รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ย่านหนองจอกของกรุงเทพฯ เพื่อรู้จัก “น้องน้ำหอม” ที่แม้ถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่เล็ก แต่โชคดีได้พ่อแม่ใจบุญรับเลี้ยงดู ในวันที่พ่อแม่บุญธรรมต้องเผชิญวิกฤตแสนสาหัส ถูกโกงจนล้มละลาย พร้อมถูกยึดรถยึดบ้าน แถมด้วยหนี้ก้อนโต หากไม่มีน้องน้ำหอม ครอบครัวของพ่อแม่ใจบุญ อาจอยู่มาไม่ถึงวันนี้ก็เป็นได้
“ตอนแรกแม่ทำธุรกิจเย็บผ้า รับจากบริษัทและมาเย็บที่บ้าน เรามีลูกน้องประมาณ 10 คน ทีนี้ด้วยเศรษฐกิจด้วย บริษัทเราก็แย่ และแม่ก็โดนโกง เงินยอดสุดท้ายไม่ได้ ก็ล้มละลาย”
แม่ยุพา ชาวัน ย้อนเล่าสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวอยู่ในภาวะล้มละลายจากการถูกโกง จนแม่หันมารับจ้างเย็บผ้าแทน พร้อมขายน้ำมะพร้าวน้ำหอมปั่นอยู่หน้าบ้าน
แม้ฐานะการเงินของแม่ยุพาในช่วงนั้นจะค่อนข้างแย่ แต่เมื่อวันหนึ่งมีเด็กน้อยถูกนำมาทิ้งไว้ เธอและสามีจึงอดที่จะรับเลี้ยงดูไม่ได้
“ตอนนั้นแม่ไปส่งผ้าเนอะ ไปส่งผ้ากลับมา ก็เจอน้องอยู่ที่บ้าน ตอนนั้นน้องอายุประมาณ 7 วัน มีผ้าผืนเดียวกับนมขวดเดียว ก็เลยถามข้างบ้าน เขาบอกว่า มีผู้หญิงมากับผู้ชายอาจจะแฟนเขา อุ้มเด็กมา บอกว่าเป็นญาติเรา เอามาให้ดูหน้าเฉยๆ เดี๋ยวก็กลับ ดูจากกล้องของหมู่บ้าน ก็เห็นว่าเขาชะลอวนรถอยู่หลายรอบว่าจะเข้าหลังไหน ทีนี้จังหวะที่แม่ยกผ้าข้ามถนนไปขึ้นรถ เขาก็วนรถกลับมา และเอาเข้ามา แล้วก็ออกไป”
ด้วยแรงสงสาร ตัดสินใจรับเลี้ยง!
“ชาวบ้านที่มามุงดูเขาก็แนะนำว่าเลี้ยงไว้เถอะ เดี๋ยวเขาก็ได้เลี้ยงเรา แม่ก็อุ้มน้องไปแจ้งตำรวจที่ สน.ลำผักชี เพราะเราไม่รู้ว่าเด็กมายังไง ตำรวจก็ถามว่า แม่ทำอาชีพอะไร แม่ก็บอก แม่เย็บผ้ากับขายมะพร้าวน้ำหอม เขาก็เลยบอกว่า น้องยังไม่มีชื่อ เดี๋ยวตำรวจตั้งชื่อให้ เอา น้ำหอม แล้วกัน และตำรวจก็บอกว่า เลี้ยงไว้เถอะ เดี๋ยวเขาก็ได้เลี้ยงเราตอนโต”
“ตอนแรกแม่จะไม่เลี้ยง ตำรวจบอกว่า ถ้าเราไม่เลี้ยง เขาจะส่งไปสถานสงเคราะห์ พอได้ยินคำว่าสถานสงเคราะห์ เราก็โทรเล่าให้พ่อ (สามี) ฟัง ตอนนั้นพ่อทำงานอยู่ แม่บอกน้องเป็นเด็กผู้หญิง พ่อเลยบอกว่า สงสาร ไม่รู้จะไปเจออะไร เลี้ยง เราก็บอกว่า ถ้าเลี้ยง เราจะเอาอะไรกิน พ่อเลยบอกว่า ต่อให้หมดตัว เรากลับไปอยู่บ้านเอา เขาจะรับเลี้ยงเด็กคนนี้ไว้”
ยิ่งรู้ความจริง ยิ่งรักพ่อแม่บุญธรรมมากขึ้น!
“ตอนหนู 6-7 ขวบ หนูเริ่มอ่านหนังสือออก หนูก็รู้สึกว่า นามสกุล เสบสบาย (ธิดารัตน์ เสบสบาย) ไม่เหมือนนามสกุลคนในครอบครัว หนูก็ลองไปถามแม่ดูว่า แม่ ทำไมนามสกุลหนูไม่เหมือนคนอื่นเลย เขาบอกว่า เขาเขียนผิดเฉยๆ แล้วทีนี้หนูก็พูดขึ้นมาว่า แม่ แม่เคยสอนหนูว่า ห้ามพูดโกหก ดังนั้นแม่ก็ห้ามพูดโกหกกับหนูนะ แล้วแม่ก็พูดความจริงออกมา... (ถาม-พอหนูได้ยินคำตอบว่า หนูไม่ใช่ลูก รู้สึกยังไงบ้าง?) เสียใจ รู้สึกว่ารักเขามากค่ะ และไม่คิดว่าเขาจะเลี้ยงดูหนูมาถึงทุกวันนี้”
ครอบครัวเคยขัดสน ถึงขั้นพ่อต้องกินน้ำก๊อก!
“ตอนหนูเด็กกว่านี้ พ่อแม่ฐานะยากจน พี่ชายก็ต้องรับจ้างทำงานและหาเงินมาซื้อนมให้หนู (ถาม-ความยากจนมันเป็นยังไง ตอนนั้นหนู 5 ขวบรู้เรื่องนี้แล้วหรือ?) รู้ค่ะ คือเขาไม่มีเงิน เหลือตังค์อยู่แค่ 50 บาท พ่อก็ต้องไปกินน้ำก๊อก และใช้เงิน 50 บาทซื้อข้าวให้หนู ก็เลยทำให้รู้ว่า เขายากจนมากๆ ธุรกิจแม่ตอนนั้นก็ไม่มั่นคงและล้มละลาย”
แม่เคยคิดสั้น แต่ฮึดสู้เพราะน้องน้ำหอม!
“ตอนนั้นแม่ไม่มีเงินเลย แม่คิดจะฆ่าตัวตาย และจะเอาน้องไปฝากกับเจ้าของบ้านที่แม่เช่าอยู่ แต่น้องไม่ไป น้องร้องไห้ คือตอนนั้นไม่มีเงินเลย ไฟก็จะโดนตัด อะไรก็ไม่มีกิน เลยคิดจะฆ่าตัวตาย (ถาม-แล้วหยุดความคิดแบบนั้นได้ยังไง?) หยุดตรงที่น้ำหอมวิ่งมากอดแม่ แล้วบอกว่า ต่อให้แม่ลำบากยังไง หนูก็จะอยู่กับแม่ เราเห็นหน้าเขา เลยสู้ต่อ”
“เวลาแม่ร้องไห้ เขาจะบอกว่า แม่ไม่ต้องร้องไห้นะ เดี๋ยวหนูช่วยแม่เอง เดี๋ยวหนูจะขยันไปร้องเพลง เวลาเขาเห็นแม่นั่งแอบร้องไห้ แม่เหนื่อยๆ นั่งทำของ (ถาม-เขากลับเป็นคนที่มาปลอบแม่?) ใช่ มาปลอบ เดี๋ยวหนูไปช่วยแม่หาเงินเอง หนูจะตั้งใจร้องเพลง”
ไม่ใช่แค่ร้องเพลงเปิดหมวกเพื่อหาเงินจ่ายค่าไฟ แต่ยังช่วยผ่อนหนี้บ้านหนี้รถที่ถูกยึดจากการส่งไม่ไหวอีกด้วย“เรื่องหนี้สินตอนนี้ เรื่องค่าไฟไม่มีค้างแล้ว เบาลงมาแล้ว ค่าบ้านก็เบาลงมาแล้ว ตอนนี้หนักแค่เรื่องรถที่เขายึดเราไป (ถาม-รายได้จากการร้องเพลงเปิดหมวกของน้องแต่ละครั้งมากไหม?) บางวันถ้าได้ไปร้องที่ห้าง คนเยอะ ก็มีถึง 2,000 อยู่นะ แต่เราไม่ได้ทุกวัน ถ้าตามตลาดนัด ก็ 1,000 บ้าง 500 บ้าง 800 บ้างก็มี”
“น้ำหอม” ดีใจได้ช่วยพ่อแม่แบ่งเบาหนี้สิน!
“(ถาม-น้ำหอมร้องเพลงเปิดหมวกมากี่ปีแล้ว?) ก็ตั้งแต่ 6 ขวบ ตอนนี้ 10 ขวบ (ถาม-ถึงวันนี้คิดว่า การใช้เสียงร้องเพลง เปลี่ยนแปลงชีวิตเราได้มากน้อยแค่ไหน?) รู้สึกว่าการได้เปิดหมวกช่วยแบ่งเบาภาระในครอบครัว หนี้สินก็ลดลง ความพัฒนาของหนูก็เพิ่มขึ้น และทำให้พ่อแม่ภาคภูมิใจได้ หนูอยากให้พ่อแม่ครอบครัวได้ยิ้ม และไม่มีหนี้สินมากมาย”
แม่เผย “น้ำหอม” ไม่ใช่แค่ช่วยครอบครัว แต่มีหัวใจจิตอาสาด้วย!
“น้องไม่ใช่แค่ทำงานหาเลี้ยงตัวเอง และแบ่งเบาภาระพ่อแม่ได้ น้องมีใจจิตอาสา เพื่อนลำบาก ไม่มีเงินรักษา ไม่มีเงินทำศพพ่อ น้องไปเปิดหมวกช่วยได้ งานวัดงานกฐินงานน้ำท่วมน้องไปช่วยได้หมด แม่สามารถพูดได้เลยว่า เด็กคนนี้เป็นเด็กพิเศษที่มาช่วยจริงๆ”
น้องน้ำหอมในสายตาครู!
นฤมล กรวิรัตน์ ครูประจำชั้นน้องน้ำหอม : “น้ำหอมร้องเพลงเพราะมากตั้งแต่เด็กๆ แล้ว น้ำหอมสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ ที่คิดว่า เรายังไม่มีมากพอ ยังไม่มีมากเท่าคนอื่น แต่น้ำหอมเป็นตัวอย่างเลยว่า แม้เราไม่มีเท่าคนอื่น แต่เราสามารถสร้างด้วยตัวเองได้ และค่อยๆ ใช้ความพยายาม ความอดทน ค่อยๆ สร้างไป แล้วสักวันหนึ่ง ความสำเร็จจะเกิดกับตัวเอง...”
วิสันรัตน์ ศรีแก้ว ผอ.โรงเรียนวัดราษฎร์บำรุง :“ผอ.ว่าน้องน้ำหอมเป็นแรงบันดาลใจในการสู้ชีวิตนะ คือเขาเป็นเด็กที่ตั้งใจและเขารักในสิ่งที่เขาทำ น้องน้ำหอมเวลาขึ้นเวทีระดับสำนักงานเขต เขาก็มักจะได้รางวัลนะ จาก 37 โรงเรียน เขาก็เป็นตัวแทน อย่างล่าสุด น้องก็ได้เข้าร่วมมหกรรมการแสดงดนตรีนาฏศิลป์ของสำนักการศึกษา กรุงเทพมหานครนะ จาก 437 โรง รร.วัดราษฎร์บำรุงของเราก็มีในนั้น ทั้งทีมแดนเซอร์ น้องอยู่ในส่วนของขับร้อง อันนี้คือความภาคภูมิใจของเรา”
ถ้าไม่มีน้ำหอม แม่ไม่มีวันนี้!
“แม่เคยพูดกับเพื่อนบ้านตลอดว่า ถ้าไม่มีน้อง เราไม่รู้เราจะยังมีชีวิตอยู่ไหม ถ้าเขาไม่มาทิ้งเด็กคนนี้ให้เรา ชีวิตเราจะเป็นยังไง ไม่มีวันหมดหนี้ (ถาม-น้องน้ำหอมมีความสำคัญต่อชีวิตเรายังไง?) น้องเป็นทุกอย่างในชีวิตแม่ เป็นทุกอย่างของครอบครัวก็ว่าได้ ทุกอย่างจริงๆ ถ้าไม่มีเขา เราก็ไม่มีวันนี้”
หากท่านใดต้องการสนับสนุนทุนการศึกษาให้น้องน้ำหอม สามารถโอนไปได้ที่ธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี ด.ญ.ธิดารัตน์ เสบสบาย เลขที่บัญชี 020-425-471-131
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน“ลูกเลี้ยงยอดกตัญญู”
https://www.youtube.com/watch?v=40jHkNerlH8
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30-12.00 น. ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 618 / กล่อง True ID ช่อง 19)
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


