xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กโจ๊กดิ้นหนัก ฟ้องเเหลกทุกเคส หนี้บ่วงกรรมไล่ล่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บิ๊กโจ๊กดิ้นหนัก ฟ้องเเหลกทุกเคส หนี้บ่วงกรรมไล่ล่า

28 ตุลาคม 2568 คืออีกหนึ่งวันที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ลั่นวาจาว่า จากนี้จะไล่ลมทุกเคสที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมเเละใช้สิทธิตามมาตรา 29 วรรคสอง แห่งรัฐธรรมนูญที่ระบุว่า

ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่มีความผิด และก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่าบุคคลใดได้กระทำความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดมิได้นั้น

บิ๊กโจ๊กคือผู้ไร้มลทินจากหลายคดีที่โดนร้องเรียนจริงหริอ.. สังคมน่าจะไตร่ตรองได้ไม่ยาก

คราวนี้อดีตรอง ผบ.ตร. ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อยื่นฟ้อง พรชัย มนัสศิริเพ็ญ รองประธานศาลปกครองสูงสุด และโสภณ บุญกูล หัวหน้าคณะตุลาการศาลปกครองสูงสุด ในความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่า ตุลาการทั้งสองคนใช้อำนาจหน้าที่กลั่นแกล้งตนให้ต้องรับโทษทางอาญา เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากก่อนหน้านี้บิ๊กโจ๊กได้มายื่นฟ้องประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่นฯ ไว้เเล้วที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเข้ามาแทรกแซงมติองค์คณะที่มีตุลาการห้าคนเป็นเจ้าของสำนวนในคดีที่สำนักงานตำรวจเเห่งชาติสั่งให้บิ๊กโจ๊กออกจากราชการนั้น ชอบหรือไม่

เพราะตอนนั้นมีคลิปหลุดเสียงการสนทนาขององค์คณะที่บิ๊กโจ๊กนำมาใช้กล่าวอ้างว่า ประธานศาลปกครองสูงสุดเเละพวก สั่งให้นำมติขององค์คณะที่บิ๊กโจ๊กอ้างว่าเสียงข้างมากในองค์คณะที่ชี้ว่าคำสั่งของสตช.นั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายเเละบิ๊กโจ๊กกลับเข้ารับราชการได้ทันที

เเละบิ๊กโจ๊กอ้างว่าหากนำมติดังกล่าวเสนอที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดให้ความเห็นเพื่อหักล้างมติองค์คณะที่วินิจฉัยคดีของบิ๊กโจ๊กไว้เเล้วว่า บิ๊กโจ๊กชนะคดีนั้น การทำเเบบนี้ของประธานศาลปกครองสูงสุดเเละพวก ขัดหลักกฎหมายเเละวิธีปฏิบัติ

ยามนั้นบิ๊กโจ๊กยังอ้างว่าตุลาการบางคนเป็นเพื่อนเรียนร่วมหลักสูตรกับ ผบ.ตร. เเละตุลาการบางคนมีอคติกับตนจึงไม่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้น และบิ๊กโจ๊กอ้างว่าเมื่อยื่นฟ้องประธานศาลปกครองสูงสุดเเละพวกนั้น ตามหลักกฎหมายถือว่าเป็นคู่กรณีกัน จะต้องไม่ใช้อำนาจหน้าที่มอบหมายผู้ใดมากำกับดูแลคดีของบิ๊กโจ๊ก

เเต่ปรากฏว่า ประธานศาลปกครองสูงสุดได้มอบหมายให้รองประธานศาลปกครองสูงสุดมากำกับคดีของบิ๊กโจ๊ก และได้ใช้อำนาจหน้าที่กลั่นแกล้งให้บิ๊กโจ๊กได้รับโทษทางอาญาอีกหนึ่งคดี คือ เรื่องละเมิดอำนาจศาล ทั้ง ๆ ที่องค์ประกอบของกฎหมายไม่เข้าองค์ประกอบความผิดของการละเมิดอำนาจศาล แต่ในคำชี้แจงคำอธิบาย อนุโลมกฎหมายมาใช้กับตนนั้น บิ๊กโจ๊กอ้างว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบ

หากไล่พินิจตามข้อกฎหมายเเล้วพบว่า ศาลปกครองสูงสุดจะนำสำนวนคดีที่องค์คณะวินิจฉัยเเล้วมาพิจารณาในที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดได้ เพราะมีอำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายเพื่อความเป็นธรรม ดังนั้นไม่ใช่สิ่งผิดวิสัยดังที่บิีกโจ๊กกล่าวอ้างเลย

เเละลองไล่เรียงกันดี ๆ เหตุที่ศาลปกครองสูงสุดฟ้องบิ๊กโจ๊กข้อหาละเมิดอำนาจศาลนั้น เป็นความผิดที่ศาลมีอำนาจสั่งลงโทษได้ทันที โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นสังคมควรพินิจว่า คลิปเสียงดังกล่าวที่บิ๊กโจ๊กอ้างอิงนั้น เเม้คลิปเสียงสามารถใช้เป็นหลักฐานอาญาได้นั้น แต่ต้องพิจารณาว่า ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากคลิปเสียงได้มาโดยได้รับความยินยอมจากทุกฝ่ายสามารถใช้เป็นพยานหลักฐานได้ แต่หากเป็นการแอบบันทึก ศาลอาจจะพิจารณาเป็นกรณีพิเศษโดยรับฟังได้เฉพาะเมื่อเป็นประโยชน์ต่อการอำนวยความยุติธรรมเเก่ส่วนรวม

ถามว่าเคสของอดีตรอง ผบ.ตร. เป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมหรือไม่ เพราะงานนี้บิ๊กโจ๊กบอกสังคมไว้ว่า กำลังไล่ล่าความยุติธรรมให้ตัวเอง

เเละอดีตรอง ผบ.ตร. เคยยอมรับว่ามีสายข่าวในหลากองค์กรไว้เป็นเเหล่งข้อมูล เเต่อย่าลืมว่า สายข่าวของบิ๊กโจ๊กที่อ้างไว้นั้น ตอนนี้สายข่าวโดนจับได้ว่าร่วมทุจริตกับบิ๊กโจ๊ก เช่น บุคลากรของ ป.ป.ช. หลายคนซึ่งสำนวนของ บก.ปปป. เเละการสืบทางลับของสนามบินน้ำพบว่า คนใน ป.ป.ช. เหล่านี้ช่วยเหลือบิ๊กโจ๊กในทางมิชอบจริงเเละกำลังโดนเช็กบิลนั้น

ความโปร่งใสที่บิ๊กโจ๊กกล่าวอ้างนั้น เเทบไร้ราคา เเละกรณีคลิปเสียงที่ศาลปกครองสูงสุดนั้น เอาเข้าจริงมันมีที่มาที่ไปเเบบไร้สาเหตุ จนไม่อาจนำมาใช้เป็นหลักฐานได้ เเละมันคล้ายคลิปเเอบบันทึกเหมือนคราวที่บิ๊กโจ๊กเเอบอัดคลิปที่บ้านพักประธานรัฐสภาเมื่อหลายเดือนก่อน จนเจ้าของบ้านคือวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ตำหนิดัง ๆ ว่าบิ๊กโจ๊กไม่ใช่สุภาพบุรุษ

กูรูสีกากีบางคนอ่านกลยุทธของบิ๊กโจ๊กได้ว่า การศึกยามนี้ของบิ๊กโจ๊กที่เปิดเเนวรบรอบด้านนั้น คล้ายว่า วันนี้บิ๊กโจ๊กร้อนรนเเละเข้าตาจน จึงปั่นข่าวใหม่ ๆ ออกมาเเฉ เพื่อเบนความสนใจในหลากคดีที่่บิ๊กโจ๊กใกล้โดนชี้มูลเเละชำระความ

ดังนั้นเวลาชีวิตของบิ๊กโจ๊กที่วันนี้ยอมรับเองว่าตัวเองคือตำรวจสีเทาที่มีรอยเปื้อนจากการทำงานบ้าง เเต่ไม่กี่นาทีข้างหน้าบุรุษจากสิงหนครคนนี้ อาจจะกลายเป็นอดีตผู้พิทักษ์สันติราษฎร์สีดำอีกหนึ่งชีวิตเพราะบ่วงกรรมหลายคดีตามติดเป็นเงา ก็เป็นได้


กำลังโหลดความคิดเห็น