รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อรู้จัก “พระครูปรีชาภิวัฒน์” หรือ “พระครูกู้ภัย” เจ้าอาวาสวัดทุ่งหลวง อ.พร้าว ที่ไม่เพียงเผยแพร่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา แต่ยังก่อตั้งศูนย์กู้ชีพกู้ภัยพร้าววังหิน เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์จากอุบัติเหตุอุบัติภัยต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที
ไม่เคยคิดลาสิกขาตั้งแต่บรรพชาเป็นสามเณร!
“เมื่อก่อนอาตมาภาพอยู่ที่ ต.น้ำแพร่ บ้านป่างิ้ว ต.น้ำแพร่ บรรพชาสามเณรปี 2529 จบ ป.6 เพราะว่าครอบครัวฐานะพออยู่พอกิน แม่มีลูก 6 คน อาตมภาพคนสุดท้อง พอจบ ป.6 เลยเข้ามาบวชเรียน พอพ้นวัย 20 ก็อุปสมบทที่วัดบ้านเกิด วัดป่างิ้ว ปี 2537 จากบรรพชาสามเณร ก็ไม่มีความคิดที่จะสิกขาลาเพศเลย มันมีใจอยากอยู่สืบทอดพระพุทธศาสนา ไม่เคยคิดจะสึกออกไปใช้ชีวิตแบบฆราวาส”
ด้วยความที่ อ.พร้าว เป็นอำเภอเล็กๆ ที่อยู่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่กว่า 100 กิโลเมตร ยามเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉิน การช่วยเหลือจึงไม่ทันท่วงที
“มาอยู่วัดทุ่งหลวงปี 2538 เมื่อก่อนถนนหน้าวัดยังเป็นถนนสองเลน และเกิดอุบัติเหตุบ่อย เพราะเป็นถนนสายหลัก พร้าว-เชียงใหม่ และเกิดในช่วงเวลากลางคืน หัวค่ำ เพราะยังไม่มีหน่วยกู้ชีพกู้ภัยในสมัยนั้น ผู้ได้รับบาดเจ็บ กว่าจะได้รับการช่วยเหลือให้ถึง รพ.ใช้เวลานานมาก กว่าเขาจะแจ้งไปทาง 191 หรือสถานีตำรวจ รถตำรวจมาแล้วถึงจะขอชาวบ้านช่วยกันยก การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแบบไม่ได้มาตรฐาน คือจับแขนจับขาก็หามยกขึ้นรถตำรวจและส่ง รพ. ไม่มีกระบวนการที่ถูกต้องในการเคลื่อนย้าย ทำให้ผลสูญเสียตามมาทีหลัง จากบาดเจ็บปานกลางกลายเป็นบาดเจ็บสาหัส และอีกอย่าง บางคนเห็นแล้วไม่ใช่ญาติ ใครก็ไม่อยากช่วย เพราะรถชาวบ้านทั่วไป เขาก็กลัวว่า คนบาดเจ็บจะไปเสียชีวิตบนรถเขา”
หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ใน อ.พร้าว ถึง 2 ครั้ง จุดประกายให้พระครูปรีชาภิวัฒน์ ริเริ่มจัดตั้งชมรมกู้ภัยพร้าววังหินเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน
“ภัยใหญ่ของ อ.พร้าว คือ อุทกภัยน้ำท่วม ปีนั้น 2 ครั้งใหญ่เลย วันที่ 13 ส.ค. กับ 28 ก.ย.2548 หลวงพ่ออยู่ใน ต.ทุ่งหลวง หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบคือ บ้านแม่งัด โดนน้ำท่วมทั้งหมู่บ้านเลย ชาวบ้านไม่มีอะไรจะกิน และผู้เฒ่าผู้แก่ผู้สูงอายุที่ออกบ้านไม่ได้ ช่วงนั้นการประสานงานติดต่อใช้ไม่ได้เลย ได้แต่วิทยุ วิทยุแบบที่ตำรวจใช้กัน”
“หลังจากเสร็จวิกฤตน้ำท่วมคราวนั้น อาตมภาพก็มานั่งคุยกัน คือชักชวนคนที่มาช่วยกันนะ อ.พร้าวเราน่าจะมีหน่วยงานกู้ชีพกู้ภัยเพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน ช่วยยามมีอุบัติเหตุ อุบัติภัย เจ็บป่วย ฉุกเฉิน เหล่านี้ ก็เลยรวมตัวกัน ทั้งพระสงฆ์ ทั้งชาวบ้านไม่กี่คน พระสงฆ์ 5 รูป ชาวบ้าน 10 กว่าคน มาช่วยกัน เริ่มแรกไม่มีอะไรเลย เริ่มจาก 0 ใครมีเชือกมีขวาน มีเรือหาปลา ก็เอามาช่วยกัน อาตมาก็มีงบอยู่ 2 หมื่นบาทที่ไปซื้อรถกัปป๊อ 1 คัน เพื่อเอามาเป็นรถเริ่มแรก คันแรก ตอนนั้นตั้งเป็นชมรม ชื่อ ชมรมกู้ภัยพร้าววังหิน”
การทำงานของชมรมกู้ภัยพร้าววังหิน พระครูปรีชาภิวัฒน์ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์และควบคุมการทำงานให้เรียบร้อยด้วยดี
“เจ้าหน้าที่อาสาที่ร่วมกันเบื้องต้นต้องอบรมการใช้วิทยุสื่อสาร ประสานงาน และการส่ง รพ. ต้องมีหัวหน้า ไปดูแลที่เกิดเหตุ อาตมาจะออกไปด้วยทุกครั้ง เมื่อก่อนนะ เริ่มแรก ถ้าเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายที่ ต้องแบ่งชุดกำลังไปแต่ละจุด กำลังไม่พอ เราก็ไป หน้าที่ของอาตมาคือไปควบคุมดูแลลูกข่ายให้ประเมินสถานการณ์ ผู้ได้รับบาดเจ็บ จะช่วยใครเป็นอันดับต้น 1-2-3 และส่องแสงสว่าง อำนวยความสะดวกในด้านความปลอดภัยให้กับลูกทีมเรา”
“(ถาม-รูปแบบการทำงานเหมือนกับกู้ภัยทั่วไปไหม?) เหมือนกัน มาตรฐานเดียวกัน เพราะมาในระบบเดียวกัน (ถาม-แต่จะแปลกตาสำหรับคนทั่วไป จะเห็นพระครูไปยืนกำกับหรือไปคอยอำนวยความสะดวกในสถานที่ ตอนนั้นไม่เป็นที่กล่าวขาน?) ใช่ เมื่อก่อน คนยังไม่ตาย พระมาแล้ว กลัวไม่ได้สวดศพหรือไง เขายังไม่ตาย นั่งอยู่หน้ารถ พาเขาไป เปิดไฟไซเรนดังลั่น ไม่ใช่กิจของสงฆ์ เมื่อก่อน ชาวบ้านไม่เข้าใจ”
แม้จะมีชาวบ้านบางส่วนไม่เข้าใจ มองว่างานกู้ภัยไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่สุดท้าย เมื่อเห็นว่า พระครูปรีชาภิวัฒน์ช่วยเหลือชาวบ้านได้จริงๆ มุมมองและศรัทธาของชาวบ้านต่อพระครูฯ ก็กลับมาอีกครั้ง
“เราจะทำยังไงช่วยให้ชาวบ้าน ไม่ทิ้งวัด วัดไม่ทิ้งชาวบ้าน เราต้องช่วยกันเวลาเกิดอุบัติเหตุ ได้รับบาดเจ็บอะไรทั้งหลาย แล้วชาวบ้านที่ไม่เคยคิดถึงวัดเลย ไม่เคยเข้าวัดเลย ก็ปรับสภาพ หลังจากหายจากอุบัติเหตุแล้ว ก็เริ่มเข้าไปทำบุญ เข้าไปช่วยกิจกรรมพระศาสนา”
จากจิตอาสาที่เข้ามาร่วมไม่กี่คน วันนี้ ชมรมกู้ชีพกู้ภัยพร้าววังหินที่พระครูปรีชาภิวัฒน์ตั้งขึ้น ได้กลายเป็นศูนย์กู้ชีพกู้ภัยที่พึ่งสำคัญยามวิกฤตของชาวบ้านทั้งอำเภอไปแล้ว
ธันยกร กาวี รองประธานกู้ภัยพร้าววังหิน เผยว่า ในการทำงานกู้ภัย พระครูปรีชาภิวัฒน์จะลงพื้นที่ ทั้งช่วยหาข้อมูลและประสานงาน
“ส่วนมากจะลงพื้นที่ไปหาข้อมูลหรืออะไรที่ชาวบ้านเดือดร้อน หรือมีเหตุ เช่น น้ำท่วม และมีคนอยู่ใน แกจะประสานเข้ามาในทีมอาสาที่จะเป็นชุดให้ความช่วยเหลือ เพื่อเข้าไปปฏิบัติและให้การช่วยเหลือประชาชน ทุกงาน ไม่ว่าจะเป็นดิน น้ำ ลม ไฟ ไฟไหม้เอย น้ำท่วมเอย หลังจากการช่วยเหลือเสร็จ ก็ยังประกาศหรือประชาสัมพันธ์เพื่อขอรับบริจาค เอาข้าว อาหาร แม้กระทั่งเงินบริจาคเพื่อเอาไปให้ผู้ประสบภัย ส่วนมากแกจะเป็นหลักในรูปแบบของการช่วยเหลือในเชิงของทรัพย์”
กว่า 20 ปีแล้ว ที่ศูนย์กู้ชีพกู้ภัยพร้าววังหินได้ช่วยเหลือชาวบ้านจากอุบัติเหตุและภัยต่างๆ เริ่มจากรถคันเดียว จนกลายเป็นศูนย์กลางการกู้ชีพครบวงจร มีทั้งบุคลากรและอุปกรณ์ครบครัน
“(ถาม-ตอนนี้สมาชิกของอาสาสมัครของชมรมของพระอาจารย์มีประมาณเท่าไหร่ที่อยู่ในพื้นที่?) ณ เวลานี้ 93 คน 93 คนนี้ ที่ผ่านการอบรม จะมีการอบรมอยู่ 3 ระดับ เจ้าพนักงานฉุกเฉินการแพทย์อยู่ 2 คน ระดับพื้นฐานมีอยู่ 10 คน และอาสาสมัครฉุกเฉินการแพทย์ระดับพื้นฐานมีอยู่ 27 คน ผ่านการอบรมได้ใบจากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ที่คุมระบบ 1669 ทั่วประเทศของเรา”
“อ.พร้าว ทางจังหวัดเขาโปรโมตเกี่ยวกับเรื่องแหล่งท่องเที่ยวของ อ.พร้าว กับแม่แตง เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล ตอนนี้เขาก็เริ่มเปิดให้ท่องเที่ยวแล้ว เราก็ไปสร้างศูนย์กู้ภัยทางน้ำ คือทำเป็นแพขึ้นมา 1 เรือนแพ เอาไว้เป็นศูนย์ปฏิบัติงานเวลานักท่องเที่ยวประสบอุบัติเหตุ บางทีวัตถุพยาน มีด ปืนที่เขาใช้ในการก่อคดี แล้วเอาไปโยนทิ้งน้ำ ก็ต้องไปดำหาวัตถุพยานเพื่อประกอบสำนวนคดี ตามภารกิจที่ร้องขอมา ทุกปีเราจะมีการอบรมนักประดาน้ำ ทีมประดาน้ำปีละ 1 รุ่น รุ่นละ 50 คน อย่างปีนี้เป็นรุ่นที่ 6 ตอนนี้นักประดาน้ำเรากระจายอยู่ทั่วภาคเหนืออยู่ 240 กว่าคน”
“ตอนนี้มีรถกู้ชีพถึง 4 คันแล้ว รถดับเพลิง มีรถยก 6 ล้อ โฟร์วีล 1 คัน รถยก 4 ล้อ โฟร์วีล 1 คัน มีรถอุปกรณ์แสงสว่าง เครื่องตัดถ่าง ชุดประดาน้ำ เครื่องอัดอากาศให้กับนักประดาน้ำ มีโดรนค้นหา 2 เครื่อง (ถาม-การตอบรับจากสังคม ก็สามารถมาสนับสนุนโครงการให้มีเครื่องมืออุปกรณ์?) อันไหนที่เราไปปฏิบัติงานแล้ว เคสนี้อุปกรณ์เราไม่มี เราก็มาตั้งเป้าไว้ว่า ปีนี้เราทำบุญกู้ภัย ซื้อโดรนค้นหานะ จะซื้อเครื่องตัดถ่าง เรือ ก็ถือว่าเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้ ความทุกข์ของชาวบ้านทั้งหลาย ชาวบ้านใน อ.พร้าว หรืออำเภอใกล้เคียง กู้ภัยพร้าวถือว่าเป็นที่พึ่งได้ ณ จุดหนึ่งเลย (ถาม-ได้ช่วยเหลือผู้คนมาจำนวนเท่าไหร่ เคยบันทึกไว้ไหม?) บันทึกอยู่ แต่ละปีไม่ต่ำกว่า 2,000 ราย เวลาเราไม่มีงบประมาณจากหน่วยงานราชการเลย ก็อาศัยชาวบ้านช่วยกันทำบุญ ถ้าทำบุญแล้วไม่เพียงพอในการบริหาร ก็จากปัจจัย อย่างที่โยมมาทำบุญกับอาตมา ก็เอาส่วนนี้ไปเติมให้มันพอในการใช้จ่าย”
ไม่ใช่แค่งานกู้ชีพกู้ภัยที่พระครูปรีชาภิวัฒน์ได้ช่วยเหลือชาวบ้าน แต่ยังรวมถึงการเป็นที่พึ่งของชาวบ้านยามทุกข์ร้อนอีกด้วย
“ตรงนี้เป็นวิหาร 2 ชั้น ข้างบนทำกิจกรรมงานวันพระหรือกิจกรรมที่โยมมาปฏิบัติธรรม แต่ด้านล่างนี้ เอาไว้เก็บของเกี่ยวกับเตียงผู้ป่วย อุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ป่วย แพมเพิส และเป็นที่ถวายโลงศพให้กับผู้เสียชีวิตที่ยากไร้ที่ฐานะยากจน”
“จากที่เราทำกู้ภัย เราก็ไปเห็นที่เขาให้ไปรับผู้ป่วย หมอนัดไป รพ.ไปกายภาพ ไปเห็นสภาพบ้านเขาชำรุดทรุดโทรม บ้านเรือนก็จะผุจะพัง จะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ ก็ไปถ่ายภาพเจ้าของ ถ่ายภาพบ้าน ถ่ายภาพห้องน้ำ ความเป็นอยู่ของเขา และเอามาโพสต์ในไลน์ ในเฟซกู้ภัย เชิญชวน ใครอยากทำบุญคนละเล็กละน้อย และให้เขาโอนเข้าบัญชีของผู้ที่เราไปช่วยเหลือ ได้เท่าไหร่ ก็ให้เขาเบิกเงินเอามาซื้อวัสดุอุปกรณ์ บางหลังเราก็จ้างช่างในราคาบุญไปช่วย และทีมกู้ภัยที่ถนัดด้านช่างปูนช่างเชื่อมช่างเหล็กก็เอาไปช่วย เราช่วยสร้างบ้านประมาณ 2552-2553 ที่กู้ภัยเราพอมีกำลังประสานงานอะไรได้ ที่ทำไปประมาณ 17 หลัง”
พระครูปรีชาภิวัฒน์ภูมิใจได้ช่วยเหลือชาวบ้านผ่านศูนย์กู้ชีพกู้ภัยพร้าววังหินมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว
“ก็ถือว่า ความภูมิใจ ความสุขใจก็เกิดด้วย เห็นว่าเราทำไปแล้วไม่สูญหาย ไม่สูญเปล่า คนจะได้เห็นคุณค่าของพระศาสนา และฟื้นฟูวิกฤตศรัทธา ณ เวลานี้ด้วย เรามั่นใจว่าเราทำดีแล้ว ใครคิดในทางลบหรือทางบวก แต่เราเอาหลักทางศาสนามากำกับ คือมีเจตนาที่จะช่วยเหลือด้วยเมตตา เราไม่ได้หวังผลอะไร ไม่ได้หวังผลกำไรเลย เราหวังผลเพื่อให้เขาพ้นทุกข์ เราช่วยแล้ว เราภูมิใจว่าเราได้บุญแล้ว เหมือนพระโพธิสัตว์ ได้ช่วยเหลือคน”
หากท่านใดต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภารกิจแห่งความดีนี้ สามารถร่วมบริจาคทุนในการบริหารจัดการของศูนย์กู้ชีพกู้ภัยพร้าววังหินได้ที่ธนาคาร ธ.ก.ส. ชื่อบัญชี ศูนย์กู้ภัยพร้าววังหิน เลขที่บัญชี 015-232-593-317
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “พระครูกู้ภัย”
https://www.youtube.com/watch?v=L3P83F77RNg
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30-12.00 น. ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 618 / กล่อง True ID ช่อง 19)
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


