เด็กหญิง 3 คน หายหอนอนกลางดึก! พบตัวปลอดภัยแล้ว หลังชาวบ้านเจอเดินอยู่ริมถนนห่างโรงเรียน 5 กม. สพฐ.ตั้งกรรมการสอบจุดบกพร่องระบบดูแล-รักษาความปลอดภัยโรงเรียน ป้องกันเหตุซ้ำ หลังพบเด็กเคยหนีออกจากโรงเรียนช่วงกลางวันมาก่อน
กลายเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายระดมความช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ สำหรับกรณีเด็กหญิงนักเรียนประถมศึกษา 3 ราย หายตัวไปจากหอนอนโรงเรียนในพื้นที่อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงกลางดึกของวันที่ 3 สิงหาคม 2568 โดยเด็กหญิงทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย นักเรียนชั้น ป.1 อายุ 7 ปี, นักเรียนชั้น ป.2 อายุ 9 ปี และนักเรียนชั้น ป.3 อายุ 9 ปี หายออกจากหอนอนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 30 ในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 3 ส.ค. 2568 โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพล่าสุดได้ขณะเด็กทั้ง 3 เดินผ่านหน้าวัดแม่อายหลวงและตลาดสดแม่อาย มุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานท้องถิ่นระดมกำลังค้นหา พร้อมขอความร่วมมือประชาชนตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแส
จากนั้นในวันที่ 4 สิงหาคม ชาวบ้านในพื้นที่หมู่บ้านป่าเหียว ต.มะลิกา อ.แม่อาย ซึ่งอยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 5 กิโลเมตร พบเด็กหญิงทั้ง 3 คนเดินอยู่ริมถนน จึงพาไปพักที่บ้าน ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นพบว่าเด็กทั้งหมดปลอดภัยดี ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่พบเด็กทั้ง 3 คน ต่างเข้าไปกอดและปลอบขวัญ ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบถามข้อมูลจากเด็ก ๆ และตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงว่าเหตุใดจึงออกจากหอนอนของโรงเรียนกลางดึก
ด้าน นางสลีลญา คำภาแก้ว นายอำเภอแม่อาย เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งข่าวดีว่าเด็กปลอดภัยแล้ว โดยขณะนี้ทางโรงเรียนอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลสภาพจิตใจของเด็กทั้ง 3 คนอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ มีประเด็นสำคัญ คือ มีรายงานระบุว่า เด็กหญิงทั้ง 3 ราย เคยมีประวัติออกจากโรงเรียนมาแล้วหนึ่งครั้งในช่วงเวลากลางวัน และมีเจ้าหน้าที่สายตรวจพบตัว ก่อนนำส่งกลับโรงเรียน ขณะที่เหตุการณ์ล่าสุด เด็กออกจากหอนอนในช่วงกลางคืนอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนให้ข้อมูลว่า ปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าประตูโรงเรียนตลอดช่วงเวลาดังกล่าว แต่ไม่พบเด็กเดินผ่านออกไป และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงเรียนก็ไม่พบภาพเด็กออกทางประตูใดเลย ทั้งที่โรงเรียนมีประตูรั้วจำนวน 4-5 จุด และทั้งหมดถูกล็อกแน่นหนา ซึ่งโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 30 แห่งนี้เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนกว่า 800 คน โดยมีทั้งนักเรียนไป-กลับ และนักเรียนที่พักประจำในโรงเรียน โดยเฉพาะกลุ่มชาติพันธุ์จำนวนหนึ่ง
ในเรื่องนี้เกี่ยวกับการบริหารจัดการของโรงเรียนจนทำให้มีเด็กสามารถออกจากโรงเรียนได้นั้น ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า “กรณีนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เด็กพยายามออกจากหอนอน จึงต้องตรวจสอบว่ามีจุดบกพร่องตรงไหน ทั้งในด้านการดูแล การจัดเวรยาม หรือระบบรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน โดยได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ซ้ำอีก
ที่สุดแล้ว แม้เหตุการณ์ครั้งนี้จะจบลงด้วยความปลอดภัยของเด็กทั้ง 3 ราย แต่ก็เป็นสัญญาณสำคัญให้ทุกฝ่ายร่วมกันทบทวนระบบดูแลนักเรียนประจำในโรงเรียน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครอง และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ๆ อย่างสูงสุดต่อไป
