ไทยก้าวใหม่
เปิดจุดแข็ง โชว์จุดขาย
ทฤษฎีธนู4ดอกพลิกประเทศ
ท่ามกลางภูมิทัศน์การเมืองไทยที่ยังคงขับเคลื่อนด้วยพรรคขนาดใหญ่และเครือข่ายอำนาจเดิม พรรคไทยก้าวใหม่พยายามสร้างจุดยืนของตนเองด้วยแนวทางการเมืองที่ยึด “นโยบาย” เป็นศูนย์กลาง มากกว่าการพึ่งพาบ้านใหญ่หรืออิทธิพลทางการเมือง โดยชูการศึกษาเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาประเทศ ควบคู่กับการพลิกโฉมเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และค่านิยมของสังคมไทย ผ่านนโยบาย “ธนู 4 ดอก” ที่พรรคเชื่อว่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพาประเทศก้าวพ้นกับดักเดิม ๆ
นายอนุพงษ์ มาคำ รองหัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ เปิดเผยแนวทางการทำงานของพรรคว่า จุดแข็งสำคัญของพรรคอยู่ที่นโยบาย “ธนู 4 ดอก” โดยธนูดอกแรก คือ การพลิกโฉมการศึกษา ซึ่งพรรคมองว่าเป็นรากฐานของชีวิตและโอกาสของทุกคน พรรคไทยก้าวใหม่ไม่ได้มองการศึกษาเพียงระดับมหาวิทยาลัย แต่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับ สายอาชีวศึกษา โดยต้องการให้เด็กอาชีวะเรียนจบแล้วมีงานทำตรงสาย ผ่านการทำ Business Matching ระหว่างสถาบันอาชีวะกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อเตรียมกำลังคนคุณภาพเข้าสู่ตลาดแรงงาน นายอนุพงษ์ระบุว่า ปัจจุบันประเทศกำลังขาดแคลนแรงงานสายช่างอย่างหนัก ทั้งช่างไฟ ช่างประปา หรือช่างกล ซึ่งล้วนเป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจฐานราก และยังพิสูจน์บทบาทเชิงสังคมได้ในยามวิกฤต เช่น การลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนช่วงน้ำท่วมในหลายจังหวัด
สำหรับ ธนูดอกที่ 2 คือการพลิกโฉมเศรษฐกิจไทยให้ทันโลกและแข่งขันได้ ส่วน ธนูดอกที่ 3 คือการยกระดับคุณภาพชีวิต ความปลอดภัย และสุขภาพของประชาชน ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งในบริบทที่ประเทศเผชิญปัญหาโครงสร้างพื้นฐานและความปลอดภัยจากงานก่อสร้างหลายกรณีในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ ธนูดอกที่ 4 คือการสร้างค่านิยมใหม่ “คนดีต้องมีที่ยืน” โดยนิยามของพรรคหมายถึงคนดีที่เสียสละเพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ ไม่ใช่เพียงการอ้างความดีด้วยคำพูด
ในด้านกลยุทธ์การหาเสียง นายอนุพงษ์ยอมรับว่า พรรคยังไม่สามารถโฟกัสทุกกลุ่มเป้าหมายได้ เนื่องจากยังเป็นพรรคขนาดไม่ใหญ่ จึงเลือกเน้นประเด็นการศึกษาเป็นศูนย์กลาง เพราะเป็นเรื่องที่ครอบคลุมทุกพื้นที่และทุกชนชั้น หากรัฐสามารถสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงการศึกษาได้อย่างทั่วถึง จะช่วยลดภาระครอบครัว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสใหม่ให้ประเทศในระยะยาว
นายอนุพงษ์กล่าวถึงความคาดหวังในการเลือกตั้งว่า พรรคมีความหวังในระดับหนึ่ง แม้จะมีข้อจำกัดด้านเวลาและกระแสทางการเมือง แต่ไทยก้าวใหม่ยืนยันไม่ทำการเมืองแบบใช้ทุนหรืออิทธิพล หากผลการเลือกตั้งทำให้พรรคมีจำนวน ส.ส. เพียงพอ ก็หวังจะผลักดันทีมผู้บริหารเข้าไปทำงานในกระทรวงที่สอดคล้องกับความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะด้านการศึกษา เพื่อใช้ความรู้และศักยภาพของพรรคขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม หากมีโอกาสได้


