xs
xsm
sm
md
lg

ถอนอาวุธหนักพ้นชายแดน ไม่กระทบอธิปไตยไทย เร่งปักหมุดสำรวจเขตแดน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ถอนอาวุธหนักพ้นชายแดน
ไม่กระทบอธิปไตยไทย
เร่งปักหมุดสำรวจเขตแดน


สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชากลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากมีการปรับกำลังและถอนอาวุธยิงระยะไกลออกจากแนวชายแดน โดย พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ และลดความเสี่ยงต่อความเสียหายต่อทรัพย์สินของชาวบ้าน

พล.ต.วินธัย ชี้แจงว่า แม้จะมีการเคลื่อนย้ายอาวุธบางส่วน แต่กำลังทหารตามแนวชายแดนยังคงอยู่ครบ การป้องกันอธิปไตยของประเทศยังคงดำเนินไปตามปกติ โดยมีการประสานกับชาวบ้านในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ทำให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ ไม่เกิดความตื่นตระหนก

ในประเด็นเชลยศึกทหารกัมพูชาจำนวน 18 นาย ที่ยังอยู่ในการควบคุมตัวของไทย พล.ต.วินธัย ระบุว่า การดูแลเป็นไปตามหลักมนุษยธรรมและมาตรฐานสากล ภายใต้การตรวจเยี่ยมของคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) อย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำว่า ไทยไม่มีเจตนาใช้ประโยชน์ทางการเมืองจากการควบคุมตัวเชลยศึก ทั้งหมดเป็นไปตามกติกาและขั้นตอนทางกฎหมายระหว่างประเทศ ส่วนกระแสข่าวเรื่องการปล่อยตัวเชลยศึกภายในสัปดาห์หน้านั้น ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา

อีกด้านหนึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย–กัมพูชา (เจบีซี) ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ 21–22 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่าทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1.การซ่อมแซมและจัดทำหลักเขตแดนใหม่ เพื่อทดแทนหลักเขตที่ชำรุดหรือสูญหาย 2.การปรับปรุงทีโออาร์ ปี 2003 เพื่อใช้เทคโนโลยีไลดาร์ (LiDAR) ในการทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ โดยมีแผนเริ่มทดลองใช้ภายในสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม 2568 และ 3.การเร่งสำรวจและวางหมุดชั่วคราว บริเวณหลักเขตแดน 42–47 ครอบคลุมพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจน ลดความขัดแย้ง และช่วยให้หน่วยงานท้องถิ่นบริหารจัดการพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายเบญจมินทร์ ยืนยันว่า การวางหมุดชั่วคราวดังกล่าวเป็นเพียงขั้นตอนทางเทคนิคเพื่อการสำรวจ ไม่กระทบต่อสิทธิในดินแดนของทั้งสองประเทศ โดยจะเริ่มดำเนินการภายในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ และนำผลสำรวจเข้าสู่การพิจารณาของรัฐบาลไทยและกัมพูชา ก่อนกำหนดกลไกปรับการถือครองที่ดินในพื้นที่ชายแดน โดยทั้งสองฝ่ายตกลงจะจัดประชุมเจบีซีอีกครั้งในช่วงต้นเดือนมกราคม 2569 เพื่อประเมินความคืบหน้าและวางแนวทางร่วมมือในระยะต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น