บิ๊กโจ๊ก เหนื่อยฟรี
สู้ทุกกระดานฟ้องทุกหน่วย
เเต่ความจริง“หลงประเด็น!”
ตอนนี้จะพบการขยับเดินสายร้องเรียน/ฟ้องร้อง ทวงคืนความยุติธรรมต่อหลายหน่วยงานในฐานะประชาชนของอดีตรองผบ.ตร.“พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล”ในคดีของตัวเองเป็นระยะ
การเปิดเเนวปะทะรอบด้านกับหลายวงการของบิ๊กโจ๊กในช่วงที่ผ่านมาและวันนี้ ว่ากันว่าบิ๊กโจ๊กเดินเกมเเบบนี้ หวังผลเพื่อประวิงเวลากับหลากหลายข้อหา ในคดีที่เริ่มงวดเข้ามา ซึ่งว่ากันตามตรง สังคมเเทบจะจำไม่ได้เเล้วว่า บิ๊กโจ๊กฟ้องไปกี่คดึเเล้วเเละผลเป็นเช่นใด?
สำคัญสุดคือ “บิ๊กโจ๊กหลงประเด็นหรือไม่ ?” กับการขยับหลายจังหวะหลังพ้นรั้วสำนักงานตำรวจเเห่งชาติจากคำสั่งปลดออกเเละไล่ออกของผบ.ตร. จากเหตุผิดวินัยร้ายเเรงในการรับเงินเว็บพนัน โดยที่กพค.ตร.ตีตรารับรองเเล้ว ว่าคำสั่งดังกล่าวของสตช.ชอบด้วยกฎหมาย เเม้สิทธิในการสู้ของบิ๊กโจ๊กยังพอมีคืออุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุดก็ตาม
เเต่การฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตฯของพลตำรวจเอกสุรเขษฐ์หลายคดีล่าสุด คือขอให้เช็กบิลตุลาการศาลปกครองทั้งองค์คณะคือกว่า60คนกับหลายข้อร้องเรียนนั้น การขยับเเบบนี้ คงไม่ใช่ผลบวกเท่าใดนักกับอดีตรองผล.ตร.เเละส่อเเววไม่สมหวังในการกลับไปสวมเครื่องเเบบตำรวจ100%
หากวินิจฉัยดีๆ เชื่อว่าบิ๊กโจ๊กรู้ว่า รบไปก็ไม่ชนะแต่ก็ต้องขยับเพื่อปั่นประเด็น/เบนกระเเสไปในมุมที่ตัวเองต้องการ อาทิ การร้องกมธ./การไปออกรายการทีวี/การมีสื่อออนไลน์ของตัวเองเเละพวกพ้อง เพื่อนำประเด็นไปขยายความต่อในสิ่งที่อดีตรองผบ.ตร.คนนี้เปิดประเด็นขึ้นมาขยับ
เเม้นักกฎหมายหลายคนมองว่าเป็นสิทธิของผู้ร้องเเต่เหตุผลจะฟังขึ้นหรือไม่นั้น ? คำตอบในวันวานกับหลากคำร้องของอดีตรองผบ.ตร. น่าจะอธิบายได้ดีว่าบิ๊กโจ๊กเเละพวกหลงประเด็นในการยื่นฟ้องหลายวงการหรือไม่!
ดังนั้น หมากการยื่นฟ้องคดีต่างๆนั้นเป็นไปได้สูงว่าเจตนาของบิ๊กโจ๊กที่วางเเผนไว้คือ ฟ้องคดีนี้เพื่อให้พัวพันคดีอื่นๆพ่วงไปด้วย เเละคล้ายเป็นการประวิงเวลาเพื่อใช้เป็นข้ออ้างเพื่อสู้/ยืดคดีต่างๆออกไป เเต่สุดท้ายเเล้ว ความยุติธรรมจะเป็นคำตอบสุดท้ายที่บิ๊กโจ๊กเเละพวกจะได้รับ
ตัวอย่างคือ คำพิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ หมายเลขดำที่ อ 2128/2566 คดีเว็บพนันมินนี่ที่ยกฟ้องครรชิต ศรีสมานเเละพุฒิพงษ์ พูนศรี สองบัญชีม้าของ.คริษฐ์ ปริยะเกตุ โดยศาลใช้เหตุยกประโยชน์ความสงสัย- เชื่อจงใจให้“พ่อบ้านบิ๊กโจ๊ก”ใช้บัญชีของครรชิตเเละพุฒิพงษ์ที่เป็นบัญชีม้าเพื่องานราชการเเละไร้เจตนาทำผิดกฎหมาย!?!
โดยบิ๊กโจ๊กเคลมทันทีว่า ข้อหาต่างๆที่กล่าวหาตัวเองว่าเชื่อมโยงการรับเงินเว็บพนันนั้น บิ๊กโจ๊กต้องไร้มลทินด้วย... เพราะศาลยกฟ้องสองลัญชีม้าของพตท.คริษฐ์ไปเเล้ว !?! เเต่มันจะใช่ว่า ข้ออ้างนี้จะใช้ได้ทุกอีเว้นท์?!?!
ล่าสุดคือคำวินิจฉัยยกคำร้องของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญล่าสุดที่มีมติเอกฉันท์ กรณีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ร้องเรียนในคดีที่ ต.109/2568 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 กรณีกระบวนการและมติเลือกประธานกรรมการ ป.ป.ช. ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. รวม 8 ราย ไม่เป็นไปตามหลักทั่วไปของการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และส่งผลกระทบต่อสิทธิ เสรีภาพ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน เเละประธาน ป.ป.ช. และคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาวินิจฉัยเรื่องที่ผู้ร้องถูกกล่าวหา เป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหลายมาตรา
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของผู้ถูกร้อง เป็นการใช้อำนาจตามที่กฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
หากผู้ร้องเห็นว่า เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ ผู้ร้องสามารถใช้สิทธิทางศาลอื่นได้ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 วรรคสาม ซึ่งเป็นกรณีที่กฎหมายได้กำหนดกระบวนการร้องเรียนไว้เป็นการเฉพาะแล้ว
จึงเข้าข่ายตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 47 (2) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
เพราะคดีของบิ๊กโจ๊กกับพวกในปปช.นั้น งวดเข้ามาเริ่อยๆเเละคนในปปช.บางคนน่าจะมีเอี่ยว... ดังนั้นเกมที่บิ๊กโจ๊กร้องในเคสนี้ เเม้จะพับไป เเต่เชื่อว่าอดีตรองผบ.ตร.คงจะยื่นศาลอื่นๆอีกเพื่อประวิงเวลาการชี้ชะตาคดีของบิ๊กโจ๊กจากมติคณะกรรมการปปช.ไปพลางๆ
เมื่อย้อนมองการร้องกร.ตร.ครั้งล่าสุดของอดีตรองตร. ให้จัดการผบ.ตร.เหตุจัดการเอาผิดพลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล กับพวกล่าช้าในการรับเงินเว็บพนันออนไลน์ ทั้งที่กร.ตร.เเละปปช.ก็ขยับเเล้ว เเต่อดีตรองผบ.ตร.พยายามกระทุ้งต่อเพื่อป้ายสีผบ.ตร.ให้มีรอยด่างว่าเลือกปฏิบัตินั้น เพราะพบว่า เคสข้อสอบคณะนิติศาสตร์ ภาคบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งดร.นิดเเละตำรวจสองนายของบิ๊กโจ๊กโดนฟ้องร้องไป เเละสตช.+จุฬาฯขยับอยู่ในการสอบสวนข้อเท็จจริงว่า บิ๊กโจ๊กจะพ่วงรับผลกรรมเคสนี้เเค่ไหนในอนาคตนั้น
ต่างๆนานาข้างต้น เชื่อว่าอดีตรองผบ.ตร.อาจเหนื่อยฟรี เพราะการดิ้นสู้เเบบที่ขยับมานั้น คล้ายจะเพิ่มขั้วตรงข้ามรุมขย้ำจนเเทบหมดทางเดิน เเละจะจบเกมด้วยการหลงประเด็นที่จุดมาสู้เเบบเหมารวมเข่งในบั้นปลาย


