นายกย้อนแย้งซื้อเวลา หลิ่วตาปราบสแกมเมอร์
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง แนวทางการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์และการฟอกเงิน เพื่อให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพิจารณาแก้ปัญหาเร่งด่วนในวาระแห่งชาติ เป็นเรื่องร้ายแรง สร้างความเสียหายทั่วโลกไม่ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท เปิดข้อผิดพลาดรัฐบาลตัดไฟ ตัดอินเทอร์เน็ต หยุดส่งน้ำมัน แต่ไม่ขยายผลต่อเนื่อง ไม่จัดการไทยเทาจริงจังทำแค่ย้ายตำรวจ บทบาทนายกรัฐมนตรีย้อนแย้ง บอกไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพกวาดล้างสแกมเมอร์ ขณะที่สหรัฐฯ อายัดคริปโต 500,000 ล้านบาท ไทยอยู่ติดกัมพูชาแต่ทำอะไรไม่ได้ ต้องรอประเทศอื่นจัดการ เป็นความอับอายของเกียรติภูมิชาติที่ไม่สามารถเป็นผู้นำจัดการเรื่องนี้ได้ รัฐบาลซื้อเวลาไร้ความคืบหน้า หวั่นไทยเป็นสวรรค์การฟอกเงิน นึกไม่ออกถ้าไม่ได้ประโยชน์จากแก๊งสแกมเมอร์ ทำไมไม่ดำเนินการ แนะ ดึงนานาประเทศร่วมปฏิบัติการจริงจัง ไม่ใช่แค่เดินไปคุย
สส.มีประวัติทั้งสภา
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม(กธ.) เผยกรณีมีการเชื่อมโยงนายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรค กธ. เกี่ยวข้องกับเส้นเงินแก๊งสแกมเมอร์ เขาชี้แจงแล้วเป็นคดีเก่าที่ผ่านกระบวนการยุติธรรม สังคมไทยมองทุกอย่างเป็นสแกมเมอร์ ต้องแยกกัน อย่าเหมารวม ถ้าตรวจสอบทั้งหมด 400 กว่าชีวิตในสภา ทุกคนมีประวัติและอดีต จะให้เราซัดกันหรือ
7 บริษัท เลื่อนแจงเงินเทา
นายดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(กมธ.ปปง.) เผย 7 บริษัท เอกชนยื่นขอเลื่อนให้ข้อมูล กรณีข่าวมีเงินสีเทาเข้ามาลงทุนในไทย ผ่านบริษัทใหญ่ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดใช้เวลาไม่เกิน 15 วัน เพราะเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ ได้นำข้อมูลที่ได้มามอบให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินต่อไป
มาเลย์ปราบแก๊งคอลครั้งใหญ่
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ตำรวจมาเลเซียระดมกำลังกวาดล้างครั้งใหญ่ทั่วประเทศ จับกุมบุคคลต้องสงสัยกว่า 2,123 ราย ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงออนไลน์ คอลเซ็นเตอร์ และเปิดบัญชีม้าเพื่อฉ้อโกง โดยปฏิบัติการครั้งนี้เกี่ยวข้องกับความเสียหายรวมมูลค่า 11.6 ล้านริงกิต และนำไปสู่การเปิดสำนวนการสอบสวน 660 คดี ซึ่ง 275 คดี ได้ส่งฟ้องศาลแล้ว
พร้อมเลือกตั้งควบประชามติ
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ยืนยัน กกต.พร้อมจัดการเลือกตั้งควบการทำประชามติ หากรัฐบาลกำหนดวันเลือกตั้ง 29 มี.ค. 2569 ต้องส่งคำถามแรกไม่เกินวันที่ 13 ม.ค. 2569 ขอเวลาทำงาน 75 วัน เผยแพร่ข้อมูลทำความเข้าใจและจัดเวทีแสดงความคิดเห็นของฝ่ายที่เห็นต่าง หวังรัฐบาลรวมคำถามประชามติในบัตรเดียว ซึ่งจะประหยัดงบประมาณได้ 55 ล้านบาท ห่วงประชาชนสับสนเพราะมีคำถามเยอะ


