xs
xsm
sm
md
lg

“ช่างหน่อ” แม้พิการเดินไม่ได้ สู้คลานฝึกงานช่าง จนสามารถเปิดบ้านรับซ่อมมอเตอร์ไซค์ แต่งานน้อย สู้ทำบอนไซหารายได้อีกทาง!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.ระยอง เพื่อรู้จัก “ช่างหน่อ” ชายที่แม้อุบัติเหตุทำให้พิการเดินไม่ได้ แต่เขาไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา สู้หาโอกาสฝึกงาน เพื่อให้ตนเองมีอาชีพและรายได้ กระทั่งนำมาสู่การเปิดบ้านเป็นอู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ในที่สุด



ย้อนกลับไปเมื่อ 45 ปีที่แล้ว ช่างหน่อ บาตสุวรรณ เกิดมาในครอบครัวที่รับจ้างกรีดยาง แม้จะเกิดมาปกติดี แต่เมื่ออายุได้แค่ 2 ขวบ เขาก็พลัดตกจากแท็งค์น้ำในวัด ทำให้เขาต้องกลายเป็นคนพิการเดินไม่ได้อีกต่อไป


“ตอนเด็กตกที่สูง และเส้นหลังเสีย ตอนนั้นประมาณ 2 ขวบ กำลังหัดเดิน กำลังซน (ถาม-พอตกแล้วเดินไม่ได้ ผู้ใหญ่ไม่สังเกตหรือ?) เขาไม่สังเกต เขาคิดว่าเป็นโปลิโอเมื่อก่อน เป็นขาเปลี้ยขาอ่อน และคนที่เคยเอาไปดูแล เขาก็ไม่บอก คนที่พาขึ้นไปแท็งค์น้ำ ผมก็ชักอย่างเดียว เห็นแม่เล่าให้ฟังว่าชัก เขาก็คิดว่าเป็นอย่างอื่น มัวแต่รักษาโบราณ มัวแต่หาหมอโบราณ ตอนนั้นเดินไม่ได้ ก็ต้องถัดอย่างเดียว ตอนนี้คลานเอา คลานก็พอได้”


ผลจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ไม่เพียงทำให้ครอบครัวต้องเสียทรัพย์สินเพื่อรักษาลูก แต่ยังทำให้พ่อแม่แยกทางกัน ซึ่งทำให้ช่างหน่ออดรู้สึกผิดไม่ได้

“ก็หมดไปเยอะเหมือนกัน ครอบครัวหมดเยอะอยู่ หมดทั้งที่ทั้งวัวเพื่อรักษาขาผม พ่อแม่ถึงกับทะเลาะกัน วัว 20 ตัว ที่ 20 ไร่ เพื่อรักษาผม ก็เหมือนทำให้พ่อแม่หมดเหมือนกัน”


แม้ช่างหน่อจะเป็นคนใฝ่เรียนตั้งแต่เด็ก และครอบครัวก็ส่งเสริมให้ได้รับการศึกษา แต่ความพิการที่ทำให้ถูกเพื่อนๆ ล้อและแกล้ง ก็ทำให้ช่างหน่อถอดใจ จนตัดสินใจไม่เรียน


“เคยไปแล้วเพื่อนแกล้ง เลยไม่อยากไปเรียน เด็กดีก็มี เด็กไม่ดีมันก็แกล้ง เลยไม่อยากไป ตอนเด็กเราไม่ถือสาอยู่แล้ว ถีบบ้างเตะบ้าง เราไปไหนไม่ได้ ก็ไม่อยากไปเรียนแล้ว แต่ไม่ได้เล่าให้ทางบ้านฟัง ไม่ค่อยอยากจะเล่า (ถาม-สุดท้ายก็?) ไม่ไปเลย (ถาม-แล้วเราใช้ชีวิตยังไงตั้งแต่วัยเด็กถึงวัยหนุ่ม ทำอะไร?) ตอนแรกผมอยู่กับแม่กับพ่อ แล้วเขามาแยกกัน ผมก็หาอยู่ตามอู่ตามอะไร”


เมื่อไม่มีการศึกษา ไม่มีความรู้ ทั้งยังพิการ ทำให้ช่างหน่อพยายามหาที่ฝึกงานช่าง โดยหวังจะเป็นอาชีพเลี้ยงตัวในวันหน้า

“เป็นอาชีพเลี้ยงตัวเราได้ เพราะเราเป็นอย่างนี้ (ถาม-แต่เราไม่ได้เรียนหนังสือ วิชาชีพเราก็ไม่ได้เรียน แล้วไปอยู่อู่ เขารับหรือ?) คนที่คุ้น เขาก็รับ ถ้าคนไม่คุ้น เขาก็ไม่รับ (ถาม-บอกเขาว่าไง วันแรกที่ไปแล้วเราไม่เป็นอะไรเลย?) บอกขอฝึกงานหน่อย เขาก็บอกว่าได้ เดี๋ยวจะปล่อยวิชาให้ ผมก็อยู่กับเขา กินกับเขา เหมือนเขารู้จักกับพ่อด้วย”


“(ถาม-เราเดินไม่ได้ แล้วตอนที่ไปทำงาน?) คลาน ตอนแรกก็มีอุปสรรค แต่ถ้ามันชินแล้ว เราปรับสภาพได้ มันคล่อง (ถาม-แต่งานช่างต้องใช้แรง แล้วรถก็มีน้ำหนัก เราทำงานอย่างนี้ไหวหรือ?) ต้องรบกวนลูกค้าด้วย บางที ถ้ายกรถยกอะไร ต้องรบกวนเขา การติดการอะไร (ถาม-ใช้เวลานานไหมกว่าจะสามารถทำงานได้?) นานอยู่ กว่าจะเก็บประสบการณ์แล้วมาเปิด (ถาม-ช่วงแรกๆ ที่ฝึก เราต้องทำอะไรบ้าง?) ล้างเครื่อง ล้างน้ำมัน ก็ลักจำเอา เขาไม่ค่อยบอกกันหรอก ต้องลักจำ ลักมอง”


ช่างหน่อพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการทำงานที่หลากหลาย ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า การเดินไม่ได้เป็นข้อจำกัดของการทำงาน จนถูกเจ้านายตำหนิหลายครั้ง

“(ถาม-ตอนที่เราไปฝึกงานเป็นช่าง เขาให้รายได้เรายังไง?) 100 บาทกินอยู่กับเขา (ถาม-ฝึกอยู่อย่างนั้นนานไหม?) นานอยู่เป็นปี แล้วก็ออกมาหลายที่อยู่ (ถาม-เปลี่ยนร้านด้วย?) ใช่ แล้วก็ไปพวกช่างเชื่อมด้วย นั่งตัดเหล็ก แล้วก็พอได้เชื่อมเป็น (ถาม-แล้วทำไมถึงตัดสินใจออกจากร้านที่เป็นลูกมือเขา?) บางทีเขาก็บ่นผม เพราะเรายังไม่เป็นดี อยู่นานๆ เขาก็บ่น ว่าทำอะไรไม่เต็มที่ บางสิ่งบางอย่างเราก็ทำไม่ได้ บางสิ่งบางอย่างที่เราทำได้ เราก็ทำ ไม่ท้อนะ มันมีแต่ว่า เดี๋ยววันหนึ่งเราต้องมาทำของเราเองดีกว่า เพื่อความสบายใจ ใครก็จะได้ไม่ต้องมาติเรา ดีไม่ดีอยู่ที่มือเรา”


“(ถาม-สิ่งที่เราไม่ได้แล้วเป็นข้อจำกัดของเราจริงๆ เรื่องอะไรบ้าง?) เรื่องยก ยกพวกเครื่อง ล้อ ต้องยกไปยกมา ผมก็จะลำบากหน่อย เวลานั่นก็ผมก็จะดันเข็นไปทีละนิดทีละหน่อย มันก็จะช้าตรงนี้แหละ (ถาม-เป็นลูกมือเขากี่ปี ถึงมาเปิดร้านของตัวเอง?) เป็นลูกมือเขามาหลายร้าน นานมาก 4-5 ปี”


หลังเลิกเป็นลูกมือร้านซ่อมรถ ช่างหน่อยังไม่สามารถเปิดร้านซ่อมรถเองได้ เพราะไม่มีทุนปัจจัยในการซื้ออุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ จึงต้องหางานอื่นทำไปก่อน

“(ถาม-แล้วไปทำอะไรช่วงนั้น?) รับจ้างเขาไปทั่ว ก่อสร้างก็ได้ ปูกระเบื้องก็ได้ (ถาม-พอเปลี่ยนจากงานซ่อม ก็รับจ้างทั่วไป?) ใช่ ทีแรกใจถอดแล้ว เพราะเราคงไม่มีปัญญาไปซื้อเครื่องมือ ใจถอดมาเป็นสิบปีเลย (ถาม-แต่พอไปเริ่มทำสิ่งใหม่ก็ต้องหัดใหม่?) ต้องหัดใหม่ งานเชื่อมก็ต้องหัด สามล้อที่ผมใช้อยู่ผมก็เชื่อมเอง (ถาม-ระหว่างทางที่เราเปลี่ยนงานใหม่ รู้สึกยังไงบ้าง?) อยากหาประสบการณ์ไปเรื่อยๆ อยากได้งานที่มาเป็นอาชีพเรา อันไหนจะตรงกับเรา ตรงกับสภาพเราด้วย ตรงกับร่างกายเรา ถ้าที่สูง ผมก็เชื่อมไม่ได้ ก็จบ ถ้านั่งเชื่อม ผมก็เชื่อมได้ มันก็ยังไม่เหมาะกับผม (ถาม-มีอย่างอื่นอีกไหมที่เราพยายามขวนขวาย?) มีหลายอย่าง ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซ่อมโทรศัพท์ ได้อยู่ (ถาม-เคยรับซ่อมไหม?) หลายคนมาให้เปลี่ยนหน้าจออยู่”


หลังตัดสินใจทำงานก่อสร้าง เพราะยังไม่มีทุนเปิดร้านซ่อมรถ แต่ในที่สุด เมื่อร่างกายฟ้องว่าคงทำงานก่อสร้างไม่ไหว ช่างหน่อจึงตัดสินใจเปิดร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์

“ร่างกายมันไม่ไหวแล้ว ไปคลานอยู่ข้างนอก ไปทำงานลำบากไม่ไหว พวกก่อสร้าง ไปแต่ละที่ก็เอาเรื่องอยู่ เห็นเดินไม่ได้ เขาก็ใช้คุ้ม ผมก็เลยตัดสินใจว่า เรามาหาร้านเปิด เปิดร้านเอง ผมก็เก็บสะสมเครื่องมือ ซื้อเครื่องมืออย่างละชิ้นอย่างละอัน เพื่อให้ได้เปิดร้าน (ถาม-เปิดร้านที่บ้านนานหรือยัง?) ประมาณ 1 ปีแล้ว (ถาม-งานซ่อมตอนนี้ถือว่าเยอะหรือน้อย?) น้อย (ถาม-แล้วอย่างนี้ส่งผลกระทบต่อรายได้ไหม?) กระทบอยู่ แทบจะไม่มีเข้า”


“(ถาม-เดือนหนึ่งมีกี่รายซ่อมมอเตอร์ไซค์?) เต็มที่ก็ 2-3 คนที่รู้จักกัน พอแต่งไปที เขาก็อยู่กันนาน อย่างน้ำมันเครื่อง เขาก็ซื้อมาให้เปลี่ยน เขาก็ให้เรา 20 อย่างเปลี่ยนยางให้เขาหน่อย เขาก็ให้ 50 เพราะเราไม่มีอะไหล่ เขาซื้อเข้ามา (ถาม-ถ้าเรามีทุนปุ๊บ เราก็เพิ่มบวกกำไรจากส่วนต่างจากการลงทุนอุปกรณ์ได้ อย่างนี้ได้ค่าแรงปุ๊บ มันก็ไม่เห็นอะไร?) ไม่เห็นอะไร”


รายได้ไม่แน่นอน พึ่งเบี้ยคนพิการเป็นหลัก!

“(ถาม-ในภาวะที่ขาดแคลน ถึงขนาดไหน?) แทบไม่มีสักบาทเลย แต่ก็ต้องทน (ถาม-เอาที่ไหนกินที่ไหนใช้?) ถ้ามันเหลือทน เราก็ขอคนรู้จัก ขอเขากินบ้าง (ถาม-ภาวะที่เป็นอยู่มันทุกข์ไหม?) ไม่ทุกข์แล้ว ถ้าทุกข์ไปก็ท้อ มีแต่จะแก้ไขว่า ทำตรงนี้ไม่ได้ ต้องไปหาทำตรงอื่นมั้ง คิดเพื่อจะหาตังค์แหละ”


ด้วยความที่ช่างหน่อมาจากถิ่น และไม่ได้ทำเรื่องย้ายที่อยู่ ทำให้เขาต้องเผชิญกับความยากลำบากและขาดโอกาสเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการต่างๆ

“เพราะผมทะเบียนบ้านอยู่บ้านแม่ ไม่ใช่คนพื้นที่ ก็ไม่มีงบไม่มีอะไรมา ขนาดน้ำท่วม ยังไม่มีงบเลย ธรรมดา อบต.ต้องมาดู แต่ทะเบียนบ้านผมอยู่บ้านแม่ ไม่ได้ย้ายลงมาอยู่นี่ บัตรคนจนไม่มี เพราะเราไม่มีสิทธิตรงนี้ (ถาม-ปัจจุบันมีโรคประจำตัวที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือการใช้ชีวิตของเราไหม?) ทำงานหนัก ก็กรดไหลย้อน จะอ้วกอย่างเดียว (ถาม-แล้วได้รักษาไหม?) ไม่ได้รักษา (ถาม-อาการเป็นยังไง?) เวลานั่นมันเสียด จะอ้วกอย่างเดียว จะอาเจียน ตี ลมตีขึ้นมา”


เมื่อรายได้จากการซ่อมรถเอาแน่ไม่ได้ ช่างหน่อจึงพยายามทุกทางที่จะหารายได้เสริม โดยเริ่มจากสิ่งที่ชอบ คือการทำบอนไซขาย ซึ่งเขาต้องขับมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไปหากล้าไม้ในป่าใกล้บ้านเพื่อมาปลูกลงกระถางและตัดแต่งให้สวยงาม

“(ถาม-เราต้องไปขุดกล้าไม้มา พอเอามาลงกระถาง ทำยังไงจะให้สวยงาม?) ต้องเลี้ยงไว้ก่อน ประมาณ 2 เดือน แล้วค่อยมาแต่งทรง (ถาม-ความยากของการทำบอนไซอยู่ตรงไหน?) ใช้เวลาเลี้ยงนาน (ถาม-เริ่มทำมานานยังบอนไซ?) ประมาณ 7 เดือน”


หวัง หากอนาคตมีทุน อยากจัดอุปกรณ์ให้ครบรองรับความต้องการของลูกค้า

“(ถาม-ในแง่การซ่อมรถ เราไม่มีทุนสำรองที่จะซื้อของมาสต๊อกใช่ไหม?) ใช่ (ถาม-แล้วเครื่องมือครบไหม?) เครื่องมือครบ แต่อุปกรณ์เครื่องไม่ครบ พวกอะไหล่ไม่มี เขาเลยไปร้านอื่น มาเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ต้องนั่งรอเราครึ่งชั่วโมงเพื่อไปซื้อน้ำมันเครื่อง เขาก็ไม่ไหว สู้ไปเปลี่ยนที่อื่น ที่เขามีของ”


หากท่านใดต้องการสนับสนุนทุนในการปรับปรุงอู่ซ่อมรถของช่างหน่อ โอนไปได้ที่ธนาคาร ธกส. ชื่อบัญชี เพื่อนายหน่อ บาตสุวรรณ โดยนางสาวปัญจา บาตสุวรรณ เลขที่บัญชี 020-0-84356-704


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน“พลังใจเหนือขีดจำกัด”
https://www.youtube.com/watch?v=aqSaClJ9R8o


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา11.30-12.00 น. ทางNEWS1 (กล่องIPTVของNTช่อง64 / กล่องAIS Play Boxช่อง618 /กล่องTrue IDช่อง19)

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น