xs
xsm
sm
md
lg

จับตา 'ประชาชน' ยื่นเงื่อนไขลับ แลกโหวตนายกฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พรรคประชาชนตัวแปรชี้ขาดตั้งรัฐบาล! ยื่น 3 ข้อแลกโหวตนายกฯ ยุบสภาฯใน 4 เดือน ทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญ พร้อมนั่งฝ่ายค้าน แต่เงื่อนไขลับใต้โต๊ะคืออะไร? จับตาอนาคตการเมืองไทย!

ในภาวะที่การเมืองไทยกำลังเดินเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่มีข้อยุติที่แน่นอน และสมการเสียงในสภายังเปราะบางอย่างยิ่ง พรรคประชาชนได้กลายเป็น “ตัวแปรชี้ขาด” ที่มีผลให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล

โดยพรรคประชาชน ประกาศจุดยืน 3 ข้อ ได้แก่ 1. นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือนนับตั้งแต่วันที่ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้ง สส. 2. ครม. ชุดใหม่ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 เพื่อนำไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเร็ว และไม่เกินการจัดพร้อมกับวันเลือกตั้ง สส. และ 3. พรรคประชาชนยืนยันทำหน้าที่ฝ่ายค้านต่อไป โดยจะทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลชุดใหม่อย่างเต็มที่ และจะไม่มีบุคคลใดจากพรรคประชาชนไปเป็นรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี

ทั้งนี้ จากสถานการณ์ในตอนนี้เรียกได้ว่าพรรคประชาชนอยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบและเป็นต่อในทางการเมืองมากที่สุด ถ้าวันนี้พรรคประชาชนเป็นแคนดิเดทนายกฯก็คงได้เป็นรัฐบาลไปแล้ว แต่เมื่อไม่มีแคนดิเดทนายกฯ เนื่องจากเป็นผลมาจากการยุบพรรคก้าวไกล ทำให้พรรคประชาชนกลายมาเป็นผู้กำหนดอนาคตรัฐบาลอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งในรัฐบาลก็ตาม

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าจับตามองว่าในแง่อีกหนึ่งเป็นไปได้หรือไม่ที่การเจรจาเพื่อขอเสียงสนับสนุนจะจำกัดเฉพาะเงื่อนไขบนโต๊ะทั้ง 3 ประการตามที่พรรคประชาชนได้ประกาศเอาไว้ เพราะในเมื่อเวลานี้พรรคประชาชนเป็นผู้ถือไพ่ในมือสูงสุด มีเหรอที่จะไม่ใช้โอกาสนี้สร้างแต้มต่อในทางการเมืองให้เพิ่มมากขึ้น

จริงอยู่ที่เวลานี้พรรคประชาชนจะมีสถานะทางการเมืองที่ดูแข็งแกร่งและพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหม่ในอนาคต แต่ด้านหนึ่งก็มีความเปราะบางที่ซ่อนอยู่เนื่องจาก พรรคประชาชนเองก็ยังพยายามอยากจะคงจุดยืนเดิมในเรื่องประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ตรงนี้ทำให้เริ่มมีหลายฝ่ายต่างจับตามองว่า พรรคประชาชนอาจใช้จังหวะนี้ในการสร้างอำนาจต่อรองประการหรือไม่

ฐานเสียงของพรรคประชาชน ส่วนใหญ่คือผู้ที่ยืนหยัดเรียกร้องการปฏิรูปประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มาโดยตลอด ดังนั้น เพื่อให้พรรคประชาชนยังเดินหน้าในการรักษาจุดยืนเอาไว้ได้พร้อมกับการไม่ทอดทิ้งมวลชนไว้ด้านหลัง อาจใช้จังหวะในการผลักดันเรื่องการให้รวมคดี 112 เข้ามาสู่กระบวนการนิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ หลังจากที่ผ่านสภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่รับหลักการร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของภาคประชาชนและของอดีตส.ส.พรรคก้าวไกล

ท่ามกลางสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ว่าพรรคประชาชนจะดูเป็นต่อในทางการเมือง แต่สำหรับการเมืองในภาคประชาชนแล้ว พรรคประชาชนกำลังเผชิญแรงเสียดทานครั้งสำคัญและยังเป็นเรื่องยากที่ว่าพรรคประชาชนจะก้าวผ่านปัญหานี้ไปได้อย่างไร

เพราะมวลชนอาจมองว่าไม่ว่าพรรคประชาชนโหวตให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองอย่างมีนัยสำคัญ โดยพรรคประชาชนจะเป็นเพียงเครื่องมือที่ทำให้พรรคแดงหรือพรรคน้ำเงินไปสู่อำนาจเท่านั้น แต่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมรดกของการรัฐประหารกลับไม่ได้เหลียวแลอย่างที่ควรจะเป็น

ตรงนี้เองจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เวลานี้พรรคประชาชนจึงยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะยกมือให้กับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคภูมิใจไทย เพราะไม่ว่าจะเลือกพรรคใดก็ล้วนทำให้สีส้มของพรรคประชาชนไม่ได้เป็นสีส้มที่เคยเข้มข้นเหมือนในอดีต

ดังนั้น บางทีที่สุดแล้วพรรคประชาชนอาจจะไม่ยกมือให้กับพรรคการเมืองใดเลย เพื่อรักษาจุดยืนของตัวเองเอาไว้ เว้นเสียแต่ข้อเสนอใต้โต๊ะการเจรจานั้นจะได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง


กำลังโหลดความคิดเห็น