xs
xsm
sm
md
lg

ขวัญใจเด็กๆ! “ลุงอำนาจ” จากเด็กยากจน สู่ลุงการ์ตูน ใส่ชุดมาสคอตสร้างความสุขให้ผู้คน ดีใจได้เห็นเด็กๆ มีความสุข

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อรู้จัก “ลุงอำนาจ” หรือลุงการ์ตูน ซึ่งแม้อดีตจะเติบโตมาจากครอบครัวที่ยากจน แต่ไม่เคยคิดทำงานเพื่อความร่ำรวย เลือกเป็นอาสาสมัครทำงานเพื่อสังคมช่วยเหลือคนด้อยโอกาส เมื่อชีวิตเริ่มก้าวเข้าสู่วัยเกษียณ จึงเลือกทำอีกสิ่งที่ตนเองชื่นชอบนั่นคือ สร้างความสุขให้กับผู้คนรอบข้างผ่านชุดมาสคอตการ์ตูนต่างๆ



“ชีวิตวัยเด็กครอบครัวยากจนมากเลย เป็นเด็กเลี้ยงควาย อาหารประจำจะเป็นกากหมูที่แม่เจียวไว้ เมื่อก่อนมีน้ำมันหมู ก็เจียว เจียวแล้วกากหมูก็อยู่ในนั้น ก็เอามาคลุกข้าวกิน”


ลุงอำนาจ แช่มชื่น กับวัย 64 ปีในวันนี้ย้อนอดีตสมัยเด็กให้ฟัง ซึ่งความยากจนทำให้ลุงมีโอกาสศึกษาเล่าเรียนแค่ชั้น มศ.3 ก่อนจะออกมาใช้แรงกายทำงานหารายได้

“เริ่มจากก่อสร้าง แบกข้าวสารโรงสีข้าว และมาทำงานโรงงานได้ประมาณ 10-20 ปี”


แม้จะยากจน แต่ลุงอำนาจไม่เคยคิดทำงานเพื่อความร่ำรวย และอาจเพราะพื้นฐานมาจากครอบครัวที่ยากจน ลุงจึงมีจิตใจที่เมตตา อยากช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาส ดังนั้นเมื่อวันหนึ่ง มีโอกาสที่จะได้ทำงานช่วยเหลือคนลำบากยากไร้ ลุงจึงไม่ลังเลแต่อย่างใด


“เพื่อนชวนมาทำงานมูลนิธิ เขาคุยเรื่องเนื้องานให้ฟัง เกี่ยวกับช่วยเหลือคน กลุ่มด้อยโอกาสที่เขาเข้าไม่ถึงบริการภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็น รพ. บริการรัฐต่างๆ เข้าไม่ถึง เอ๊ะ งานนี้น่าสนใจ ก็เลยไปกับเพื่อนเลย”


“หน้าที่ตอนนั้นเหมือนกับไปช่วยเหลือกลุ่มด้อยโอกาสต่างๆ เช่น คนไม่มีบัตร ก็ไปพูดคุยกับเขา เก็บข้อมูล ทำไมเขาถึงไม่มีบัตร ทำยังไงจะให้เขามีบัตรได้ กลุ่มผู้ติดเชื้อ กลุ่มผู้ใช้ยา กลุ่มพวกนี้เขาขาดอะไร แล้วเขาจะเข้าถึงบริการต้องทำยังไง พอเราได้ข้อมูลเสร็จ เราก็มาประชุมกับทีมงาน ประชุมกับภาครัฐ กับกระทรวง เอาปัญหาที่เราไปเก็บข้อมูลจากพื้นที่ เอามาคุยกับภาครัฐ ผลักดันเรื่องต่างๆ 30 บาทนี่ก็ด้วยนะ”


ภูมิใจได้มีส่วนช่วยขับเคลื่อนหลักประกันด้านสุขภาพให้คนไทย!

“กฎหมายที่ภูมิใจที่สุดก็กฎหมาย 30 บาทนี่แหละ ใหม่ๆ ชื่อ หลักประกันสุขภาพ ภาคประชาสังคมกับ นพ.สงวนก็มา เขาเรียกเบรนสตรอม มาคิดกันว่าจะยังไง ก็เลยออกมาเป็นหลักประกันสุขภาพ อย่างลุงก็เป็นตัวเล็กๆ แค่ร่วม ก่อนที่จะเสนอกฎหมาย เสนอโดยภาคประชาชน ใหม่ๆ เราก็ล่า 5 หมื่นรายชื่อ แต่ถ้าเสนอโดยภาคประชาสังคมมันจะช้า เขาเลยเสนอพรรคการเมือง พรรคแรกเป็น ปชป. พรรคที่สองเป็นพรรค ทรท. (ถาม-มาสำเร็จในยุคของพรรค ทรท.?) ใช่ แต่จริงๆ แล้วมันเกิดจากภาคประชาสังคม”


“ส่วนผู้ติดเชื้อเอชไอวี เมื่อก่อนเป็นมาก็ตายอย่างเดียว ก็ร่วมกันผลักดันเรื่องยาต้านเข้าสู่หลักประกันสุขภาพ ก็เสีย 30 บาท ผู้ติดเชื้อก็ไม่ตายแล้ว”


ช่วงที่เป็นอาสาสมัครทำงานเพื่อสังคมนี้เอง โชคชะตาก็พาให้ลุงได้รู้จักภรรยา (อาภัสภรณ์ ไชยมงคล) ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาจนถึงปัจจุบัน“ตอนนั้นรู้จักผ่านโซเชียล เขาทำงานมูลนิธิ คุยกับเรา ก็ให้คำปรึกษาดี แนวคิดแกไม่มีทางลบเลย มีแต่ทางบวกอย่างเดียว”


การทำงานอาสาสมัครเพื่อสังคม แม้จะได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่าตอนทำงานโรงงาน แต่ลุงอำนาจไม่เคยลำบากใจ เพราะเป้าหมายของเขาอยู่ที่ทำแล้วมีความสุข ไม่ได้อยู่ที่วัตถุหรือเงินทอง


ด้านภรรยา เผยว่า ลุงอำนาจ หัวใจมีแต่ให้ ตนเองจะมีหรือไม่มีแค่ไหน ก็พร้อมให้ เมื่อผู้เดือดร้อนร้องขอ แอแ

“(ถาม-ตอนนั้นความเป็นอยู่ของป้ากับลุงเป็นยังไงบ้าง?) ก็เช่าห้องเล็กๆ เงินเดือนแค่หมื่นนิดๆ ค่าบ้านอยู่ในกรุงเทพฯ เดือนหนึ่ง 4-5 พัน ค่ากินค่าอยู่อีก ค่าน้ำค่าไฟอีก ค่าจิปาถะอีก ไหนคนโน้นขอกินข้าวหน่อย ไหนขอโน่นนี่นั่นหน่อย ผมไม่มีตังค์ ผมจะพาลูกไปหาหมอ ไม่มีตังค์เติมน้ำมันรถ ขอตังค์หน่อย เขาเป็นคนที่ซัพพอร์ตคนอยู่แล้ว มีไม่มีก็ให้ไปก่อน”


แม้จะมีความสุขกับการทำงานมูลนิธิ งานช่วยผู้ด้อยโอกาสในสังคม แต่แล้ววันหนึ่ง ลุงอำนาจก็ได้พบความสุขรูปแบบใหม่ที่ลุงคิดว่าน่าจะทำเพื่อผู้อื่นได้เช่นกัน


“พออายุใกล้จะ 60 ประมาณ 58-59 ตอนนั้นยังเป็นอาสาสมัครทำงานอยู่มูลนิธิ ก็ไปเห็นโบโซ่ เจอโบโซ่บิดลูกโป่ง ก็ไปยืนดูเขา เด็กๆ ก็เข้ามาเอาลูกโป่ง เราก็เออ ชอบนะ เขาสร้างความสุขให้กับคนได้ เราก็น่าจะทำได้นะ ก็ไปซื้อลูกโป่งมาบิด (บิดเป็นดอกไม้, ดาบ, หมา ฯลฯ) จนลูกโป่งรกเต็มบ้านเลย ป้าแกจะดุ บิดทำไม รกเต็มบ้าน ก็ไปที่สวนสาธารณะ ไปบิดให้เขาฟรีๆ นี่แหละ บิดให้เด็กๆ ที่เขามาเล่นที่สวนสาธารณะ ไปๆ มาๆ สักพัก มันเริ่มไม่ไหวแล้ว ก็ซื้อลูกโป่งเยอะไง ก็ตั้งกล่อง แล้วแต่เขาจะให้ ก็บิดลูกโป่งให้เด็กๆ ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ก็ไม่ได้ขายนะ ใครจะเอาก็มาเอา ใครจะให้เท่าไหร่ก็ได้ 1 บาท 2 บาท 10 บาท แล้วแต่”


จากแต่งตัวเป็นโบโซ่บิดลูกโป่งให้เด็กๆ ลุงอำนาจได้ปรับมาเป็นการใส่ชุดมาสคอตตัวการ์ตูนต่างๆ เช่น ลาบูบู้, แมว, กระต่าย,กบ ฯลฯ โดยจะเต้นสร้างสีสันให้กับตลาดนัดหรืองานอีเวนท์ต่างๆ ที่ลุงและป้าเดินทางไป ขณะที่ป้าก็จะทำหน้าที่บิดลูกโป่งหลายรูปแบบไว้ให้เด็กๆ ที่ผ่านไปมา ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวการ์ตูนที่ดูราวกับมีชีวิตเพราะมีลุงอำนาจอยู่ภายใน ไม่เพียงสร้างความตื่นตาตื่นใจและความสุขให้แก่เด็กๆ ที่ผู้ปกครองพามา แต่คนวัยหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยก็ชื่นชอบและอดที่จะถ่ายรูปกับลุงการ์ตูนในชุดมาสคอตไม่ได้


“เด็กๆ มีความสุขมาก บางคนเจอครั้งที่ 2 วิ่งมาแต่ไกลเลยนะ เวลากางมือ เขาก็จะวิ่งเข้ามากอดเลย บางคนบอกให้พ่อแม่มา จะไปหาลุงการ์ตูน (ถาม-แสดงว่าทุกวันนี้ก็มีแฟนคลับเยอะมาก?) ในเชียงใหม่เยอะมาก (ถาม-ทำมากี่ปีแล้วตอนนี้?) ตั้งแต่ออกงานมา เริ่มจากเป็นโบโซ่จนมาถึงมาสคอตปัจจุบันนี้ ประมาณ 6-7 ปี”


ด้านชไมพร แก้วเปียง แม่ค้าตลาดนัดโลตัสคำเที่ยง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นตลาดนัดที่ลุงอำนาจเดินทางมาออกงานเป็นประจำ กล่าวถึงลุงอำนาจและภรรยาว่า“แกเอนเตอร์เทนน้องๆ และลูกค้าสนุกสนาน บางทีก็มีเล่นกับลูกค้า (ถาม-รู้สึกยังไงที่คนวัยนี้ยังมาทำการแสดงหรือมาแจกลูกโป่งแบบนี้?) คืออายุเยอะแล้ว ยังมีความสู้ เราก็ทึ่ง สิ่งที่ลุงกับป้าทำมีประโยชน์ต่อลูกค้า และสร้างความสนุกสนานให้กับเด็กๆ ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีมาก เพราะเขาเป็นคนสู้ชีวิต เขายังไม่อยู่บ้านเฉยๆ เลย เขายังออกมาทำอะไรให้สังคมได้ มีประโยชน์ต่อสังคมเยอะเลย”


ความสุขของลุงอำนาจ คือการได้มอบความสุขให้คนรอบข้าง!

“(พูดถึงความฝันและเป้าหมายบ้าง ความฝันและเป้าหมายในอนาคตของลุงอำนาจเป็นยังไง?) ชีวิตทุกวันนี้ มันก็ถึงที่เราอยากเป็นแล้วล่ะ คนเราไม่มีหนี้สิน ไม่มีอะไรเข้ามาให้เราทุกข์ ถึงจะมีน้อย แต่มันก็มีความสุข เป้าหมายคือความสุข ไม่ใช่วัตถุ แค่มีลมหายใจ ก็พอแล้ว (ถาม-ความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับวันนี้ลุงเลือกแล้ว ความสุขของลุงคือ?) อยู่กับเด็กๆ อยู่กับการมอบความสุขให้กับคนรอบข้าง และเราก็จะมีความสุขด้วย”


หากท่านใดต้องการติดตามผลงานของลุงอำนาจหรือลุงการ์ตูนแวะไปได้ที่ตลาดนัดโลตัสคำเที่ยง และบิ๊กซีดอนจั่น หรือช่องทางโซเชียล ที่ติ๊กต็อก “ลุงการ์ตูน คิดดีทำดีมีคนรัก” หรือหากต้องการติดต่องานให้ลุงไปสร้างสีสันและความสุข ติดต่อได้ที่ 083-086-8424


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “ลุงการ์ตูน...สร้างสุข”
https://www.youtube.com/watch?v=rXEKm_hGy10&t=1433s


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30-12.00 น. ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 618 / กล่อง True ID ช่อง 19)

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos




กำลังโหลดความคิดเห็น