เบื้องลึกเสียงโหวต"อนุทิน" ฮือฮา "เฉลิม" โผล่หนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ขณะที่นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้ 152 เสียง โดยพรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่โหวตให้นายชัยเกษม ยกเว้นงูเห่าที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้ แต่ที่เป็นไฮไลต์คือ นายเฉลิม อยู่บำรุง โหวตหนุนนายอนุทิน ขณะที่นายอนุทินงดออกเสียงโหวตให้ตัวเอง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ส่วนใหญ่งดออกเสียงตามมติพรรค แต่บางส่วนใช้เอกสิทธิ์ สส. โหวตให้นายอนุทิน และที่เป็นไปตามคาดคือพรรคพลังประชารัฐ โหวตให้นายอนุทิน แต่มี 2 คน ที่โหวตให้นายชัยเกษม คือ นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สส.กำแพงเพชร และ นายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร พรรคชาติไทยพัฒนา โหวตให้นายชัยเกษม ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งสองกลุ่ม รวมทั้งนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โหวตให้นายอนุทิน
ไม่ตัดสินใจเพื่อความนิยม
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แจงเหตุหนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นหนทางดีที่สุดสำหรับผ่าทางตัน วิกฤตประเทศ เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้งและแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันตัดสินใจเพื่อประเทศ เพื่อคน 60 ล้านคน ไม่ได้ตัดสินใจเพื่อความนิยมของพรรค
หวั่น"อนุทิน"แทรกแซงคดี
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ อภิปรายคุณสมบัติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทำลายระบบกฎหมาย ไม่รักษาทรัพย์สมบัติของแผ่นดิน หวั่นแทรกแซงคดี เขากระโดงและการฮั้ว สว. ด้านนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ถาม กลับ ใครกันแน่ใช้อำนาจแทรกแซงจนศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
ปูดเงินสะพัด 2 พันล้าน
นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคภูมิใจไทย มีข่าวหนาหูเหม็นคลุ้งในการมาเป็นนายกฯ ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ใช้เงิน 1,500-2,000 ล้านบาท พรรคเพื่อไทยหายไป 8 คน ใครๆ ก็รู้ อยากทราบตัวเลขจริงใช้เท่าไร รับแรกสุด 10 ล้านบาท โหวตวันนี้รับอีก 10+10 รวมเป็น 30 ล้านบาท จริงหรือไม่ พรรคการเมืองที่ไปสนับสนุนบางพรรคไม่เคยมีชื่อหาเสียงเลือกตั้ง แต่อยู่ๆ มารวมตัวหนุนนายอนุทิน
ปลดล็อก"ทักษิณ"ห้ามบิน
นายรัฐวิชญ์ อริยพัชญ์พล ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำสำนักประธานศาลฎีกา ในฐานะโฆษกศาลยุติธรรม เผย ศาลชั้นต้นยกฟ้องคดีนายทักษิณ ชินวัตร ในข้อหามาตรา 112 ถือว่าเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวสิ้นสุดลง และได้แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ให้เพิกถอนคำสั่งเดินทางออกนอกประเทศแล้ว ส่วนคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งคดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ในวันที่ 9 ก.ย. นี้ ให้นายทักษิณ และผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาฟังคำสั่ง ผู้ที่ถูกนัดคู่ความไม่ต้องยืนยันว่าจะมาตามนัดหรือไม่ แต่คู่ความต้องเดินทางมาตามที่ศาลนัดหมาย