xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจลุยสอบหมอบี เตรียมดำเนินคดี ขยายผลเงินบริจาค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กองปราบสอบหมอบี! ขยายผลเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ โยงซื้อที่ดิน-บ้าน-รถส่วนตัว เตรียมดำเนินคดีหากพบผิด หมายเรียกผู้บริจาคให้ปากคำ สำนักพุทธฯออกประกาศคุ้มครองข้อมูลวัด

กรณีของหมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ที่ถูกโยงว่ามีการเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ นำไปซื้อที่ดิน สร้างบ้าน ซื้อรถ ของใช้ส่วนตัว กำลังถูกขยายผลต่อเนื่องถึงขนาดที่ตำรวจต้องเข้ามาตรวจสอบอย่างเป็นทางการ

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าจากการตรวจสอบ หมอบี และ วัดพระบาทน้ำพุ จ.สระบุรี ว่า ขณะนี้ตำรวจกองปราบกำลังสืบสวนหารายละเอียดอยู่ โดยพระอลงกตและหมอบี ยังต้องชี้แจงทรัพย์สินและเอกสารต่างๆ ให้ได้ แต่ถ้านำเงินที่ได้รับบริจาคไปซื้อบ้านหรือที่ดิน ถือว่ามีความผิด ถ้าเป็นเช่นนั้นจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม ระบุว่า วันที่ 11 ส.ค. พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนสืบสวน กก.1บก.ป. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดี เพื่อวางกรอบแนวทางการทำงาน ว่าจะเป็นไปในรูปแบบไหน แต่ทั้งนี้คงจะไม่รอให้มาแจ้งความดำเนินคดี เพราะไม่รู้เมื่อไหร่ถึงจะมา ดังนั้นจะเป็นการประชุมเพื่อสรุปในเชิงรุก ว่าสามารถจะดำเนินคดีได้หรือยัง ยังขาดหลักฐานอะไรอีก ทั้งนี้ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานอีกสักระยะ น่าจะเห็นอะไรมากขึ้น

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ออกหมายเรียกผู้มีจิตศรัทธาที่มาทำบุญที่วัดพระบาทน้ำพุ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเกี่ยวกับเงินที่ทำบุญว่า รู้จุดประสงค์ของการทำบุญหรือไม่ ทำไปในกิจอะไรของวัด ทั้งนี้เพื่อมาดูว่า หลังจากรับบริจาคแล้ว ที่ผ่านมามีความผิดปกติอย่างไรบ้าง นำเงินที่ได้ไปใช้ตรงกับวัตถุประสงค์หรือไม่ เพื่อวางแนวทางการทำงานของเจ้าหน้าที่ต่อไป รวมไปถึงจะมีการตรวจสอบไปถึงรายรับ รายได้ และรายจ่ายของวัด เนื่องจากวัดพระบาทน้ำพุมีตั้งตู้รับบริจาคหลายจุดทั่วประเทศ

ด้านนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เลขาธิการมหาเถรสมาคม ได้ลงนามในประกาศสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคมเรื่อง แนวปฏิบัติในการส่งมอบข้อมูลของวัดตามข้อหารือเบื้องต้นในที่ประชุมคณะกรรมการ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 222/2568 สรุปสาระสำคัญ ดังนี้

1. ในกรณีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสานขอข้อมูลรายละเอียดต่างๆ สมควรสอบถามจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด หรือบูรณาการความร่วมมือกันในการจัดทำฐานข้อมูล ทั้งนี้ หากมีปัญหา อุปสรรค หรือข้อสงสัยเป็นรายจำเพาะกรณี ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด สอบถามแนวปฏิบัติมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อจักได้พิจารณาตอบข้อสงสัยต่อไป

2.บรรดาข้อมูลส่วนบุคคล รวมไปถึงบัญชีธนาคารซึ่งเป็นบัญชีส่วนบุคคล อันเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีกฎหมายคุ้มครอง หน่วยราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจขอความร่วมมือในการขอข้อมูลได้ ในกรณีเจ้าของบัญชียินยอม

3.เมื่อสอบถามจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือบูรณาการร่วมกันแล้ว พบว่าจำเป็นต้องขอข้อมูลตามข้อ 1 และข้อ 2 ตลอดจนข้อมูลอื่นด้วยการเข้าไปในบริเวณศาสนสถานต้องดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายและจารีตประเพณี กล่าวคือ

3.1 ต้องประสานงาน ด้วยวิธีการอันละมุนละม่อม และเหมาะสม ในฐานที่เจ้าพนักงานไปขอความอนุเคราะห์ข้อมูลจากพระภิกษุสามเณรและประชาชนผู้ที่มิได้กระทำความผิดตามกฎหมาย มิได้เป็นอาชญากร หรือมิได้เป็นผู้ต้องสงสัย การเข้าบริเวณพื้นที่วัดเพื่อขอข้อมูลต้องมีการประสานงานล่วงหน้า ใช้กิริยาวาจาที่เหมาะสมตามมารยาทสังคมไทย ซึ่งฆราวาสพึงปฏิบัติต่อพระภิกษุสามเณร และไม่เข้ามาในบริเวณวัดในเวลาวิกาล หรือกระทำการใดๆ ให้เกิดทัศนคติเชิงลบ ก่อให้เกิดภาวะหวาดวิตกในหมู่พุทธบริษัท อันทำให้ความสามัคคีและสายสัมพันธ์ของบ้าน วัด และระบบราชการ ซึ่งเป็นรากฐานของสังคมไทย ต้องถูกกระทบกระเทือน

3.2 หากมีการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลต้องดำเนินการบนหลักการพื้นฐานเรื่องสิทธิส่วนบุคคลและกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากเจ้าอาวาสไม่ยินยอม เจ้าหน้าที่ไม่สามารถข่มขู่หรือบังคับให้ส่งมอบข้อมูล หากมีการข่มขู่หรือบังคับ อาจเข้าข่ายกระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

3.3 พึงเข้าใจร่วมกันในเชิงนโยบายว่าการขอรับข้อมูล เป็นการขอความร่วมมือ เพื่อจัดทำฐานข้อมูลร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มิใช่เป็นการตรวจสอบเพราะเกิดกรณีการกระทำความผิดตามกฎหมาย

4. ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดประสานความร่วมมือกับคณะสงฆ์ ในการเฝ้าระวังสังเกต ถวายความรู้ และป้องกันมิให้เกิดพฤติการณ์ที่อาจมีมิจฉาชีพ หรือบุคคลผู้ไม่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายอาจใช้โอกาสนี้กระทำการข่มขู่ หลอกลวง หรือบังคับพระภิกษุสามเณรหรือวัดให้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลจำเพาะของวัด โดยปราศจากอำนาจตามกฎหมาย หรือยังมิได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายหรือมิเป็นไปตามมติมหาเถรสมาคมหรือตามคำสั่งของของผู้บังคับบัญชาสงฆ์

5.มติมหาเถรสมาคมเกี่ยวกับแนวปฏิบัติด้านศาสนสมบัติ เป็นแนวทางภายในที่มหาเถรสมาคมกำหนดเป็นมาตรฐานกลาง สำหรับวัดที่มีความพร้อมและวัดที่มีศาสนสมบัติมาก สำหรับวับวัดที่ยังไม่มีความพร้อมให้อนุวัตตามความเหมาะสม การดำเนินการตามมตินี้ จึงมิได้มีเจตนารมณ์ให้เกิดภัยต่อต่อคณะสงฆ์ แต่เป็นการวางแนวทางเพื่อป้องกันมิให้เกิดการทจริตอันเนื่องด้วยศาสนสมบัติของวัด ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมามายอาญาและเป็นการปกป้องคุ้มครองวัดและพระภิกษุสามเมเณรซึ่งปฏิบัติหน้าที่โดยชอบด้วยพระธรรรมวินัยและกฎหมาย

6. มีพระบัญชาโปรดให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เรียนรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อสั่งการให้เป็นไปตามหลักการต่อไป กับทั้งเชิญพระบัญชาไปแจ้งมหาเถรสมาคม ในการประชุมมหาเถรสมาคม ในวันที่ 13 สิงหาคม 2568 รับทราบและให้คณะสงฆ์ถือปฏิบัติ


กำลังโหลดความคิดเห็น