น้ำท่วมใต้เศรษฐกิจพัง 0.1%
'คลัง' ดันคนละครึ่งเฟส 2
เยียวยาผู้ประสบภัย
เวลานี้ได้เข้าสู่โหมดของการฟื้นฟูเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมหาดใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง โดยนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประเมินผลกระทบของสถานการณ์ที่ผ่านมาว่า ตามการประเมินของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) จะกระทบกับเศรษฐกิจอยู่ที่ 0.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ทั้งหมด โดยผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เทียบกับจีดีพีทั้งประเทศที่มี 20 ล้านล้านบาท นั้นไม่ได้ใหญ่มาก แต่กระทบกับชีวิตประชาชนมาก โดยมาตรการต่างๆ ที่ลงไปได้พยายามทำให้เศรษฐกิจฟื้นมาโดยเร็วที่สุด ส่วนหลังจากนี้ต้องมีการถอดบทเรียนเพื่อวางแผนป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นในระยะยาว โดยภาพใหญ่ของ GDPไทย ในไตรมาสที่ 4 คาดว่าจะไม่กระทบมาก คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวได้ประมาณ 0.6% หรือสูงกว่า ใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ขณะเดียวกัน นายเอกนิติ เปิดเผยว่า ขณะนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยังให้นโยบายให้กระทรวงการคลังไปศึกษาความเป็นไปได้ของการทำนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้มาตรการคนละครึ่งเฟส 2 ควบคู่ไปกับการเยียวยา และฟื้นฟูอุทกภัยภาคใต้โดยขณะนี้กระทรวงการคลัง ยังเดินหน้าศึกษาอยู่ อย่างไรก็ตามยอมรับว่างบประมาณที่จะได้มีข้อจำกัดเนื่องจากทั้งสองส่วนมาจากงบประมาณส่วนเดียวกันคือ งบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉิน และจำเป็นเร่งด่วน พ.ศ.2569 โดยเมื่อมีความจำเป็นในเรื่องของ น้ำท่วม ก็ต้องพิจารณาใน การเยียวยา เป็นหลัก ซึ่งเมื่อได้ข้อสรุปเกี่ยวกับนโยบายคนละครึ่งจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ขณะที่ การประเมินผลกระทบเศรษฐกิจโดยภาคเอกชนนั้น นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ที่มีผู้ได้รับผลกระทบ 2.19 ล้านคน 798,695 ครัวเรือน ตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า กลุ่มสำรวจเกือบ 70% คาดว่าต้องใช้เวลากว่า 1 เดือนจึงเริ่มฟื้นตัว จึงประเมินความเสียหายจากน้ำท่วม 10 จังหวัดภาคใต้ ในช่วงระยะเวลา 1 เดือน คาดว่าจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจกว่า 40,000 ล้านบาท กระทบต่อจีดีพี 0.22% โดยคำนวณจากธุรกิจที่ปิดตัว การท่องเที่ยวหยุดชะงัก กิจกรรมสำคัญยกเลิก เช่น ประชุมหอการค้าไทยทั่วประเทศ การจัดแข่งขันซีเกมส์ เป็นต้น ความเสียหายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 1,000-1,500 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นภาคท่องเที่ยว-บริการ 22,440 ล้านบาท เกษตรกรรม 10,720 ล้านบาท การผลิตและสาธาณูปโภค 6,840 ล้านบาท เมื่อจำแนกตามพื้นที่ หาดใหญ่จะได้รับผลกระทบประมาณ 9,600 ล้านบาท สงขลาได้รับผลกระทบประมาณ 24,000 ล้านบาท


