xs
xsm
sm
md
lg

“ครูนิจ” แม้โรคร้ายคุกคาม ฮึดสู้รักษาตัวเดินสายสอนวิชาชีพให้ผู้สนใจ ตราบใดที่ยังมีแรง จะใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.พิษณุโลก เพื่อรู้จัก “ครูนิจ” ครูที่แม้ผ่านวัยเกษียณมา 10 ปีแล้ว แต่ยังอุทิศตนสอนวิชาชีพให้ผู้สนใจ ทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่กำลังค้นหาตัวเอง เพื่อใช้เวลาที่มีอยู่อย่างมีคุณค่าที่สุด เช่นที่ครูนิจได้ทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยไม่หวาดหวั่นแม้ถูกโรคร้ายคุกคาม



ย้อนกลับไปในวัยเด็ก “คนึงนิจ นาสมใจ” หรือครูนิจ มีบุคลิกและอุปนิสัยที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง และพูดเก่ง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการจุดประกายให้เติบโตมาเป็นครู

“สมัยเด็กๆ ตัวเองเหมือนกับคนอยู่ไม่นิ่ง อยู่ไม่สุข ดุ๊กดิ๊กๆ จนน้าท่านหนึ่ง บอก เอ๊ะ คนึงนิจ หนูเป็นไฮเปอร์แอ็คทีฟหรือเปล่า ซึ่งคำๆ นี้มาค้นพบเอาตอนโตว่า เป็นประโยชน์สำหรับงานอาชีพสำหรับการใช้ชีวิต บ้านเดิมเกิดและโตที่ จ.สุราษฎร์ธานี แม่มีลูกสาวคนเดียว มีพี่น้องผู้ชายอีก 6 คน เนื่องจากคนอื่นเรียนเก่งหมด ส่วนตัวเรียนพอถูไถ ท่านก็มาส่งเรียนประจำจนจบ ปวช.ที่โรงเรียนเกริก จบปริญญาตรีที่ ม.เกริก และมารับราชการที่วิทยาลัยพณิชยการบึงพระพิษณุโลก การที่ต้องมาเป็นครูสอนมาร์เก็ตติ้ง เพราะสมัยก่อนสุขภาพไม่แข็งแรง เมารถ แม่เคยเป็นครู พ่อเป็นทนายความ ท่านบอกว่า ถ้าเลือกได้ ให้เป็นครู จะได้ตรงกับนิสัย เพราะชอบพูด ชอบเจรจา จะได้ถ่ายทอดความรู้”


นอกจากเคยรับราชการที่วิทยาลัยพณิชยการบึงพระพิษณุโลกแล้ว ครูนิจยังได้รับโอกาสให้สอนด้านการตลาดให้กับอีกหลายมหาวิทยาลัย“ได้รับโอกาสสอนมาร์เก็ตติ้งทั้งมหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และโชคดีที่ได้ทำงานให้จังหวัดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโฆษก พิธีกร ตลอดจนเป็นวิทยากรบรรยาย เพราะสังคมโอบอุ้ม จึงทำให้มีพลังที่เข้มแข็ง”


ยุพา บุญน้อย ลูกศิษย์ครูนิจ เผยตัวตนของครูว่า“อาจารย์เป็นคนใจดีมาก อัธยาศัยดี พูดเพราะ น่ารัก และเป็นคนที่ไม่ปฏิเสธคน ใครขออะไรมา อาจารย์สามารถทำได้ ไม่เคยปฏิเสธใคร บางงานเป็นวิทยากร บางงานก็ไม่ได้มีค่าตอบแทน แค่ขอมา อาจารย์ก็ไป ไปทำให้หมด อาจารย์ไม่ติดว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่มี บางทีต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวเอง อาจารย์ก็ไป ไม่เคยปฏิเสธ”


ไม่ใช่แค่ครูวิชาชีพ แต่ครูนิจยังฉายแววนักพูด จนมีกิจกรรมมากมาย!

“ปี 2521 เริ่มรับราชการ พอปี 2522 ก็จะมีเพื่อนๆ ในกลุ่มชมรมชาวปักษ์ใต้พิษณุโลกขวนไปทำกิจกรรม ดังนั้นการที่มีพี่ๆ มีกลุ่มที่ดี ถือว่าชวนกันไป พอยิ่งทำยิ่งได้ ยิ่งได้ความคุ้นเคย ยิ่งได้ทักษะ ก็จะมีพี่ๆ ในกลุ่มที่เป็นลักษณะของนักพูดในจังหวัดท่านก็เห็นแวว ท่านก็ชวนไปขึ้นเวทีหลายๆ เวที แม้ว่าการทำไม่ได้รับผลตอบแทนอะไร นอกจากกำลังใจ นอกจากเสียงปรบมือ นอกจากรอยยิ้ม แต่สิ่งเหล่านั้นเป็นพื้นฐานทำให้สังคมได้รู้จัก ทำให้ได้ฝึกซ้อมทักษะต่างๆ”


พร้อมถ่ายทอดความรู้ให้หน่วยงานและผู้สนใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทน!

“อาจจะนิสัยร่าเริง จันทร์ถึงศุกร์รับราชการอย่างเต็มที่ เสาร์-อาทิตย์ไปสอนราชภัฎ หรือจันทร์ถึงศุกร์บางช่วงเวลาที่มหาวิทยาลัยนเรศวรขอตัวไปบรรยาย แต่สิ่งสำคัญคือ บังเอิญไม่มีครอบครัว เวลาว่างที่มี เวลาลงชุมชนเยอะๆ จะมีคนรู้จัก บรรดาแม่ๆ ในชุมชนหรือผู้รู้จักในชุมชนจะถามว่า ครูว่างไหม มาสอนพวกฉันด้วยที่นั่นที่นี่ ก็จะถามว่า จะสอนอะไร อยากได้อะไร คนกี่คน จะได้เตรียมสิ่งของไปให้ ครู ฉันไม่มีตังค์นะ มีงบ 500 บาท โอ๊ย ไม่ใช่ปัญหา นี่คือสิ่งที่เริ่มต้น”


กิจกรรมยิ่งมาก ยิ่งเป็นที่รู้จัก ให้ทั้งความรู้และเสียงหัวเราะ!

“ลูกศิษย์ที่เป็นหัวหน้าส่วน บอกว่า หนูไม่ต้องการให้ครูมาสอนในเชิงวิชาการอย่างเดียว หนูอยากให้ครูสอนแบบเอดูเคชั่นบวกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ แสดงว่าสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ให้ไปยืนพูดวิชาการ 6 ชม. 2 ชม. แต่ให้มีลักษณะหลากหลายประกอบ”


ลูกศิษย์ที่ได้อบรมวิชาชีพกับครูนิจไม่ได้จำกัดแค่นักเรียนนักศึกษา หรือคนในชุมชน แต่ยังรวมถึงคนที่ถูกคุมขังในทัณฑสถาณ เพื่อให้เขาเหล่านั้นได้มีทักษะอาชีพติดตัวหลังได้รับอิสรภาพ


“ถ้าพูดถึงทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก คลุกคลีตั้งแต่ปี 2548 ถึงบัดนี้ 20 ปี ทุกครั้งเวลาไปเจอน้องๆ ที่เคยอยู่ภายใน เป็นการให้กำลังใจ บางครั้งก็เป็นคอร์สการทำขนม ทำงานศิลปะ ทุกครั้งที่ไปก็จะมีขออนุญาตนำวัตถุดิบในการทำขนมไปเลี้ยงไปแจกเพื่อให้เธอได้สดชื่นขึ้น ได้เจอคนหน้าแปลก ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่แปลกหน้าสำหรับพวกเธอได้มีกำลังใจพูดคุยกัน และที่สำคัญ น้องๆ หลายคนเมื่อสำเร็จการศึกษาจากที่นั่น เธอออกมาเป็นคนดีของสังคม ประสานมา ครู วันก่อนครูบอกสูตรวาฟเฟิล หนูจดไม่ทัน ครูบอกทางโทรศัพท์ หนูจะจดหนูจะอัดเสียง เอาไปเลยนะลูก เอาไปทำประโยชน์”


นอกจากเป็นครูผู้ถ่ายทอดวิชาแก่ลูกศิษย์ที่หลากหลายแล้ว งานสังคมสงเคราะห์ก็เป็นสิ่งที่ครูนิจทำมานานแล้วเช่นกัน

“(ถาม-กิจกรรมลงเยี่ยมบ้านผู้ป่วย อาจารย์เริ่มทำมานานหรือยัง?) ทำตั้งแต่เริ่มเป็นสมาชิก เป็นมา 30 กว่าปี แต่สมัยก่อนรับราชการด้วย ก็ทำในเวลาที่ตัวเองว่าง ทีนี้พอปลอดพ้นจากระบบราชการ 10-11 ปีเต็ม ก็สามารถมาได้เต็มที่เต็มเวลาในจังหวะที่เหมาะสม”


ขณะที่ชีวิตของครูนิจกำลังมีความสุขกับการทำงานทั้งการสอนเด็กและสร้างอาชีพให้ผู้คน แต่แล้วข่าวร้ายที่ไม่คาดคิดก็เกิดกับครูเมื่อปี 2559 ซึ่งหมอบอกว่า ครูอาจมีเวลาแค่ไม่เกิน 3 เดือน


“นับเป็นโชคที่ได้พบโรคร้ายซึ่งหลายคนกลัว เธอชื่อน้องมะเร็ง (ถาม-ถ้าทางการแพทย์ระดับไหน?) ระดับ 3 จะเขยิบ 4 แล้ว เพราะกินไปครึ่งตัว ที่เป็นเช่นนี้พอเข้า รพ.จุฬาฯ ถึงรู้ว่า หมอจะต้องตัดจากเอวซีกซ้ายอ้อมไปด้านขวา แล้วนำกระเพาะอาหารตัดออก 60% เป็นมะเร็งตรงลำไส้ แต่เขาลาม ตัดกระเพาะไป 60% ตัดม้าม ตับอ่อน กระบังลม ลำไส้ตัดแค่ 20 ซม. แล้วโรคนี้เป็นสากลนิยม เธอต้องมาที่ต่อมน้ำเหลือง”


“ทันทีที่หมอบอกว่าเป็นมะเร็ง อึ้ง แต่ตอนนั้นยังไม่ร้องไห้ วันนั้นไปคนเดียวด้วย เพราะเพื่อนๆ ต้องสอน น้องเพ็ญก็ต้องไปทำงาน จิตที่ทำได้คือ พอหมอส่งตัวให้เอกสารปุ๊บ ก็โทรหานิ้งหน่อง ระหว่างที่โทรก็ร้องไห้ และโทรหาเพื่อนสนิท โทรหาน้องเพ็ญ แต่ตอนนั้นเพื่อนทุกคนบอก นิจต้องสู้นะๆ แต่ตัวเองใจหาย แต่คิดในใจว่า อยู่เป็นอยู่ ตายเป็นตาย มันมี 2 ช้อยส์ให้เลือก อยู่คือไปรักษา อาจจะรอด ตายคือ อาจจะเดด ตายทันทีที่ผ่าตัด”


งานบรรยายปลุกพลังใจให้ลุกขึ้นสู้กับมะเร็ง!

“ตายก็ตาย ถ้าอยู่ ฉันต้องทำอะไรก็ได้ที่เป็นประโยชน์ แต่ถ้าตายก็หมดไปเลย แต่ถ้าอยู่ ชีวิตต้องมีสีสัน เพราะเป็นคนอยู่นิ่งอาจจะปวดศีรษะ อยู่นิ่งอาจจะไม่มีความสุข แต่เหนือสิ่งอื่นใด ระหว่างที่นอนอยู่ รพ.จุฬาฯ นอนเตียงผู้ป่วยในห้องพิเศษ 2 คน หัวเตียงจะเขียนชื่อผู้บริจาค ก่อนนอนทุกคืนจะไหว้เจ้าของเตียง แล้วขณะนั้นก็มีโทรศัพท์โทรมา อาจารย์มาบรรยายตรงนั้นตรงนี้ นึก โอ้โห ตายแล้ว ถ้าเราอยู่รอด เราจะมีคิวบรรยาย มีคิวไปทำอะไร มันเป็นเหมือนพลังที่ฉันต้องตายไม่ได้”


“(ถาม-หลังรักษาตัวนานไหม กว่าจะขึ้นเวทีเป็นวิทยากรบรรยาย?) ค่ะ เพียงแต่สภาพกระย่องกระแย่ง แต่ก็พยายามเดินตัวตรง พยายามพูดให้เต็มเสียง ทั้งที่รู้ว่ายังไม่สมบูรณ์ แล้วช่วงนั้นต้องไปรับคีโม ไปกลับๆ พิษณุโลก-กรุงเทพฯ 8 เที่ยว (ถาม-บางคนอาจรู้สึกว่าการได้รับคีโมเป็นภาวะที่ทุกข์ทรมาณมาก เรารวบรวมพลังต่อสู้ไปทำอย่างนั้นได้ยังไง?) นึกคำเดียว ฉันต้องทานๆ เป้าหมายรออยู่ๆ เป้าหมายคือ ถ้าพูดภาษาวัยรุ่น ได้ไปโชว์ตัว ได้ไปแสดงตรงนั้นตรงนี้ ได้ไปเจอผู้คน ชีวิตจะได้มีสีสัน นึกอย่างเดียว ฉันต้องรอด รอดเพื่ออะไร รอดเพื่อจะได้ไปทำงานที่ชอบ บางคนอาจจะชอบงานมวลชน ชอบพบปะผู้คน ดังนั้นใครก็ตาม ให้มีเป้าหมายใดหนึ่งที่เหมาะกับตัวเอง เหมาะกับอัตลักษณ์ของตัวเอง เหมาะกับบุคลิก เหมาะกับความรู้ความสามารถ จะเป็นพลังอย่างยิ่งเลย”


วันเพ็ญ สมบรรณ หนึ่งในกัลยาณมิตรที่ช่วยดูแลครูนิจยามป่วย ยืนยันว่า ครูนิจรักงานมากและไม่อยากให้ความรู้ตายไปพร้อมกับตนเอง

“แกรักการทำงาน แกอยากถ่ายทอดชีวิตของแก วิชาของแกให้ผู้คนต่อไป แกบอกว่า ถ้าแกตายไป วิชามันก็ตายตามแกไปเลย เอาวิชาที่เขามีอยู่มาถ่ายทอดให้ผู้คนที่เขาอยากรู้ดีกว่า เพื่อเขาจะได้ถ่ายทอดต่อไป แต่เขาก็มีลูกศิษย์หลายคนที่ถ่ายทอดจากชีวิตแกไปได้เยอะ ไม่ว่าจะเป็นนักพูด หรือวิทยากร หรือพิธีกร หลายคนที่เป็นลูกศิษย์แก แล้วเอาไปถ่ายทอดเหมือนแกเด๊ะเลย”


แค่ได้เห็นลูกศิษย์เป็นคนดี มีอาชีพ มีอนาคต ครูนิจก็ชื่นใจแล้ว

“(ถาม-ในวันที่ลูกศิษย์ของเราโทรมาบอกอาจารย์ว่า ตอนนี้หนูกลับมาเปิดร้านที่บ้านแล้วนะ ประกอบอาชีพที่สุจริตแล้ว สิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงชีวิตเขา อาจารย์ได้รับโทรศัพท์แบบนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้าง?) มองคำเดียว ไปสอนมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ 20 ปี มีสัก 1 คนที่เป็นคนดี ก็ถือว่าคุ้มค่า แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงมีมากกว่านั้น บางคนระหว่างที่อยู่ก็เรียน มสธ. นิติศาสตร์ จบไปเป็นทนาย เดินตลาด เขาวิ่งมากอด เห็นคนหนึ่งมากอดครู ชื่นใจ หรือไปตามตำบล หมู่บ้าน ลูกศิษย์เป็นนายก อบต. เวลาครูไปประเมิน นี่ครับครูของผม หรือไปในที่ต่างๆ ถือว่าสังคมให้ความรัก”


หากยังมีแรงและลมหายใจ จะไม่หยุดสร้างความสุขให้ผู้อื่น!

“ถ้านาทีนี้หรือนาทีต่อไป ยังมีแรง ยังมีพลัง สมองยังใช้งานได้ เรี่ยวแรงยังมี ทำต่อไป เพราะถ้าหยุดทำหมายถึงไม่มีชีวิตแล้ว นี่คือสร้างลมหายใจทุกนาทีให้มีความสุขด้วยการให้ความสุขแก่ผู้อื่น ใช้ความรู้ความสามารถทำประโยชน์ ไม่เช่นนั้นถ้าไม่ทำอะไรเลย เท่ากับหยุดลมหายใจ”


คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “ครูนักสู้ ผู้ให้ไม่สิ้นสุด”
https://www.youtube.com/watch?v=Kj-M2hKOKPs


ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30-12.00 น. ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 618 / กล่อง True ID ช่อง 19)

หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos


กำลังโหลดความคิดเห็น