยอดบำเหน็จความชอบประจำปีกรณีพิเศษ 2 ขั้น นอกเหนือจากโควต้าปกติ เขาจะพิจารณากันในวงรอบการพิจารณาบำเหน็จประจำครึ่งปีหลังเท่านั้น ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ และเป็นค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของกำลังพลดังกล่าว กอ.รมน.จึงนำเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ สนับสนุนการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ 2 ขั้นจากงบกลาง ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การกำกับดูแลของ กอ.รมน.ภาค 4 ประจำปีงบประมาณ 2551 นี้ โดยให้ได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนในรอบครึ่งปีแรกของปีงบประมาณเพิ่มเติม ในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนข้าราชการผู้มาปฏิบัติงานใน กอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่คือประเด็นที่เป็นมติของ ครม.ในส่วนที่ผมนำเสนอต่อสื่อมวลชนวันนี้
ครม.รับทราบผลการประชุมร่วมคณะกรรมการพัฒนาการของเวิล์ดแบงก์
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปผลการเข้าประชุมคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลก ครั้งที่ 77 ท่านรองนายกรัฐมนตรี นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และเป็นผู้แทนกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา โดยประเด็นที่เป็นสาระสำคัญเร่งด่วนในที่ประชุม ก็คือ เรื่องของการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน และราคาอาหารในตลาดโลก ซึ่งเรื่องนี้ทางธนาคารโลกก็เป็นห่วงสถานการณ์ตรงนี้ เนื่องจากว่ามีผลกระทบกับเศรษฐกิจระดับมหภาค คือการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ และผลกระทบกับคนและสังคม นั่นก็คือส่งผลให้เกิดความยากจนและปัญหาด้านโภชนาการเพิ่มขึ้น มีการพูดถึงการศึกษาวิจัย ที่แสดงให้เห็นว่า หากราคาข้าวในประเทศอินโดนีเซียสูงขึ้นร้อยละ 10 จำนวนคนยากจนในประเทศจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีกระทบทางด้านการเมือง เนื่องจากความเดือดร้อนของประชาชนอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลได้ และสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลดำเนินมาตรการระยะสั้น ซึ่งบางมาตรการอาจจะสร้างปัญหาด้านการคลัง และมีผลเสียต่อการพัฒนาในระยะยาวได้ นอกจากนี้มีผลกระทบในเรื่องของการขาดแคลนอาหารด้วย
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งธนาคารโลก เห็นว่า นโยบายการพัฒนาควรให้ความสำคัญระดับสูงแก่ภาคเกษตรกรรม ในเรื่องนี้ ท่านรองนายกรัฐมนตรี นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในฐานะผู้แทนกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แจ้งแก่ธนาคารโลกให้ช่วยดูแลวิกฤตการเงินของโลกที่อาจจะกระทบประเทศกำลังพัฒนา แม้ว่าจะมีการขยายตัวของเศรษฐกิจสูงต่อเนื่องในปีนี้ แต่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและอาหาร นอกจากนั้น ธนาคารโลกควรให้การสนับสนุนการพัฒนาการให้ความร่วมมือในอนุภูมิภาค เช่น จีเอ็มเอส และสนับสนุนบทบาทของประเทศในกลุ่มรายได้ปานกลาง ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ในประเด็นนี้ เห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของประเทศไทย ควรมีการลงทุนในระบบชลประทาน และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ ให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและประสิทธิภาพการผลิต การส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ และความผันผวนของราคา การใช้เงินเอสเอ็มแอล เพื่อพัฒนาเครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานด้านเกษตรของชุมชน รวมถึงการสร้างความสมดุลของการใช้พืชเพื่อผลิตอาหารและพลังงานทางเลือก ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่เห็นความสำคัญของสถานการณ์พลังงานที่เป็นวิกฤตของโลกขณะนี้ แต่เรื่องอาหารยังไม่ใช่วิกฤตของไทย บ้านเรายังมีความอุดมสมบูรณ์ แต่ต้องมีการเตรียมพร้อมในเรื่องนี้ วันนี้จึงมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการด้านอาหารและพลังงาน เพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า เรื่องการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอเพิ่มเติมจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2551 ตามที่ได้มีการอนุมัติมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การโอน และการจำนองอสังหาริมทรัพย์ มติวันนี้เพิ่มเติมให้ครอบคลุมในส่วนของการลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จากอัตราร้อยละ 2 และร้อยละ 1 ตามลำดับ เหลือร้อยละ 0.01 ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ รวมถึงที่ดิน ซึ่งมีเนื้อที่รวมไม่เกิน 1 ไร่ด้วย โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 28 มีนาคม 2552 เพื่อให้มีระยะเวลาสอดคล้องกับมาตรการภาษี เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตามมติ ครม.วันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา
ครม.อนุมัติขยายความคุ้มครองประกันสังคมไปยังแท็กซี่
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีวันนี้อนุมัติให้ขยายความคุ้มครองประกันสังคมไปสู่ผู้ขับรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) และกลุ่มสาขาอาชีพอื่นๆ ด้วย เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551 ตามนโยบายแรงงาน ให้การคุ้มครองแรงงานตามมาตรฐานแรงงานไทย ซึ่งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการทำงาน และสวัสดิการแรงงาน ทางกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม มีการขยายความคุ้มครองประกันสังคมในกลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ และกลุ่มสาขาอื่นๆ แต่เบื้องต้นดำเนินการในกลุ่มที่มีความพร้อมก่อน จึงมีการจัดประชุม เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ในการหารือกับตัวแทนกลุ่มอาชีพต่างๆ โดยเฉพาะตัวแทนสหกรณ์แท็กซี่และผู้ขับรถแท็กซี่ มีการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างตัวแทนผู้ขับแท็กซี่และสำนักงานประกันสังคม ในเบื้องต้นเห็นพ้องต้องกันว่า ให้ผู้ที่สนใจสมัครเข้าสู่ระบบประกันสังคมได้ทันที ภายใต้สิทธิประโยชน์ 3 กรณี คือ กรณีคลอดบุตร กรณีทุพพลภาพ และกรณีตาย โดยต้องจ่ายเงินสมทบในอัตรา 3,360 บาทต่อปี ภายใต้มาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ซึ่งเป็นไปโดยความสมัครใจของแต่ละบุคคล ขณะเดียวกัน สำนักงานประกันสังคมจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง โดยจะมีการจัดงานประชาสัมพันธ์เปิดรับการขึ้นทะเบียน และรับฟังความคิดเห็น วันที่ 7 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นไป
ครม.รับทราบสถานการณ์ภัยแล้ง
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า เรื่องสถานการณ์ภัยแล้ง ขณะนี้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งครอบคลุมหลายจังหวัด ตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานเข้าสู่ที่ประชุม ครม.วันนี้ ได้รับทราบสรุปสถานการณ์ภัยแล้ง และการให้ความช่วยเหลือ มีพื้นที่ประสบภัย 55 จังหวัด รวม 507 อำเภอ 3,249 ตำบล 26,459 หมู่บ้าน ด้านของการให้ความช่วยเหลือ มีการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร และการแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค งบประมาณที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ 497,410,000 บาทโดยประมาณ เป็นงบทดรองราชการของจังหวัด 50 ล้านบาท รวม 435 ล้านกว่าบาท งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 35 ล้านกว่าบาท และงบอื่นๆ 26 ล้านกว่าบาท ในส่วนของการประปาส่วนภูมิภาค ได้สนับสนุนน้ำให้ฟรีแก่รถบรรทุกน้ำของทางราชการที่จะนำไปช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้มีความห่วงใยในส่วนของสภาพอากาศในระยะนี้ แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน เนื่องจากจะมีพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนองและมีลูกเห็บตก โดยเฉพาะทางประเทศไทยตอนบนให้ระวังอันตรายในช่วง วันที่ 21-24 เมษายนนี้ และควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งด้วย
ครม.ตั้งพล.ท.ศิรพงศ์ เป็นที่ปรึกษานายกฯ
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า เรื่องการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2551 เรื่องขอความเห็นชอบรับโอนและอนุมัติแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สืบเนื่องมาจากมติ ครม.เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา ที่มีมติอนุมัติให้ พล.ท.ศิรพงศ์ บุญญาพัฒน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โอนกลับไปรับราชการเป็นข้าราชการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหม วันนี้ ครม.มีมติอนุมัติให้ พล.ท.ศิรพงศ์ บุญญาพัฒน์ ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ นักบริหาร 11 ตำแหน่งเลขที่ 2 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ข้อเท็จจริง พล.ท.ศิรพงศ์ บุญญาพัฒน์ มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรี แจ้งให้ทราบว่า ไม่ประสงค์จะโอนกลับไปรับราชการทหาร ที่กระทรวงกลาโหมอีก โดยสมัครใจรับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญในตำแหน่งใดก็ได้ในระดับเดียวกัน จนเกษียณอายุราชการ ซึ่งมีตำแหน่งของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่เป็นที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ ระดับ 11 ตำแหน่งเลขที่ 2 มีมติให้ท่านไปดำรงตำแหน่งนี้แทน
ครม.เห็นชอบตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจหลายองค์กร
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า ครม.เห็นชอบตั้งประธานกรรมการและกรรมการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย
นายมนัส คำภักดี ประธานกรรมการ
นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ กรรมการ
พล.ร.ท.ศรีวิชัย ศิริสาลี กรรมการ
นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา กรรมการ
นางวรานุช หงส์ประภาส กรรมการ
พล.ต.ต.พิทักษ์ จารุสมบัติ กรรมการ
พ.อ.นาลิกอติภักดิ์ แสงสนิท กรรมการ
นางฉวีวรรณ คงเจริญกิจกุล กรรมการ
นายสุชาติ เหล่าปรีดา กรรมการ
นายพลทิพย์ พุกพิบูลย์ กรรมการ
นางสุนิดา สกุลรัตน กรรมการ
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แต่งตั้งคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ประธานกรรมการ
นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณอยุธยา กรรมการ
พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง กรรมการ
พล.ท.อานนท์ ตันติศิรินทร์ กรรมการ
นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ กรรมการ
นายชาติชาย พุกคยาพร กรรมการ
นายเรวัต วิศรุฬเวช กรรมการ
นายพงษ์ภานุ เศวตรุนทร์ กรรมการ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย
นายปาน พึ่งสุจริต
นางสุกัลยา โชคบำรุง
นายจิรัตน์ นิธิอนันตภรณ์
ครม.เห็นชอบการจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเป็นที่ระลึก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงสนพระราชหฤทัย สร้างสรรค์และอุปถัมภ์บำรุงงานศิลปะสาขาต่างๆ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2550 ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นสมควรจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในโอกาสดังกล่าว จึงเสนอร่างกฎกระทรวงนี้มาเพื่อดำเนินการ
มหาดไทยสั่งโยกย้ายผู้ว่าฯ 16ตำแหน่งทั่วประเทศ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า สืบเนื่องจากการที่กระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 จำนวนทั้งสิ้น 17 ตำแหน่ง โดยมี 1 ตำแหน่งเป็นกรณีเฉพาะ โดยกระทรวงมหาดไทยมีตำแหน่งระดับ 10 ว่าง 2 ตำแหน่ง เหตุผลเพราะว่าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สำนักพระราชวังรับโอนนายประสงค์ พิทูรกิจจา ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรัขันธ์ ไปรับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนในพระองค์ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง เทียบเท่ารองเลขาธิการสำนักพระราชวัง จำนวน 1 ตำแหน่ง และคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้กำหนดตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย หรือนักบริหาร 10 สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย เพิ่มเติมจำนวน 1 ตำแหน่ง นอกเหนือจากนายประสงค์ แล้ว อีก 16 ตำแหน่งก็มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1.นายปานชัย บวรรัตนปราณ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่ราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
2.นายเจตน์ ธนวัฒน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น
3.นายไพรรัตน์ สกลพันธุ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก
4.นายสุวัฒน์ ตันประวัติ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร
5.นายสุกิจ เจริญรัตนกุล พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ
6.นายพลวัตร ชยานุชร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ
7.นายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง
8.นายเดชา ตันติยวรงค์ พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์
9.นายอธิคม สุพรรณพงศ์ พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู
10.นายธนเษก อัศวานุวัตร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดเกระทรวงฯ
11.นายปรีชา กมลบุตร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
12.นายเชิดพันธ์ ณ สงขลา พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ
13.นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง พ้นจากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงฯ ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย
14.นายประชา จิตสุทธิผล พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์
15.นายอมรพันธ์ นิมานันท์ ตำแหน่งรองอธิบดีกรมการปกครอง ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน
16.นางสาวเรืองวรรณ บัวนุช ตำแหน่งรองผู้ว่ราชการจังหวัดเชียงใหม่ ไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา
ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม หลังจากเรื่องนี้ก็มีเรื่องสำคัญอยู่อีก 4-5 เรื่อง เรื่องแรก
ครม.เห็นชอบกฎหมายพิจารณาหลักประกัน เกี่ยวกับโครงการจัดปฏิรูปที่ดิน
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาหลักประกันเพื่อความมั่นคง และคุ้มครองผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการจัดปฏิรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ.2551 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ร่างกฎกระทรวงฉบับนี้กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาหลักประกันเพื่อความมั่นคง และคุ้มครองผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ.2551 มีสาระโดยสรุป ดังนี้
1.กำหนดให้ผู้เสนอโครงการจัดรูปที่ดินยื่นหลักประกันต่อคณะกรรมการส่วนจังหวัดแห่งท้องที่ที่โครงการนั้นตั้งอยู่ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการส่วนจังหวัดมีมติให้เรียกหลักประกัน 2.ให้คณะกรรมการส่วนจังหวัดกำหนดให้ผู้เสนอโครงการจัดรูปที่ดินวางหลักประกันในกรณีของที่ดิน และงานก่อสร้างโดยแยกจากกันตามที่กำหนด 3.กำพหนดประเภทของหลักประกัน และกำหนดให้คืนหลักประกันแก่ผู้เสนอโครงการจัดรูปที่ดินตามที่กำหนดมีรายละเอียดของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ ถ้าสื่อมวลชนสนใจเจ้าหน้าที่จะสำเนาให้ภายหลังการแถลงข่าว
ครม.รับทราบการลงนามMOUระหว่างมท. กับUNHCR
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบการลงนามในบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยู ระหว่างการะทรวงมหาดไทยกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ประจำภูมิภาคในประเทศไทยตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เรื่องนี้กระทรวงมหาดไทยรายงานว่า UNHCR ได้เสนอบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยู ในการให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาผู้หนีภัยการสู้รบในพื้นที่พักพิงชั่วคราวบริเวณชายแดนไทย-พม่า ของ UNHCR ในโครงการจัดทำทะเบียนผู้หนีภัยการสู้รบ และการพิจารณาสถานะบุคคลสัญชาติพม่าปี 2551 และกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการตรวจสอบบันทึกความเข้าใจดังกล่าวแล้ว เห็นว่าสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวเป็นไปตามบันทึกความเข้าใจซึ่งได้เคยพิจารณา และดำเนินการไปแล้วเมื่อปี 2548 ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 และเป็นไปตามนโยบายและแนวทางที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติกำหนดเอาไว้แล้ว จึงได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยู ที่ UNHCR เสนอไปเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2551
ครม.เห็นชอบร่างพรฎ.เงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการฯ
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ... ที่คณะรัฐมนตรีชุดก่อนได้มีมติอนุมัติหลักการ และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้นำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป คือเออร์ลี่ รีไทร์
ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการ พ.ศ... มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดให้ข้าราชการซึ่งมีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการให้เงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามมาตรการปรับปรุงอัตรากำลังของส่วนราชการต้องเป็นข้าราชการในสังกัดส่วนราชการ ดังต่อไปนี้
1.1 ส่วนราชการที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ออกจากระบบราชการ
1.2 ส่วนราชการที่ประสงค์จะยุบเลิกบางภารกิจ
1.3 ส่วนราชการที่มีอัตรากำลังเกินความจำเป็น
1.4 ส่วนราชการที่มีจำนวนข้าราชการตั้งแต่อายุ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปมากกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนข้าราชการทั้งหมดของส่วนราชการนั้น
2. กำหนดคุณสมบัติของข้าราชการซึ่งจะเข้าร่วมโครงการ โดยต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป หรือมีเวลาราชการตั้งแต่ 25 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ให้นับถึงวันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ และมีเวลาราชการที่เหลือไม่น้อยกว่า 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ โดยวันที่ได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการต้องอยู่ในระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2551 - 1 ตุลาคม 2555 ทั้งนี้ ตามเงื่อนไขของโครงการและกำหนดลักษณะต้องห้ามของข้าราชการที่จะเข้าร่วมโครงการ เช่น ไม่เป็นอยู่ระหว่างถูกสั่งพักราชการ ไม่เป็นผู้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะต้องออกจากราชการ และไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างปฏิบัติราชการชดใช้ตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับส่วนราชการ เป็นต้น
3. กำหนดให้จ่ายเงินช่วยเหลือแก่ข้าราชการซึ่งได้รับอนุญาตให้ลาออกจากราชการ ตามโครงการเป็นจำนวน โดยวิธีการคำนวนจะคำนวน โดยเอาจำนวนปีของเวลาราชการที่เหลือบวกด้วยแปด แล้วคูณเงินเดือนเดือนสุดท้ายแต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 15 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย
4. กำหนดให้โครงการที่ได้ดำเนินการก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้บังคับใช้ เป็นโครงการตามพระราชกฤษฎีกานี้ และให้ข้าราชการซึ่งแสดงความประสงค์และได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการดังกล่าวก่อนวันที่พระราชกฤษฎีกานี้บังคับใช้ เป็นการแสดงความประสงค์ และได้รับการอนุมัติเข้าร่วมโครงการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ซึ่งพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้จะบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ครม.เห็นชอบเลื่อนสองขั้นกำลังพลใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
นายณัฐวุฒิ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ 2 ขั้น นอกเหนือโควต้าปกติ จากงบกลางเพิ่มเติม ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เรื่องนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน หรือ กอ.รมน.ได้รายงานต่อที่ประชุม ครม.ว่าการปฏิบัติงานของกำลังพลใน กอ.รมน.ภาค 4 เป็นการปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งกำลังพลต้องตรากตรำทำงานอยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย และอยู่ในภาวะกดดันทางด้านจิตใจจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัวในขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต่างจากกำลังพลที่ปฏิบัติงานทั่วไปในพื้นที่อื่นๆ สภาวการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความตึงเครียด ทำให้กำลังพลบางหน่วยจำเป็นต้องหมุนเวียนกำลังพลในการปฏิบัติหน้าที่คราวละ 6 เดือน กอ.รมน.จึงพิจารณาเห็นว่าการหมุนเวียนกำลังพลมาปฏิบัติหน้าที่คราวละ 6 เดือนดังกล่าว ทำให้กำลังพลที่มาปฏิบัติงานในรอบครึ่งปีแรกไม่ได้รับการพิจารณาบำเหน็จความชอบประจำปี เนื่องจากการคิดยอดบำเหน็จความชอบประจำปีกรณีพิเศษ 2 ขั้น นอกเหนือจากโควต้าปกติ เขาจะพิจารณากันในวงรอบการพิจารณาบำเหน็จประจำครึ่งปีหลังเท่านั้น ดังนั้นเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ และเป็นค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของกำลังพลดังกล่าว กอ.รมน.จึงนำเสนอ ครม.พิจารณาให้ความเห็นชอบ สนับสนุนการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ 2 ขั้นจากงบกลาง ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การกำกับดูแลของ กอ.รมน.ภาค 4 ประจำปีงบประมาณ 2551 นี้ โดยให้ได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือนในรอบครึ่งปีแรกของปีงบประมาณเพิ่มเติม ในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนข้าราชการผู้มาปฏิบัติงานใน กอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่คือประเด็นที่เป็นมติของ ครม.ในส่วนที่ผมนำเสนอต่อสื่อมวลชนวันนี้
ครม.รับทราบผลการประชุมร่วมคณะกรรมการพัฒนาการของเวิล์ดแบงก์
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีรับทราบสรุปผลการเข้าประชุมคณะกรรมการพัฒนาการของธนาคารโลก ครั้งที่ 77 ท่านรองนายกรัฐมนตรี นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และเป็นผู้แทนกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ 13 เมษายน ที่ผ่านมา โดยประเด็นที่เป็นสาระสำคัญเร่งด่วนในที่ประชุม ก็คือ เรื่องของการเพิ่มขึ้นของราคาพลังงาน และราคาอาหารในตลาดโลก ซึ่งเรื่องนี้ทางธนาคารโลกก็เป็นห่วงสถานการณ์ตรงนี้ เนื่องจากว่ามีผลกระทบกับเศรษฐกิจระดับมหภาค คือการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ และผลกระทบกับคนและสังคม นั่นก็คือส่งผลให้เกิดความยากจนและปัญหาด้านโภชนาการเพิ่มขึ้น มีการพูดถึงการศึกษาวิจัย ที่แสดงให้เห็นว่า หากราคาข้าวในประเทศอินโดนีเซียสูงขึ้นร้อยละ 10 จำนวนคนยากจนในประเทศจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านคน นอกจากนี้ยังมีกระทบทางด้านการเมือง เนื่องจากความเดือดร้อนของประชาชนอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลได้ และสร้างแรงกดดันให้รัฐบาลดำเนินมาตรการระยะสั้น ซึ่งบางมาตรการอาจจะสร้างปัญหาด้านการคลัง และมีผลเสียต่อการพัฒนาในระยะยาวได้ นอกจากนี้มีผลกระทบในเรื่องของการขาดแคลนอาหารด้วย
เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งธนาคารโลก เห็นว่า นโยบายการพัฒนาควรให้ความสำคัญระดับสูงแก่ภาคเกษตรกรรม ในเรื่องนี้ ท่านรองนายกรัฐมนตรี นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ในฐานะผู้แทนกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แจ้งแก่ธนาคารโลกให้ช่วยดูแลวิกฤตการเงินของโลกที่อาจจะกระทบประเทศกำลังพัฒนา แม้ว่าจะมีการขยายตัวของเศรษฐกิจสูงต่อเนื่องในปีนี้ แต่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันและอาหาร นอกจากนั้น ธนาคารโลกควรให้การสนับสนุนการพัฒนาการให้ความร่วมมือในอนุภูมิภาค เช่น จีเอ็มเอส และสนับสนุนบทบาทของประเทศในกลุ่มรายได้ปานกลาง ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ในประเด็นนี้ เห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของประเทศไทย ควรมีการลงทุนในระบบชลประทาน และบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ ให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและประสิทธิภาพการผลิต การส่งเสริมเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การพัฒนาเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ และความผันผวนของราคา การใช้เงินเอสเอ็มแอล เพื่อพัฒนาเครื่องมือและโครงสร้างพื้นฐานด้านเกษตรของชุมชน รวมถึงการสร้างความสมดุลของการใช้พืชเพื่อผลิตอาหารและพลังงานทางเลือก ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่เห็นความสำคัญของสถานการณ์พลังงานที่เป็นวิกฤตของโลกขณะนี้ แต่เรื่องอาหารยังไม่ใช่วิกฤตของไทย บ้านเรายังมีความอุดมสมบูรณ์ แต่ต้องมีการเตรียมพร้อมในเรื่องนี้ วันนี้จึงมีมติอนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการด้านอาหารและพลังงาน เพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า เรื่องการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอเพิ่มเติมจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2551 ตามที่ได้มีการอนุมัติมาตรการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การโอน และการจำนองอสังหาริมทรัพย์ มติวันนี้เพิ่มเติมให้ครอบคลุมในส่วนของการลดค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ จากอัตราร้อยละ 2 และร้อยละ 1 ตามลำดับ เหลือร้อยละ 0.01 ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว อาคารพาณิชย์ รวมถึงที่ดิน ซึ่งมีเนื้อที่รวมไม่เกิน 1 ไร่ด้วย โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา จนถึงวันที่ 28 มีนาคม 2552 เพื่อให้มีระยะเวลาสอดคล้องกับมาตรการภาษี เพื่อกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ตามมติ ครม.วันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา
ครม.อนุมัติขยายความคุ้มครองประกันสังคมไปยังแท็กซี่
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า คณะรัฐมนตรีวันนี้อนุมัติให้ขยายความคุ้มครองประกันสังคมไปสู่ผู้ขับรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) และกลุ่มสาขาอาชีพอื่นๆ ด้วย เนื่องจากนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2551 ตามนโยบายแรงงาน ให้การคุ้มครองแรงงานตามมาตรฐานแรงงานไทย ซึ่งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการทำงาน และสวัสดิการแรงงาน ทางกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม มีการขยายความคุ้มครองประกันสังคมในกลุ่มผู้ขับรถแท็กซี่ และกลุ่มสาขาอื่นๆ แต่เบื้องต้นดำเนินการในกลุ่มที่มีความพร้อมก่อน จึงมีการจัดประชุม เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมา ในการหารือกับตัวแทนกลุ่มอาชีพต่างๆ โดยเฉพาะตัวแทนสหกรณ์แท็กซี่และผู้ขับรถแท็กซี่ มีการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างตัวแทนผู้ขับแท็กซี่และสำนักงานประกันสังคม ในเบื้องต้นเห็นพ้องต้องกันว่า ให้ผู้ที่สนใจสมัครเข้าสู่ระบบประกันสังคมได้ทันที ภายใต้สิทธิประโยชน์ 3 กรณี คือ กรณีคลอดบุตร กรณีทุพพลภาพ และกรณีตาย โดยต้องจ่ายเงินสมทบในอัตรา 3,360 บาทต่อปี ภายใต้มาตรา 40 แห่ง พ.ร.บ.ประกันสังคม พ.ศ.2533 ซึ่งเป็นไปโดยความสมัครใจของแต่ละบุคคล ขณะเดียวกัน สำนักงานประกันสังคมจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง โดยจะมีการจัดงานประชาสัมพันธ์เปิดรับการขึ้นทะเบียน และรับฟังความคิดเห็น วันที่ 7 พฤษภาคม 2551 เป็นต้นไป
ครม.รับทราบสถานการณ์ภัยแล้ง
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า เรื่องสถานการณ์ภัยแล้ง ขณะนี้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งครอบคลุมหลายจังหวัด ตามที่กระทรวงมหาดไทยรายงานเข้าสู่ที่ประชุม ครม.วันนี้ ได้รับทราบสรุปสถานการณ์ภัยแล้ง และการให้ความช่วยเหลือ มีพื้นที่ประสบภัย 55 จังหวัด รวม 507 อำเภอ 3,249 ตำบล 26,459 หมู่บ้าน ด้านของการให้ความช่วยเหลือ มีการจัดสรรน้ำเพื่อการเกษตร และการแจกจ่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค งบประมาณที่ได้ดำเนินการไปแล้ว คือ 497,410,000 บาทโดยประมาณ เป็นงบทดรองราชการของจังหวัด 50 ล้านบาท รวม 435 ล้านกว่าบาท งบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 35 ล้านกว่าบาท และงบอื่นๆ 26 ล้านกว่าบาท ในส่วนของการประปาส่วนภูมิภาค ได้สนับสนุนน้ำให้ฟรีแก่รถบรรทุกน้ำของทางราชการที่จะนำไปช่วยเหลือประชาชน นอกจากนี้มีความห่วงใยในส่วนของสภาพอากาศในระยะนี้ แจ้งเตือนพี่น้องประชาชน เนื่องจากจะมีพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนองและมีลูกเห็บตก โดยเฉพาะทางประเทศไทยตอนบนให้ระวังอันตรายในช่วง วันที่ 21-24 เมษายนนี้ และควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งด้วย
ครม.ตั้งพล.ท.ศิรพงศ์ เป็นที่ปรึกษานายกฯ
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า เรื่องการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2551 เรื่องขอความเห็นชอบรับโอนและอนุมัติแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ สืบเนื่องมาจากมติ ครม.เมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา ที่มีมติอนุมัติให้ พล.ท.ศิรพงศ์ บุญญาพัฒน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โอนกลับไปรับราชการเป็นข้าราชการทหารในสังกัดกระทรวงกลาโหม วันนี้ ครม.มีมติอนุมัติให้ พล.ท.ศิรพงศ์ บุญญาพัฒน์ ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ นักบริหาร 11 ตำแหน่งเลขที่ 2 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ข้อเท็จจริง พล.ท.ศิรพงศ์ บุญญาพัฒน์ มีหนังสือกราบเรียนนายกรัฐมนตรี แจ้งให้ทราบว่า ไม่ประสงค์จะโอนกลับไปรับราชการทหาร ที่กระทรวงกลาโหมอีก โดยสมัครใจรับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญในตำแหน่งใดก็ได้ในระดับเดียวกัน จนเกษียณอายุราชการ ซึ่งมีตำแหน่งของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่เป็นที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายข้าราชการประจำ ระดับ 11 ตำแหน่งเลขที่ 2 มีมติให้ท่านไปดำรงตำแหน่งนี้แทน
ครม.เห็นชอบตั้งบอร์ดรัฐวิสาหกิจหลายองค์กร
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า ครม.เห็นชอบตั้งประธานกรรมการและกรรมการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย
นายมนัส คำภักดี ประธานกรรมการ
นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ กรรมการ
พล.ร.ท.ศรีวิชัย ศิริสาลี กรรมการ
นายประสงค์ ตันมณีวัฒนา กรรมการ
นางวรานุช หงส์ประภาส กรรมการ
พล.ต.ต.พิทักษ์ จารุสมบัติ กรรมการ
พ.อ.นาลิกอติภักดิ์ แสงสนิท กรรมการ
นางฉวีวรรณ คงเจริญกิจกุล กรรมการ
นายสุชาติ เหล่าปรีดา กรรมการ
นายพลทิพย์ พุกพิบูลย์ กรรมการ
นางสุนิดา สกุลรัตน กรรมการ
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แต่งตั้งคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค ประกอบด้วย
พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ประธานกรรมการ
นายณัฐจักร ปัทมสิงห์ ณอยุธยา กรรมการ
พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง กรรมการ
พล.ท.อานนท์ ตันติศิรินทร์ กรรมการ
นายฉกรรจ์ แสงรักษาวงศ์ กรรมการ
นายชาติชาย พุกคยาพร กรรมการ
นายเรวัต วิศรุฬเวช กรรมการ
นายพงษ์ภานุ เศวตรุนทร์ กรรมการ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย
นายปาน พึ่งสุจริต
นางสุกัลยา โชคบำรุง
นายจิรัตน์ นิธิอนันตภรณ์
ครม.เห็นชอบการจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย
น.ส.ศุภรัตน์ แถลงว่า ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกพระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเป็นที่ระลึก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงสนพระราชหฤทัย สร้างสรรค์และอุปถัมภ์บำรุงงานศิลปะสาขาต่างๆ ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2550 ซึ่งกระทรวงการคลังพิจารณาแล้วเห็นสมควรจัดทำเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในโอกาสดังกล่าว จึงเสนอร่างกฎกระทรวงนี้มาเพื่อดำเนินการ
