ทบ.จับโกหกเขมร ป้ายสีระเบิดไทยตกค้าง
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยกรณีกัมพูชาอ้างผลตรวจสอบเหตุระเบิด เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2568 ในพื้นที่ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร เป็นเหตุให้เด็กชายอายุ 10 ขวบเสียชีวิต และบิดาได้รับบาดเจ็บสาหัส ว่าเป็นระเบิดแบบคลัสเตอร์ M-85 ของกองทัพไทยตกค้างจากเหตุปะทะระหว่างวันที่ 24–28 ก.ค. 2568 ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ด้วยข้อสังเกต ดังนี้ 1.กองทัพบกไทยใช้ต่อเป้าหมายสิ่งปลูกสร้าง เจาะเกราะ และเป้าหมายทางทหารเท่านั้น 2.กระสุนชนิดนี้เมื่อยิงถึงเป้าหมาย ลูกระเบิดย่อยจะทำงานและระเบิดตัวเองอัตโนมัติ ไม่ตกค้างในพื้นที่ และ 3.จากภาพที่กัมพูชาเผยแพร่ ความเสียหายไม่สอดคล้องกับระเบิดแบบ M85 หลังคาบ้านโอ่งน้ำมีรูพรุนจำนวนมาก พบร่องรอยสะเก็ดระเบิดทั่วไป ซึ่งไม่ใช่ลักษณะระเบิดแรงสูง การเสนอข่าวต้องอยู่บนข้อเท็จจริง มีความรับผิดชอบ ไม่บิดเบือนที่อาจสร้างความเข้าใจผิด
เคลียร์ระเบิดจันทบุรีสร้างรั้ว
พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เผยความคืบหน้าการสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา ตกลงกันได้แล้ว 45 หลักเขต ตกลงกันไม่ได้ 25 หลักเขต โดยลงพื้นที่สำรวจ จ.จันทบุรี หลักเขต 52-59 ความยาว 8 กิโลเมตร ขั้นต่อไปคือทำให้พื้นที่ปลอดภัย เคลียร์ทุ่นระเบิด ซึ่งยังพบระเบิดสังหารฝังอยู่ ส่วนที่สระแก้ว หลักเขตที่ 49-50 และช่องจอม หลักเขตที่ 14-15 ก็สามารถสร้างได้ ขณะที่บ้านหนองจานหรือบ้านหนองหญ้าแก้ว หลักเขตยังไม่ตรงกัน การสร้างรั้วคงเป็นไปได้ยาก อาจปักหมุดชั่วคราวไปก่อน
MOU 43 ไม่ผ่าน ครม.
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน แสดงหลักฐานสำคัญ MOU2543 แค่ให้ ครม.รับทราบ แต่ไม่ได้ผ่านการพิจารณา ที่สำคัญเป็นการดำเนินงานของฝ่ายบริหาร โดยพระมหากษัตริย์ไม่ได้ทรงลงพระปรมาภิไธย ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ เตรียมทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อยกเลิกก่อนนำไปทำประชามติ หากไม่ดำเนินการอาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ทวงคืนแผ่นดินฝ่าแนวกั้น
นายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวภาคประชาชน พร้อมกลุ่มมวลชน ปฏิบัติการทวงคืนพื้นที่อธิปไตยไทย หน้าด่านบ้านหนองจาน ฝ่าแนวกั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยเจ้าหน้าที่เจรจาให้อยู่ห่างจากแนวกั้น เพื่อความปลอดภัยของมวลชน เนื่องจากอยู่ใกล้ชุมชนชาวกัมพูชา
เอเปคต้องเปิดกว้าง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค รอบที่ 1 กล่าวถ้อยแถลง ในยุคที่โลกเผชิญความท้าทายรอบด้านความร่วมมือไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นความจำเป็น ย้ำ เอเปคต้องเปิดกว้าง มีส่วนร่วม มุ่งสู่อนาคต เพื่อสร้างภูมิภาคที่เข้มแข็งและยืดหยุ่นมากขึ้น


