'แจ็กแปปโฮ'
ยูทูบเปอร์เกรดต่ำ
สมควรโดนเชือด
เหตุการณ์ที่ยูทูบเบอร์ชื่อดังอย่าง “แจ็กแปปโฮ” ปีนขึ้นไปเต้นบนหลังคารถยนต์ของนักท่องเที่ยวที่กำลังต่อคิวถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิ หน้าร้านสะดวกซื้อชื่อดังในญี่ปุ่น กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวที่ลุกลามไปไกลกว่าคลิปไวรัลทั่วไป เพราะมันสะท้อนถึงปัญหาทั้งด้านความรับผิดชอบส่วนบุคคล วัฒนธรรมการล่ายอดวิวและผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยอย่างรุนแรง ความเกรียนที่ทำครั้งนี้ไม่ใช่จุดเริ่มต้น แต่เป็นอีกหมุดหมายของพฤติกรรมที่เสื่อมลงเรื่อย ๆ ของครีเอเตอร์ที่เติบโตจากคอนเทนต์สายเอากระแสเข้าว่า จนหลุดกรอบจริยธรรมความเป็นมนุษย์ที่ควรเคารพสิทธิผู้อื่น
ในอดีต แจ็กแปปโฮเคยสร้างชื่อเสียมาแล้วหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกรณีเหยียบโต๊ะร้านอาหารญี่ปุ่นระดับโอมากาเสะเพื่อถ่ายคลิปโชว์ หรือการทำคอนเทนต์แกล้งคนในที่สาธารณะด้วยประทัดลูกบอลปลอม จนถูกเจ้าหน้าที่เปรียบเทียบปรับในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงรูปแบบความคิดที่ไม่เปลี่ยนแปลง มองการก่อกวนเป็นเรื่องสนุก มองการละเมิดพื้นที่สาธารณะเป็นของเล่น และมองกฎหมายเป็นเพียงอุปสรรคที่อยู่หลังเสียงหัวเราะในคลิปวิดีโอเท่านั้น แต่กรณีที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นล่าสุดหนักหนาสาหัสกว่าเดิมหลายเท่า เพราะไม่ได้กระทบแค่ผู้พบเห็นหรือร้านค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรง หากกระทบต่อภาพลักษณ์ของทั้งประเทศไทยอย่างไม่อาจประเมินค่าได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศที่อ่อนไหวต่อพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติพอสมควร หลังจากเกิดปัญหานักท่องเที่ยวจำนวนมากทำลายกฎระเบียบหรือไม่เคารพสถานที่ต่าง ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การกระทำของแจ็กแปปโฮจึงเหมือนการเติมน้ำมันลงบนกองไฟ และนี่ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าญี่ปุ่นอาจพิจารณามาตรการเข้มงวดขึ้นต่อคนไทย ตั้งแต่การยกเลิกฟรีวีซ่า ไปจนถึงการเพิ่มการตรวจสอบที่ชายแดนหรือการออกกฎพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวไทยโดยเฉพาะเหมือนกับที่เกาหลีใต้ดำเนินการกับคนไทยที่ขอเข้าเมือง แม้มาตรการเหล่านี้อาจยังไม่เกิดขึ้นในทันที แต่ความเสื่อมเสียที่เกิดขึ้นได้สร้าง “ตราบาปทางภาพลักษณ์” ที่อาจคงอยู่ยาวนานเกินกว่าที่เจ้าตัวจะจินตนาการ
ความไม่พอใจของสังคมไทยจึงรุนแรงและกว้างขวาง คนไทยจำนวนมากเรียกร้องให้ทางการญี่ปุ่นดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด รวมทั้งต้องการให้สถานทูตไทยในญี่ปุ่นให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะการปล่อยให้ยูทูบเบอร์รายนี้ลอยนวลเท่ากับส่งสัญญาณว่าเรายินดีให้คนไทยทำผิดกฎหมายต่างประเทศโดยไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ หลายคนมองว่าถ้าไม่จัดการอย่างจริงจัง เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดซ้ำอย่างไม่รู้จบ เพราะครีเอเตอร์จำนวนมากกำลังหลงระเริงกับจำนวนผู้ติดตาม จนลืมไปว่าความสนุกของเราอาจเป็นความทุกข์ของคนอื่น
ถึงแม้เสียงวิจารณ์แทบทั้งหมดในโลกออนไลน์จะถาโถมใส่แจ็กแปปโฮอย่างรุนแรง แต่ก็คงไม่ทำให้เจ้าตัวรู้สึกระคายหูหรือลดความมั่นใจลงไปมากนัก แต่สิ่งที่เขาอาจไม่ทันคิดคือผลเสียที่ตามมาจะสะเทือนถึงครอบครัวอย่างเลี่ยงไม่ได้ ในยุคที่ทุกการกระทำถูกบันทึกไว้บนโลกออนไลน์แบบถาวร เด็ก ๆ หรือสมาชิกในครอบครัวจะต้องใช้ชีวิตท่ามกลางสายตาที่ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของผู้นำครอบครัว ซึ่งเป็นภาระทางสังคมที่ไม่อาจลบล้างได้ง่าย ๆ นี่คือผลกระทบที่รุนแรงกว่าเสียงด่าทอออนไลน์ เป็นผลกระทบที่กินเวลายาวนานและทำลายความภาคภูมิใจของครอบครัวไปทีละน้อย
ปัญหาสำคัญที่ทำให้แจ็กแปปโฮต้องพึ่งพาคอนเทนต์ตลาดระดับต่ำเช่นนี้ คือการไม่พัฒนาศักยภาพทางสมองและความคิดสร้างสรรค์ให้สูงพอสำหรับการผลิตเนื้อหาที่สร้างสรรค์ คอนเทนต์สร้างสรรค์ที่ทำรายได้ดีและมีคุณค่าต่อสังคมนั้นมีอยู่มากมาย แต่ต้องใช้ความพยายาม ซึ่งแน่นอนว่าแจ็กแปปโฮศักยภาพไปไม่ถึง จึงหันไปทำคอนเทนต์เกรดต่ำอย่างที่เห็น
ด้วยพฤติกรรมที่สะสมมานาน การละเมิดกฎหมายต่างประเทศ และการก่อความเดือดร้อนรำคาญต่อสาธารณะ ไม่ใช่เรื่องเกินจริงเลยหากวันหนึ่งแจ็กแปปโฮจะต้องเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่โดนเปรียบเทียบปรับ แต่เป็นโทษจำคุกตามกฎหมายของประเทศที่เขาไปก่อเหตุ และเมื่อถึงวันนั้น จำนวนคนที่ถ่มน้ำลายสมน้ำหน้าคงมีมากกว่าคนที่รู้สึกเห็นใจ
เหตุการณ์นี้จึงไม่ใช่เรื่องตลก ไม่ใช่คอนเทนต์ที่ควรมองข้าม และไม่ใช่เพียงเรื่องของยูทูบเบอร์คนหนึ่งเท่านั้น แต่มันสะท้อนค่านิยมที่ผิดเพี้ยนของอุตสาหกรรมครีเอเตอร์บางส่วน และเป็นสัญญาณเตือนแรงกล้าต่อสังคมไทยว่า หากเรายอมรับความเกรียนเป็นเรื่องปกติ วันหนึ่งความเสียหายอาจย้อนกลับมาทำร้ายประเทศได้รุนแรงยิ่งกว่าที่คิด


