รายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา พาคุณผู้ชมไปที่ จ.ชลบุรี เพื่อรู้จัก “ดาวใจ” ที่แม้ร่างกายจะไม่สมประกอบ เดินไม่ได้เหมือนคนปกติ แต่หัวใจไม่ยอมแพ้ สู้ใช้แขนช่วยขาเพื่อให้เคลื่อนไปข้างหน้าได้ ทั้งยังขยันทำงานเพื่อให้มีรายได้ ไม่เป็นภาระของใคร
“หมอบอกว่าเป็นโปลิโอ ตอนแรกหนูก็เดินได้นะ พอป่วย แล้วแม่พาไปหาหมอ ไปฉีดยา 2 ข้าง ก็เลยเดินไม่ได้เลย”
ดาวใจ ฉิมมาจุ้ย กับวัยย่าง 50 เล่าสาเหตุที่ทำให้เธอเดินไม่ได้เหมือนคนอื่น จึงต้องใช้วิธีกึ่งคลานหรือเดินสี่ขาเพื่อให้ตัวเองเคลื่อนไปข้างหน้าได้ แต่หากต้องเดินไกล ก็ต้องอาศัยวีลแชร์เป็นตัวช่วย
ภาวะความพิการที่มาเยือนตั้งแต่เด็ก ทำให้ดาวใจต้องทนกับการถูกล้อ และไม่มีโอกาสได้เรียนเหมือนเด็กทั่วไป“ครูใหญ่เขาเหมือนกับว่า ไม่อยากให้เราไปเรียน เขากลัวเพื่อนล้อเรามั้ง แต่มีอยู่โรงเรียนหนึ่ง เขาจะให้เราไปเรียน แต่บางคนบอก อย่าไปเรียนเลย ไปเป็นภาระคนอื่น ก็เลยไม่ได้ไป แล้วก็ไปเรียน กศน. แต่หนูก็เรียน กศน.ไม่เท่าไหร่เอง เพราะสมัยก่อนรถราก็ลำบาก ต้องออกไป ก็ไม่ได้ไปเรียนเลย แล้วชีวิตวัยเด็ก เขาเล่นกัน เราก็ไปเล่นกับเขาไม่ได้ บางทีก็เจอเพื่อนล้อ เราก็ทน เราก็อยากเล่นกับเขา”
สู้ชีวิตตั้งแต่เด็ก ไม่อยากเป็นภาระพ่อแม่!
“ตอนประมาณ 9 ขวบหรือ 11 12 หนูก็หารับจ้าง รีดผ้าบ้านโน้นบ้านนี้ ตัวละ 1-2 บาท ค่าขนม เราอยากช่วยเหลือตัวเอง ไม่อยากเป็นภาระพ่อแม่ ทำอะไรแล้วได้ตังค์ ทำทุกอย่าง ไม่เป็นภาระคนอื่นเขา”
ความขยันขันแข็งของดาวใจ ทำให้เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เธอได้พบคู่ชีวิต และมีพยานรักด้วยกัน 2 คน แต่สุดท้าย ก็มีอันต้องเลิกราในเวลาไม่ถึง 10 ปี“แต่งงานตอนอายุ 25 มีลูกด้วยกัน 2 คน แล้วเขาขอเลิกหนูตอนอยู่ด้วยกัน 9 ปี (ถาม-เหตุผลที่แยกทางกันเพราะว่า?) หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาบอกอยากกลับไปอยู่บ้านเขา (ถาม-แล้วลูกใครดูแล?) หนูดูเอง หนูก็ขายขนมขายน้ำเลี้ยงลูก”
หลังผิดหวังกับรักครั้งแรก ดาวใจได้พบรักครั้งใหม่กับ “มงคลทอง จังพันธุ์” หนุ่มที่รักจริง และยังคงอยู่ดูแลกันจนถึงปัจจุบัน“ตอนนั้นผมขับรถส่งของพวกเฟอร์นิเจอร์ มาเจอเขา ก็เลยถูกชะตา มาหาเขาทุกวัน ก็เลยมาขอผูกข้อไม้ข้อมืออยู่กับเขา (ถาม-เห็นสภาพร่างกายของเขาเป็นแบบนี้ไม่รังเกียจหรือ?) ไม่รังเกียจ สงสารเขา ถึงเขาพิการ เขายังสู้ชีวิต ใครจะพูดยังไงก็ช่าง ผมไม่แคร์คำพูดคน (ถาม-ส่วนใหญ่เขามาพูดรุนแรงขนาดไหน?) แรงคือ มึงเอาเขาได้ไงวะ เขาเดินพิการอย่างนี้ เอาเขาไปอยู่ได้ยังไง ผมก็บอก กูรักเขา สงสารเขา อยากอยู่ดูแลเป็นคู่ชีวิตเขาตลอดชีวิต มีไม่มีก็อยู่ อยู่สู้กันไป”
ปัจจุบัน มงคลทองทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ซึ่งแม้จะดูร่างกายปกติดี แต่อุบัติเหตุเมื่อครั้งยังวัยรุ่น ก็ทำให้ขาของเขาเดินไม่ปกติ“ผมขับมอเตอร์ไซค์ไปชนกับรถเก๋ง ขาหัก ใส่เหล็กไม่ได้ ตรงนี้ก็เดาะ ตรงนี้ก็ปวด (ถาม-แต่ทำงานได้?) ทำได้ แต่ให้วิ่งไว วิ่งไม่ได้ ถามว่ายกของหนัก ก็ยกได้”
ทุกเช้า หากยังไม่ถึงเวลาเข้ากะเพื่อไปทำงาน รปภ. สามีจะเข็นวีลแชร์พาดาวใจไปส่งที่จุดขายกาแฟ หลังวัดพานทอง (จ.ชลบุรี) ซึ่งดาวใจจะนั่งขายกาแฟและน้ำชงต่างๆ ทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็น เมื่อสามีเลิกงาน ก็จะไปช่วยเข็นกลับ แต่หากสามีติดงาน ดาวใจก็จะเข็นวีลแชร์เอง
ชีวิตเคยวิกฤตถึงขั้นไม่มีข้าวจะกิน!
“ก่อนมาขายกาแฟตรงนี้ หนูเคยขายแบบนี้มาก่อน แต่พอช่วงโควิดขายไม่ดี ไม่มีทุน และแฟนหนูก็ตกงาน หนูไม่รู้จะทำยังไง ก็โทรไปถามพี่สาว ลูกพี่ลูกน้องห่างๆ กันว่า มีข้าวให้ยืมหุงไหม เขาบอก ไม่มี เหลือมื้อเดียว หนูก็ไม่เอาดีกว่า ไม่อยากรบกวนเขา หนูก็นึกขึ้นได้ว่า พระอาจารย์ (พระครูถาวรศรัทธาคุณ หรือพระครูป้อม เจ้าอาวาสวัดวรพรตสังฆาวาส จ.ชลบุรี) เคยบอกว่า ถ้าเดือดร้อนอะไร ก็ไปหาพระอาจารย์ได้นะ หนูก็เลยไปหาวันนั้น”
ด้านพระครูป้อม เล่าว่า“วันนั้นโยมดาวใจมาที่วัดนั่งมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างมากับแฟนเขา พอเขาลงจากรถ เราก็เห็นเขาเดินแบบสี่ขา ก็ถาม เป็นยังไงบ้าง หนูจะมาขอรบกวนหลวงพ่อหน่อยหนึ่ง ขอข้าวสารอาหารแห้ง เราเห็นแล้วก็ ได้เลยๆ โยม แล้วก็จัดให้ แล้วก็ดูแลเรื่อยมา แล้วก็หาอาชีพให้เขา ถามเขาก่อนว่าอยากทำอะไร แกก็บอกว่า อยากขายกาแฟ แกบอก แกเคยขายกาแฟ แล้วพอโควิด ขายไม่ดี แกเลยหยุดไป และของที่มีก็เอาไปขาย ซื้อกับข้าวกินบ้างอะไรบ้าง ก็แย่ช่วงนั้น พอรู้ว่าเขาอยากขายกาแฟ ก็เลยบอกพวกลูกศิษย์ช่วยกันหน่อย ก็เลยเปิดร้านกาแฟให้เลย นี่เปิดมาตั้งหลายเดือน แกไม่ยอมหยุดขายเลยนะ (ถาม-หลวงพ่อมาดูเรื่อยๆ เหมือนกัน?) แอบมาดูเรื่อยๆ บางครั้งไปธุระ วิ่งรถแอบมาดู เออ แกขายไม่หยุดเลย ดีๆ เราก็ดีใจ แกก็สู้ชีวิต”
ขณะที่ดาวใจ อยากบอกหลวงพ่อว่า“ขอขอบคุณมากนะคะหลวงพ่อ ถ้าไม่ได้หลวงพ่อ หนูคงแย่มากวันนั้น หนูก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครเหมือนกัน ซาบซึ้งพระอาจารย์มากเลยที่ช่วยเหลือหนู”
ดาวใจยอมรับว่า แม้ขายกาแฟทุกวันไม่เคยหยุด แต่รายได้ก็ไม่แน่นอน ขายดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่อย่างน้อย การไม่หยุดขาย ก็ช่วยให้เธอพอมีค่ากับข้าวในแต่ละวัน ไม่ต้องอดๆ อยากๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่สิ่งที่เธอห่วงมากที่สุดตอนนี้ก็คือ เรื่องบ้านที่อยู่อาศัย ที่ทรุดโทรมผุพังไม่มั่นคงปลอดภัย
“(ถาม-ดูสภาพบ้านค่อนข้างเล็กคับแคบเก่าแก่ทรุดโทรม อยู่มานานหรือยัง?) เกือบ 20 ปีแล้ว บางทีเดินๆ ยังล้มเลย เพราะบ้านมันผุหมดแล้ว หนูกลัวจะตกบ้าน ถ้าวันไหนตกไป ใต้ถุนบ้านมันเป็นน้ำ ถ้าตกไป จะขึ้นไม่ได้ และข้างฝาบ้านก็พังหมด หนูยังไม่มีปัจจัยที่จะทำบ้านตัวเองได้”
“(ถาม-ลำพังพี่มีร่างกายไม่สมบูรณ์ ก็ยากลำบากอยู่แล้ว แถมฐานะครอบครัวก็ยังไม่พร้อม ถือว่าเป็นอุปสรรคสำคัญ แต่พี่พยายามต่อสู้ฝ่าฟันมาตลอด?) ใช่ค่ะ หนูต้องสู้ เพราะเราต้องช่วยเหลือตัวเองให้ได้ (ถาม-เราเอากำลังใจมาจากไหน?) จากตัวหนูเอง (ถาม-บอกตัวเองว่ายังไง?) ต้องสู้ ต้องอดทน ห้ามหยุดขายกาแฟ ถ้าหยุด เราไม่มีตังค์กินข้าว บางทีหนูปวดหัวมากเลยนะ แต่หนูก็ต้องนั่ง ต้องทน สู้ขายต่อไป”
หากท่านใดต้องการช่วยเหลือดาวใจให้มีทุนซ่อมแซมบ้านที่ทรุดโทรมผุพัง โอนไปได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ชื่อบัญชี น.ส.ดาวใจ ฉิมมาจุ้ย เลขที่บัญชี 784-250-8266
คลิกชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ตอน “ดาวใจ...ใจสู้”
https://www.youtube.com/watch?v=-IfTnWOvGec
ติดตามรับชมรายการ ฅนจริงใจไม่ท้อ ได้ ทุกวันเสาร์ เวลา 11.30-12.00 น. ทาง NEWS1 (กล่อง IPTV ของ NT ช่อง 64 / กล่อง AIS Play Box ช่อง 618 / กล่อง True ID ช่อง 19)
หรือรับชมรายการย้อนหลังได้ที่เพจ ฅนจริงใจไม่ท้อ https://web.facebook.com/KonJingJaimaitor/
หรือยูทูบฅนจริงใจไม่ท้อ https://www.youtube.com/channel/UCsb4sLqdHs35km4uQ_tOCjQ/videos