xs
xsm
sm
md
lg

“ธนเดช” ช่างใจสู้ แม้อุบัติเหตุทำเดินไม่ได้ สู้รับงานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า หวังช่วยภรรยาหารายได้ ไม่อยากเป็นภาระ!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.นนทบุรี เพื่อรู้จักพ่อแม่ลูกครอบครัวหนึ่ง ซึ่งครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตที่สะดวกสบายรายได้ดี แต่แล้วอุบัติเหตุเปลี่ยนชีวิตผู้เป็นหัวหน้าครอบครัว ทำให้ 3 ชีวิตต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่ทุกคนก็สู้ เพื่อจะผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้



ธนเดช ธนกรวรรณพร พ่อน้องเบน เคยเป็นหัวหน้าครอบครัวที่นำพาภรรยาและลูกให้มีชีวิตที่สุขสบาย เพราะธุรกิจที่ทำ สร้างรายได้ได้ดี

“ทีแรกเปิดอู่ซ่อมรถและซ่อมแอร์อยู่หมู่บ้านพฤกษา ชีวิตช่วงนั้นดีมาก จะกินอะไร ไม่ต้องกลัวไม่ต้องรอ รายได้ดูแลครอบครัวได้สบาย”

แต่แล้ว อุบัติเหตุขณะทำงานในวันหนึ่งได้เปลี่ยนชีวิตเขาและครอบครัวให้ไม่สุขสบายเหมือนเดิมอีกต่อไป


“แอร์มันไม่เย็น เขาก็เรียกไปทำ ผมปีนออกไป มันเป็นหลังคากระเบื้องลอนคู่ แล้วมันมีคราบดำๆ ตอนยังไม่ปีนขึ้นไป ฝนไม่ตก แต่พอปีนขึ้นไป ฝนมันตก แล้วมันลื่น ก็ทะลุหลังคาลงมาเลย (ถาม-เหตุการณ์ครั้งนั้นส่งผลยังไงกับร่างกายบ้าง?) มันชาครึ่งหนึ่ง ผมกระดิกขาไม่ได้”


ด้านกฤษณา รังสีโย ภรรยา เผยว่า อุบัติเหตุที่เกิดกับสามีผ่านมา 15 ปีแล้ว ซึ่งส่งผลให้สามีกระดูกสันหลังหัก ขาหัก และสะโพกหัก

“ตอนที่เกิดอุบัติเหตุ แม่ท้องอยู่ด้วย พอได้ไม่กี่เดือนก็คลอดแล้ว จุดเปลี่ยนชีวิตคือตอนที่แฟนเกิดอุบัติเหตุนี่แหละ ต้องหยุดทุกอย่าง เงินที่เราเก็บสะสมไว้ก็ต้องเอารักษาแฟนหมดเลย แล้วลูกก็เกิดมา ช่วงนั้นลำบากมาก เพราะตอนนั้นเราไปเข้า รพ. แล้วผ่าตัดรอหมอไม่ไหว เลยต้องตัดสินใจไปเอกชน ก็หมดไป 3 แสนกว่า เงินที่เก็บไว้หมดเลย”


“(ถาม-ช่วงที่เกิดวิกฤตตอนนั้นหนักมาก เรามีการปรับตัวหรือรับมือกับสถานการณ์ยังไง?) ตอนนั้นการใช้ชีวิตคือ งานก็ยังไม่มี ลูกก็เพิ่งคลอด วิกฤตเลย เงินซื้อนมลูกก็ไม่มี ต้องไปหาหยิบยืมเขาซื้อนมลูก ซื้ออุปกรณ์ พวกถุงปัสสาวะ แพมเพิส ให้แฟน และกับข้าวก็แทบไม่มี ต้องไปขนตามวัด”


สามียืนยัน แม้ป่วย ท้อไม่ได้ ห่วงลูกยังเล็ก

“ตอนนั้นอยู่ รพ.ไม่เท่าไหร่ เพราะค่าใช้จ่ายสูง แล้วเรามารู้ว่าประกันขาด เราต้องขายของทุกอย่าง เงินเก็บหมดเกลี้ยงทุกอย่าง ไม่พอด้วย ตั้งแต่อยู่ รพ.แล้ว ผมคิดว่า ถ้าผมขยับไม่ได้ ต้องนอนติดเตียงตลอด ผมฆ่าตัวตายแน่นอน ผมไม่อยากเป็นภาระใคร เราก็พยายามฝืนๆๆ มาตลอด (ถาม-วันนั้นท้อไหม?) ท้อเวลาหยิบของ แต่ตอนหลังพยายามใช้คลาน และหยิบของ และค่อยๆ เลื่อนไป แล้วคลานเขยิบไป (ถาม-คิดล้มเลิกกับความพยายามไหม?) ไม่ ผมเป็นคนที่พยายามแล้ว ต้องเอาให้สำเร็จ ท้อก็ไม่ได้ ลูกก็ยังเล็กด้วย”


ภรรยาฮึดสู้ เพื่อลูกและสามี

“ช่วงเวลานั้นมันสับสน ไม่รู้จะทำยังไง แต่เรามานั่งคิดอีกที ถ้าเรามัวแต่มานั่งคิดนั่งท้อ ลูกเราจะกินนมยังไง และแฟนเรา ก็ต้องดิ้นลุกขึ้นมาหางานทำ เป็นแม่บ้านรับจ้างทั่วไป เริ่มแรกไปรับจ้างถางหญ้าบ้าง รับจ้างขัดบ้านบ้าง เพราะช่วงนั้นน้ำท่วมหนัก พอน้ำลด ก็ไปรับจ้างขัดพวกขี้โคลน และเริ่มมาหาอาชีพแม่บ้านบริษัท ตอนนั้นรายได้ รับจ้างทั่วไปได้วันละ 200-300 บางวันก็ไม่มีเลย (ถาม-แล้วมันพอเพียงกับการใช้จ่ายไหม?) ไม่พอ (ถาม-ตอนนั้นลูกเล็กมาก?) ก็ยายช่วยเลี้ยงอยู่ (ถาม-ตอนนั้นบ้านอยู่ที่ไหน?) อยู่ปทุมฯ ย้ายไปอยู่ปทุม ช่วงเลิกกิจการ เราไม่สามารถเช่าบ้านนั้นต่อได้ เราก็ต้องย้ายกลับไปบ้านแม่ ไปพักอาศัยอยู่ที่นั่น และแฟนก็นอน ยังขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ เป็นอัมพาตช่วงนั้น เราไม่เกี่ยง ไม่ท้อเลย นึกถึงลูก ขอให้ลูกมีนมกิน”


แม่ทำงานหนักจนสุขภาพทรุด ต้องลาออก!

“ตอนที่แม่ออกงานมาล่าสุด หัวเข่าเสื่อม 2 ข้าง เพราะแม่ทำงานหนักมาก เยอะมาก ใช้การเดิน ก็ทำมา 12 ปี ก็ออกมา เหตุผลเพราะเกิดอุบัติเหตุ กระดูกข้อมือหัก แล้วเราทำงานให้เขาได้ไม่เต็มที่ ไม่สามารถยกอะไรหนักๆ ได้ การเช็ดถู บางทีมันขัด ปวด มันมีเหล็กประกบอยู่ 2 ข้าง เลยต้องตัดสินใจออก”


“ตอนนี้มีอาชีพทำสลัดโรล เป็นอาชีพที่พอเลี้ยงครอบครัว (ถาม-ทำแล้วไปขายที่ไหน?) ตามออเดอร์ แม่จะโพสต์ทางเฟซบุ๊ก และคนแถวใกล้เคียงเขาสั่ง และเพื่อนร่วมงานเก่าตามออฟฟิศสั่ง แม่ก็วิ่งส่งเกือบทุกวัน”


ขณะที่เบญญาภา หรือน้องเบน ลูกสาว ก็พยายามช่วยงานแม่ เพราะรู้ว่าแม่เหนื่อย“ช่วยงานบ้าง ช่วยแม่ทำสลัดโรล (ถาม-ทำตั้งแต่กี่โมง?) ช่วงว่างๆ หลังเลิกเรียน (ถาม-อย่างวันนี้ทำตั้งแต่กี่โมง?) 6 โมง หนูมีความฝันว่า อยากเป็นพยาบาล (ถาม-ทำไมถึงอยากเป็นพยาบาล?) โตมา อยากมีเงินไปช่วยแม่”


ด้านผู้เป็นพ่อ เมื่อร่างกายเริ่มฟื้นตัวจากการป่วย ก็รีบหาอาชีพเพื่อแบ่งเบาภาระภรรยา

“พอเราเริ่มขยับได้ ก็เปลี่ยนความคิด เราเป็นอย่างนี้แล้ว เราจะประกอบอาชีพอะไรขึ้นมา ก็มาหัดซ่อมพวกทีวี ปริ๊นเตอร์ (ถาม-มีพื้นฐานด้านนี้ไหม?) ไม่มี (ถาม-แล้วไปเรียนรู้มาจากไหน?) ก็อ่านหนังสือบ้าง ผมเป็นคนโชคดีอย่างคือ ความจำผมดี และใครอย่าทำอะไรให้ผมเห็น (ถาม-ครูพักลักจำได้?) ใช่”


ภรรยาช่วยพาสามีไปทำงานซ่อมที่บ้านลูกค้า

“เขาใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา ถึงงานช่างงานรถทำไม่ได้แล้ว แกเลยปรับเปลี่ยนมาเป็นซ่อมทีวี พัดลม ตู้เย็น พวกมอเตอร์ไซค์ นั่งทำแกทำได้ ทุกวันนี้แกก็พยายามที่จะลุก พยายามยืนและเอาไม้เท้า เราก็ช่วยประคองทำงาน บางทีมีงานซ่อม แกก็นั่งซ่อม บางทีออกไปข้างนอก เราก็พาแกกระเถิบๆ มา และปีนขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่จะไปซ่อมงานให้เขา”


พ่อเชื่อ ถ้ามีงานตลอด มีรายได้จุนเจือครอบครัวได้

“ถ้ามีงานอย่างนี้ตลอด มันได้สบายอยู่แล้ว เพราะอย่างทีวี เราก็ไม่ได้บวกค่าแรงอะไรเยอะมาก (ถาม-ถ้ามีงานซ่อม พ่อก็คิดว่าพอจะแบ่งเบาภาระครอบครัวได้?) ได้”


แม่จะพยายามส่งลูกให้ถึงฝั่งฝัน

“การเรียนน้องก็ใช้ได้นะ แม่ก็ภูมิใจ การเรียนก็ได้เหรียญเงิน เพิ่งได้รับประกาศนียบัตรมา แม่จะสอนลูกเสมอ เรื่องให้ประหยัด การอดออม สอนให้เขารู้ แม่จะทำอะไร จะเรียกเขามาทำ เพื่อจะรู้ว่าการทำงานเพื่อหารายได้ กว่าจะได้เงินมา มันลำบาก ให้หนูประหยัด วันข้างหน้าหนูจะได้สบาย (ถาม-ตอนนี้น้องเรียนอยู่ชั้นไหน?) ชั้น ม.3 (เขามีความฝันไหมฦ) เขามีความฝันอยากเป็นพยาบาล (ถาม-ในฐานะแม่ คิดว่าจะส่งเสียเขาไปสู่จุดนั้นได้ไหม?) แม่จะพยายามให้ถึงที่สุด ตั้งมั่นตั้งใจ เรื่องการเรียนลูกอันดับ 1 เลย แม่ต้องส่งเขาให้ถึงฝั่งให้ถึงที่สุด”


ลูก หวังอยากช่วยให้แม่สบาย

“(ถาม-ตอนโต ถ้าหนูมีงานทำประจำ หรือมีรายได้มั่นคง สิ่งที่หนูอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตครอบครัว อยากทำอะไรบ้าง?) หนูอยากเอาเงินมาช่วยแม่ อยากให้แม่มีชีวิตที่สบาย”


ที่อยู่อาศัยอาจมีปัญหาในอนาคต

“ตอนนั้นย้ายไปอยู่บ้านแม่ภรรยา แล้วทางเข้าออกมันไกล ช่วงนั้นมันว่างๆ และพอดีทางนี้ เขาเป็นลูกค้าเก่าที่ผมทำงานอยู่ ผมเลยโทรไปถามเขาว่ามีงานให้ทำไหม พอทำสักพักหนึ่ง เขาเลยชวนมาอยู่ เขาให้อยู่ฟรี แต่ค่าน้ำค่าไฟเราออกเอง ตอนหลังเขาก็ไม่เก็บอะไรสักอย่าง”


“เขาก็มาพูดอยู่ว่า เขาเกิดปัญหาตรงนี้อยู่นะ เราก็รู้แล้วว่า อนาคตต่อไป เราคงต้องขยับขยายไปหาที่อยู่”

แม่ยอมรับ กังวลรายได้ไม่พอรายจ่าย อยากขยับขยายขายของเพิ่ม

“เราไปกู้หลายเจ้า กู้นอกระบบ (ถาม-ดอกเบี้ยเท่าไหร่?) ร้อยละ 20 เราได้เงินมา เราก็จ่ายแต่ดอกอย่างเดียว (ถาม-ถ้าไม่กู้ อยู่ได้ไหม?) มันต้องใช้ ไหนจะค่าอุปกรณ์แฟน แพมเพิส สายสวนปัสสาวะ ถุง บางทีต้องไปหาหมอ (ถาม-รายได้ทุกวันนี้ได้เท่าไหร่?) รายได้สำหรับแม่ ขายสลัดโรล วันละ 250 บางทีก็ 300”


“ทุกวันนี้ที่กังวลมากที่สุดคือ เรื่องการที่เราไม่มีเงินให้ลูกไปโรงเรียน และซื้ออุปกรณ์แฟน บางทีเจ็บป่วยกะทันหัน เป็นไข้ เพราะแกมีความเสี่ยงตลอดเวลา บางทีก็ติดเชื้อที่ก้น แกเป็นแผลที่ก้นด้วย บางทีก็ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก็เข้าไอซียูไปรอบหนึ่ง ติดเชื้อในกระแสเลือด”

“แม่อยากจะหาอาชีพขายพวกลูกชิ้น พวกกระทะอุปกรณ์การทำ ทุนที่จะมาซื้อพวกลูกชิ้น (ถาม-แล้วไปขายที่ไหน?) ขายตามหน้าโรงเรียนลูกสาว”


หากท่านใดต้องการสนับสนุนทุนชีวิตให้ครอบครัวนี้ โอนไปได้ที่ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี น.ส.กฤษณา รังสีโย เลขที่บัญชี 065-8-93405-8

คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “หัวใจแกร่งกลางมรสุม”
https://www.youtube.com/watch?v=-iD9hCDCyDQ


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30-12.00 น. ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 618 / กล่อง True ID ช่อง 19)

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น