xs
xsm
sm
md
lg

ฮั้ว ส.ว.ชงเอง กินเอง 'ชูวิทย์' จอมแฉเปิดลับ สัญญาณอันตราย!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชูวิทย์” มือแฉตัวยง ขยี้ปมฮั้ว ส.ว. ชงเอง–กินเอง เปิดเบื้องหลังดีลลับในสภา สะท้อนสัญญาณอันตรายทางการเมือง ที่อาจสั่นสะเทือนศรัทธาประชาชน!

ท่ามกลางสถานการณ์ที่หลายฝ่ายพุ่งความสนใจไปที่การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล แต่ในอีกมุมหนึ่งมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจที่อาจเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการเลือกส.ว.อย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน โดยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกรณีการตรวจสอบการฮั้วเลือกส.ว.ว่า ฮั้ว ส.ว. ตั้งเอง ชงเอง ตบเอง กินเอง บรรดาเจ้าหน้าที่ดีเอสไอทั้งหมด 17 รายชื่อ ถูกแต่งตั้งโดยรัฐมนตรียุติธรรมคนใหม่ถอดด้าม

รับตำแหน่งไม่ถึง 7 วัน เซ็นออกคำสั่ง เลขที่ 194/2568 ตั้ง "คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม" พบว่าดันเป็นพนักงานสอบสวนคดี "ฮั้ว ส.ว. และ เขากระโดง" ยกตัวอย่าง รายชื่อที่ 3 นายภูชิตส์ กรรณสูต ผอ.ด้านตรวจสอบโทรศัพท์ (ดักฟังข้อมูลโทรศัพท์) รายชื่อที่ 7 นายพงษ์ธวัช อ่วมสำอาง อยู่กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำคดีเขากระโดง และสนามบินขนงพระ รายชื่อที่ 9 นายชยพล สายทวี ทำคดี “ฮั้ว ส.ว.” จังหวัดอยุธยา และอ่างทอง

ทั้งหมดตอนนี้กลับกลายเป็น “คณะทำงาน“ ของรัฐมนตรียุติธรรม ที่บังเอิญดันเอาคนสอบคดี ฮั้ว ส.ว.และ เขากระโดง ผู้กุมสำนวนคดี รู้ตื้นลึกหนาบาง มาเป็นคณะทำงานของตัวเอง เพื่ออะไรมิทราบหรือครับ?

คดีความสุดพิสดารในการได้เป็น ส.ว. และ ตำนานเขากระโดง จะถูก “แทรกแซง” หรือไม่ ชูวิทย์บอกว่า ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิด

เพราะเห็นสื่อเขาบอก รัฐมนตรียุติธรรมสายบุรีรัมย์ เป็นตำรวจเติบโตที่ จ.บุรีรัมย์ มาตลอด แล้วยังมีชื่อ คุณศุภชัย ใจสมุทร เพิ่งไปนั่งเป็น “โฆษกกระทรวงยุติธรรม” ให้สัมภาษณ์เรื่องเขากระโดงฉอดๆ ตั้งแต่วันแรกอีก ชาวบ้านเขายิ่งระแวงสงสัย มันดูทะแม่งๆ อยู่นะ คณะทำงานที่รัฐมนตรีตั้งมาอีกหลายคนที่เป็นพนักงานสอบสวนในคดีสำคัญ ก็เป็นคนของพรรคที่กำลังถูกสอบสวนอยู่ด้วย

เสี่ยชู จอมแฉแจงว่า หากผมเป็นสมัครพรรคพวกคนร้าย แล้วได้วาสนาไปคุมตำรวจ สั่งให้เอาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีของผมมาเป็น “คณะทำงาน” ของตัวเอง เพื่อจะได้เห็นรายละเอียดของสำนวน จะไปวางแผนอะไรที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง หรือ พรรคพวกหรือไม่?

จะไม่ให้ประชาชนเขาสงสัยได้ไง?วานสื่อไปถามรัฐมนตรียุติธรรม หรือนายกฯ ที อย่างนี้มันถือว่าเป็นการแทรกแซงไหม? อย่าไปทำอะไรที่มันทำให้คนเขาชวนสงสัยเลย ไหนๆ นายกฯ ก็ประกาศในวันแถลงนโยบายรัฐบาลว่า "จะไม่แทรกแซงการทำงานของข้าราชการ และทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย" เลยไม่รู้จะเชื่อท่านนายกฯ ดีไหม? นี่แค่เริ่มงาน 7 วัน ก็แผลงฤทธิ์เสียแล้ว

ด้าน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ออกเอกสารชี้แจงต่อกรณีมีการร้องเรียนกล่าวหาว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง และเลขาธิการ กกต. ละเว้นต่อการปฏิบัติหน้าที่ ในการดำเนินการสืบสวนและไต่สวนข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา โดยชี้แจงว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ กกต. เลขาฯ กกต. และสำนักงานฯ เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายทุกขั้นตอน ไม่ได้ละเว้นหรือเพิกเฉยต่อหน้าที่ เพื่อให้เรื่องล่าช้าแต่อย่างใด การพิจารณาทุกสำนวนดำเนินไปด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และคุ้มครองสิทธิและให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่สังคมว่าผลการวินิจฉัยจะเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย

ขณะนี้สำนวนการสืบสวนและไต่สวน อยู่ในชั้นที่ 3 โดยคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง คณะที่ 36 อยู่ระหว่างพิจารณาสำนวนและจัดทำความเห็น เพื่อเสนอต่อที่ประชุม กกต. พิจารณามีคำวินิจฉัยในชั้นต่อไป

โดยชั้นที่ 1 สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัด เมื่อคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ได้รับสำนวนแล้ว ให้ดำเนินการสืบสวนหรือไต่สวนและจัดทำความเห็น เพื่อเสนอให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดมีความเห็นประกอบสำนวน เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จ ให้จัดส่งสำนวนไปยังสำนักงาต กกต.ส่วนกลางโดยเร็ว

ชั้นที่ 2 สำนักงาน กกต.ส่วนกลาง เมื่อได้รับสำนวนจากจังหวัดแล้ว ให้พนักงานสืบสวนและไต่สวนผู้รับผิดชอบสำนวนดำเนินการวิเคราะห์สำนวนและจัดทำความเห็นเสนอผ่านตามขั้นตอน

ชั้นที่ 3 คณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้ง เมื่อได้พิจารณาแล้วจะทำความเห็น และสำนักงาน กกต. เสนอสำนวนให้คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณา และชั้นที่ 4 เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งได้รับสำนวน จากคณะอนุกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาหรือข้อโต้แย้งแล้ว ต้องพิจารณาชี้ขาดหรือสั่งการโดยเร็ว

คดีฮั้วส.ว. เหมือนมาถูกทางแล้วในรัฐบาลเพื่อไทย แต่ตอนนี้หันหัวเตรียมเลี้ยวไปอีกทาง จะจบอย่างไรต้องคอยติดตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น