“บิ๊กโจ๊ก” เดินหมากสู้ยกสุดท้าย! ใช้สิทธิทางกฎหมายฟ้องรัวตั้งแต่ ผบ.ตร. ถึงตุลาการศาลปกครองสูงสุด จี้หยุดแทรกแซงคดี ไล่เรียงทุกดอกทั้งหมิ่นฯ ละเว้นฯ อคติฯ ด้านวงในจับตา คดีหลายคดีจบหักมุม
ออกสื่อเเบบรัวๆบนการสู้ในยกท้ายๆของพลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ หักพาล เพราะจังหวะล่าสุดของอดีตรองผบ.ตร.ในการฟ้องประธานศาลปกครองสูงสุดเเละตุลาการประธานเเผนกฯ ในคดีทุจริตต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางเเละต่อยื่นหนังสือถึงประธานศาลปกครองสูงสุด ขอให้ยุติการแทรกแซงคดีขององค์คณะฯ ที่รับผิดชอบคดี และเลิกประวิงเวลาคดี ถือเป็นคู่กรณี อันมิอาจที่จะพิจารณาคดีตนเองได้อย่างปราศจากอคติ เป็นธรรม...อันเป็นผลสะเทือนจากคดีที่บิ๊กโจ๊กยื่นอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดให้ยกเลิกคำสั่งสตช.ที่มีมติไล่ออกจากราชการ)
เพราะบิ๊กโจ๊กมองว่าในเรื่องนี้ ตุลาการผู้ควบคุมคดีใกล้ชิดพลตำรวจเอก กิตติ์รัตน์ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เพราะเรียนหลักสูตรเดียวกันที่ศาลรัฐธรรมนูญ เเละตุลาการบางคนมีอคติกับบิ๊กโจ๊กด้วย
อดีตรองผบ.ตร.คนนี้ยังพ่วงฟ้องพลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.ที่ศาลจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่1ตุลาคม2568ว่า ผบ.ตร.คนปัจจุบันหมิ่นประมาทบิ๊กโจ๊กด้วยการโฆษณากรณีข้อสอบคณะนิติศาสตร์ จุฬาฯรั่ว โดยบิ๊กโจ๊กอ้างว่าตำรวจไซเบอร์ยังไม่เเจ้งข้อหาเหล่านี้กับตน (ป.อาญา มาตรา188)เเละสตช.ใช้อำนาจใดตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายเเรงกับตน ในการกล่าวหาร่วมทุจริตข้อสอบรั่ว เพราะช่วงที่ไปเรียนนั้นบิ๊กโจ๊กอ้างว่าบิ๊กโจ๊กสังกัดสำนักปลัดสำนักนายกฯ)!?!
คดีล่าสุดที่อดีตรองผบ.ตร.คนนี้ดำเนินการกับพิทักษ์1คนล่าสุดนั้น ย้อนไปครั้งก่อนนั้นบิ๊กโจ๊กบอกกับสื่อหลายสำนักว่า บิ๊กต่ายกระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นผบ.ตร.จึงต้องล้มบิ๊กโจ๊กเเละเเจ้งสารพัดข้อหาเพื่อให้บิ๊กโจ๊กพ้นวงจรสีกากีนั้น
คดีที่ศาลจังหวัดสงขลามีอะไรเเปร่งๆ ...
เพราะสืบความได้ว่า เลขคดีที่บิ๊กโจ๊กยื่นฟ้องบิ๊กต่ายที่ศาลจังหวัดสงขลาคือ คดีดำ เลขที่ อ1253/2568
ต่อมาคดีนี้กลับกลายเป็นคดีแดง เลขที่ อ1219/2568 เพียงไม่กี่อึดใจ..
ภาษากฎหมายที่จะอธิบายนิยาม/ความหมายของ เลขตดีดำ/เลขคดีเเดงนั้นคือ
คดีดำ คือ คดีที่ศาลรับคำฟ้องไว้พิจารณา แต่ยังไม่ได้ตัดสินคดี/คำฟ้องคดีอยู่ในขั้นตอนการดำเนินกระบวนพิจารณา
คดีแดง คือ คดีที่ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดีนั้นๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว/คู่ความขอถอนฟ้องคดี
ส่วนเลขคดีนั้น เป็นการลำดับไว้ในการจัดชั้นว่า เป็นคดีเลขที่เท่าใดในการยื่นฟ้องกับศาลนั้นๆเเละผลการตัดสินคดีนั้นๆเป็นอย่างไร)
เกมนี้สายสืบเเละคนวงในสีกากี/เเวดวงตราชั่ง ประหลาดใจกันไปหมด...ว่ามันมาจากเหตุใดระหว่าง1.ผู้พิพากษาสั่งจำหน่ายคดีเพราะไม่มึมูลเพียงพอ 2.คู่ความ(โจทก์)ถอนฟ้องเอง...เพราะรู้ว่ายื่นฟ้องไปเเล้วโอกาสฟาล์วสูง...เเต่ต้องขยับการยื่นฟ้องไว้ก่อนเพื่อปั่นกระเเส
เเละยังลือกันว่าคดีซึ่งบิ๊กโจ๊กยื่นฟ้องที่ศาลอาญาทุจริตฯนั้นศาลนัดวันที่20ตุลาคมนี้ว่าจะรับ/ไม่รับคดีนี้นั้น เเว่วว่า ผลอาจไม่ดังประสงค์ของเขา
หากไล่เวลาในวันวานนั้น คดีหลักๆที่
บิ๊กโจ๊กเคยยื่นฟ้องเเละเป็นข่าวใหญ่ เเต่ท้ายสุดคดีเหล่านั้นก็หายไปกับสายลมเเละจบเเบบหักมุมดื้อๆ จะพบว่า
บิ๊กโจ๊กเคยฟ้องอดีตนายกรัฐมนตรีสองครั้งที่สำนักงานปปช.คนเเรกคือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ใช้คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่2/2562 เรื่อง ประกาศรายชื่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเพิ่มเติม และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง(ย้ายขาดมาประจำสำนักนายกฯเเม้ต่อมาบิ๊กโจ๊กจะได้กลับสตช.)
คนที่สองคือเศรษฐา ทวีสิน กรณีเเต่งตั้งผบ.ตร.โดยมิชอบ(พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล)เเต่บิ๊กโจ๊กถอนฟ้องลุงตู่ (หลังได้กลับสตช.เเละเลื่อนยศ) เเละถอนฟ้องสร.1คนที่30(ตามคำร้องขอของยิ่งลักษณ์ ชินวัตรเเละคำมั่นทึ่ทักษิณ ชินวัตรให้ไว้ว่าจะให้บิ๊กโจ๊กเป็นผบ.ตร./สนับสนุนให้เป็นรมต.-นายกอบจ.สงขลา)
เเละเคสของเศรษฐานั้น นักเฝ้ามองการเมืองหลายคนชี้ว่า การเเฉของบิ๊กโจ๊กที่พาดพิงชินวัตรเเฟมิลี่คราวนี้ อาจเป็นรอยเเผลใหม่ให้ชินวัตรเเฟมิลี่ลำบากเพิ่มไปอีกขั้นว่า สองพี่น้องชินวัตรเเฟมิลี่ที่ไม่มีสถานะทางการเมือง เเต่เเทรกเเซงการบริหารราชการเเผ่นดิน/บงการข้าราชการได้จริงๆ!?!
เเละอย่าลืมว่าก่อนหน้านี้(11ก.พ.2568)บิ๊กโจ๊กฟ้อง
ผบ.ตร.ที่สน.ปทุมวัน ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่(ป.อาญา มาตรา157เเละพรป.ปปช.)
เเละบิ๊กโจ๊กเคยฟ้องพลตำรวจเอกวินัย ทองสอง ก.ตร.เเละพลตำรวจตรีวิชัย สังข์ประไพ ข้อหาหมิ่นประมาท (ช่วงมติก.ตร.เเละก.พ.ค.ตร.ไล่บิ๊กโจ๊กออกจากราชการเพราะผิดวินัยร้ายเเรง)เเต่ศาลยกฟ้อง
หรือเเม้เเต่คลิปลับบ้านวันมูหะมัดนอร์ มะทาที่บิ๊กโจ๊กแอบบันทึกไว้จนโดน”วันนอร์“ตำหนิเเรงๆว่าไม่ใช่การกระทำของสุภาพบุรุษ
คดีเหล่านี้หากคู่ความรุกกลับ บิ๊กโจ๊กจะลำบากเพราะจะเข้าทำนองภาษิตกฎหมายว่า“ผู้ที่มาพึ่งศาลต้องมาด้วยมือที่สะอาด”
เท่ากับว่าคดีดังในวันนี้/วันวานที่บิ๊กโจ๊กไล่ฟ้องเพื่อรักษาสิทธิของตนนั้น ผลลัพธ์ลงเอยเช่นใด สังคมน่าจะพินิจได้เเละการขยับงวดนี้ของบิีกโจ๊กที่ล็อกเป้าผบ.ตร./ศาลปกครองสูงสุดนั้น
น่าจะเป็นการสู้ยกสุดท้ายเเล้ว หากผลออกมาไม่ใช่ทางบวก บิ๊กโจ๊กจะหลุดสถานะข้าราชการเเบบถาวรเเละต้องไปสู้ข้อกล่าวหาจำนวนมากในฐานะพลเรือนที่น่าจะเหนื่อยไม่น้อย
เเละสำคัญยิ่งคือ ใครจะมาช่วยให้เเรงใจกับบิ๊กโจ๊กในการต่อสู้อีก เพราะเคสชินวัตรเเฟมิลี่ที่บิ๊กโจ๊กระบุถึงนั้น รับรองเลยว่า ยามนีั/ยามหน้าบิ๊กโจ๊กลุยเดี่ยวกลางสายลมยะเยือกเป็นเเน่เเท้