ตำรวจสอบหมอบีแอบอ้างวัดพระบาทน้ำพุรับบริจาค หลวงพ่ออลงกตรับเซ็นเอกสารไม่รอบคอบ ให้เวลาหมอบี 7 วัน ชี้แจงข้อกล่าวหา ยันวัดมีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์
เวลานี้ดูเหมือนว่าหลายวัดที่มีผลประโยชน์เกี่ยวกับเงินบริจาคจำนวนมหาศาล จะเกิดเรื่องความไม่โปร่งใสให้เห็นทั่วไปโดย ซึ่ล่าสุดก็เกิดเหตุวัดพระบาทน้ำพุอย่างไม่น่าเชื่อ โดยพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบกรณีหมอบีแอบอ้างชื่อวัดเปิดบัญชีรับบริจาคเงิน ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานบุคคลต่างๆไปแล้วหลายปาก โดยได้มีเจ้าหน้าที่จิตอาสาของวัดรายหนึ่งเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมต่างๆของหมอบี หมอดูชื่อดัง ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้รับถือเป็นประโยชน์ต่อการนำไปพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงของเรื่องราวเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อมูลที่เจ้าหน้าที่จิตอาสาให้มานั้น ก็ยังต้องผ่านกระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้แน่ชัดก่อน เนื่องจากเป็นเพียงคำกล่าวอ้าง ซึ่งต้องตรวจสอบและยืนยันหลักฐานให้ชัดเจน ก่อนจะนำไปพิจารณาต่อไป
สำหรับประเด็นในทางกฎหมายที่ว่าหากหลวงพ่ออลงกตไม่ประสงค์แจ้งความดำเนินคดีจะมีผลต่อการทำงานหรือไม่นั้น พ.ต.อ.เอนก กล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานข้อเท็จจริงเป็นหลัก หากหลักฐานพบการกระทำความผิดที่เป็นอาญาแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถกล่าวโทษและดำเนินคดีได้ทันที แม้จะไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความ เพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานในการปราบปรามการกระทำผิด
ด้าน พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวระหว่างปฏิบัติกิจนิมนต์ที่ตลาดเช้าเคหะคลองจั่นย่านบางกะปิ โดยระบุว่า เอกสารที่หมอบีนำมาให้เซ็นมีอยู่ 2 ประเภท คือเอกสารการรับเงิน และเอกสารโครงการ ซึ่งปกติตอนเซ็นจะดูทุกฉบับ แต่ก็ยอมรับว่าไม่ค่อยได้อ่านอย่างละเอียด เพราะมีเรื่องความไว้ใจด้วย แต่เชื่อว่าไม่มีการสอดไส้ ส่วนเรื่องตัวเลขไม่ตรง หรือรายละเอียดต่างๆ ต้องรอหมอบีออกมาชี้แจง ภายใน 7 วัน จะได้รับคำตอบแน่นอน โดยจะให้หมอบีมาชี้แจงและแถลงที่วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งการแถลงทางวัดมั่นใจว่ามีเอกสารที่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ได้แน่นอน
หลวงพ่ออลงกต กล่าวอีกว่า ส่วนการซื้อที่ดินบางส่วนที่ไม่ได้ใช้ชื่อวัดในการซื้อ แต่ใช้ชื่อไวยาวัจกรถือไว้ก่อนนั้น เพราะในระหว่างที่พิจารณาจะใช้ที่ดินตรงนี้ทำอะไร หากโอนเป็นชื่อวัดเลย วัดก็ต้องตามไปดูแล และอาจดูแลไม่ไหว แต่ที่เป็นปัญหาตอนนี้ไวยาวัจกรคนเก่าได้เสียชีวิต จึงอยู่ระหว่างการหารือว่าจะดำเนินการโอนกลับมาให้วัดอย่างไร นอกจากนี้เรื่องที่ดินยังมีชื่อของนางสาววรสุดา ที่เป็นคนใกล้ชิดให้ดูแลมูลนิธิบ้านเด็กกำพร้า แต่ให้ทำพินัยกรรมมอบให้วัดไว้ เพื่อป้องกันปัญหาหากเสียชีวิต
หลวงพ่ออลงกต ยอมรับว่า จากเรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นกังวลและท้อใจ เพราะจะกระทบผู้ป่วยที่เจ้าอาวาสดูแลอยู่ 2,000 -3,000 คน เนื่องจากประชาชนก็เคลือบแคลงใจไม่กล้าบริจาค คนทำบุญน้อย ส่วนจะเสียความรูสึกหรือไม่ หากพบหมอบีทำผิดตามที่ถูกร้องเรียน เจ้าอาวาสทำใจเป็น ทุกคนไม่มีใครถูกทุกเรื่อง อย่างไรก็ตามหากตำรวจพบความผิดของหมอบี เจ้าอาวาสก็ยืนยันว่าจะดำเนินการเอาผิดเช่นเดียวกันอีกด้วย