xs
xsm
sm
md
lg

สงครามรูปแบบใหม่ หลังไทย-กัมพูชาหยุดยิง URBAN WARFARE

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หยุดยิงแล้ว แต่สงครามยังไม่จบ! กัมพูชาอาจใช้กองกำลังพิเศษ BHQ เชี่ยวชาญรบในเมือง แทรกซึมก่อกวน สร้างความปั่นป่วนในไทย จับตา Urban Warfare รูปแบบใหม่!

หลังการเจรจาหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชามีผลบังคับใช้ตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 29 กรกฎาคม โดยทั้งสองฝ่ายห้ำหั่นสู้รบกันเต็มรูปแบบ ถึงขั้นที่ฝ่ายไทยใช้เครื่องบินเอฟ-16 ทิ้งระเบิดตัดเส้นทางส่งกำลังและทำลายปืนใหญ่ข้าศึกในชั่วโมงสุดท้ายก่อนถึงเส้นตาย จนสามารถผลักดันให้ทหารกัมพูชาแตกพ่ายล่าถอยกลับไปจากปราสาทตาควายและตาเมือนธมในเขตไทยได้สำเร็จ

และแม้ว่าหลังจากนั้นกัมพูชาจะยังคงยิงก่อกวนฝ่ายเราเป็นระยะ จนกระทั่งถึงเช้าตรู่ เสียงปืนยังคงดังระงมก่อนจะเงียบลงอย่างแท้จริงในช่วงบ่าย

แต่กระนั้นก็ตาม หน่วยงานความมั่นคงของไทยยังคงร้องขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยง พักอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพต่อไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

จากการประเมินสถานการณ์ คาดว่า กองทัพกัมพูชาคงไม่หยุดยั้ง ปฏิบัติการโดยง่าย แม้ว่าภาพการสู้รบตามแบบด้วยกำลังทหารในสมรภูมิ กัมพูชาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง

ถึงนาทีนี้ แม้จะมีการพบปะเจรจาระหว่างแม่ทัพภาคที่ 2 พลโทบุญสิน พาดกลาง กับแม่ทัพภูมิภาคที่ 4 ของกัมพูชา ในตอนบ่ายวันที่ 30 กรกฎาคม จนได้ข้อตกลงเบื้องต้นออกมา 7 ประการ เช่น ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังทหาร ห้ามเสริมกำลัง ห้ามยิงพลเรือน

แต่การที่ฝ่ายกัมพูชานำกองกำลัง BHQ ซึ่งเป็นหน่วยรบพิเศษที่มีขีดความสามารถสูงสุดของกองทัพกัมพูชา หรือที่รู้จักกันในนาม กองกำลังพิทักษ์ฮุนเซ็น เข้าร่วมรบขั้นแตกหักในคืนสุดท้าย ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง

ทำให้นักวิเคราะห์ทางทหาร มีข้อสังเกตว่า เมื่อผู้นำกัมพูชาซึ่งเป็นผู้จุดไฟสงคราม นำไพ่ใบสุดท้ายออกมาใช้ อาจเป็นการส่งสัญญาณว่า รูปแบบของการต่อสู้ระหว่างไทยกับกัมพูชาที่จะตามมาหลังเจรจาสันติภาพ อาจเปลี่ยนแปลงไปสู่การสู้รบรูปแบบใหม่หรือไม่ และหากเป็นไปอย่างนั้น รูปแบบใหม่ที่ว่านี้ คือการรบแบบไหน

คำตอบก็ต้องพิจารณาขีดความสามารถของกองกำลังรบพิเศษ BHQ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญการรบในเมือง หรือ URBAN WARFARE คือ การสู้รบด้วยอาวุธที่เกิดขึ้นในเมืองหรือเขตชุมชนที่มีประชากรพลเรือนอยู่หนาแน่น

ลักษณะพิเศษของสงครามในเมืองคือ การต่อสู้ที่ซับซ้อนและอันตรายกว่าในพื้นที่เปิด เนื่องจากอาคารสิ่งก่อสร้างที่หนาแน่นและโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อน ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของทั้งทหารและพลเรือนอย่างมาก

นอกจากนี้ การที่ผู้ก่อความไม่สงบหรือทหารสามารถหลบซ่อนตัวในหมู่พลเรือน ทำให้การแยกฝ่ายเพื่อการระบุและจัดการศัตรูทำได้ยากขึ้น

ดังนั้นถ้าไพ่ใบสุดท้ายของกัมพูชามีแต้มสูงในเรื่องนี้ จึงมีความเป็นไปได้มากที่ฝ่ายเรา อาจต้องเผชิญกับการแทรกซึมเข้ามาก่อกวนสร้างสถานการณ์สงครามในเมืองแบบจำกัด โดยใช้หน่วยกล้าตายขนาดเล็กที่สุด โดยยอมสูญเสีย เพื่อแลกกับความปั่นป่วนวุ่นวายแตกตื่นเสียขวัญ ที่จะเกิดขึ้นกับพลเรือนในดินแดนไทย โดยเฉพาะในเขตชุมชนของจังหวัดชายแดน

รวมทั้งกัมพูชาอาจจะใช้หน่วยรบพิเศษเหล่านี้ ประสานกับนักรบรับจ้างต่างชาติ ที่มีความรู้และความชำนาญในการใช้โดรนสื่อสารหรือโดรนสังหารแทรกซึมมาตามแนวตะเข็บสองประเทศหลุดรอดการลาดตระเวนเฝ้าระวังของฝ่ายไทย แล้วพุ่งเข้าโจมตีประชาชนในหมู่บ้านห่างไกล ซึ่งเป็นเป้าหมายอ่อนแอ เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในยุคสงครามเขมรแดงในอดีต ซึ่งหมู่บ้านไทยบริเวณชายแดนถูกทหารเขมรแดงเข้ามาฆ่าหมู่จนเป็นข่าวสะเทือนขวัญในช่วงเวลานั้นมาแล้ว

รวมทั้งอาจจะมีการก่อวินาศกรรม ทั้งการวางระเบิด วางเพลิง ในพื้นที่อ่อนแอจากฝีมือของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งมีกมลสันดานลอบกัดที่สืบทอดมาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษจนถึงปัจจุบัน

สำหรับฝ่ายกัมพูชาแม้จะประจักษ์ชัดว่า ตนเองพ่ายแพ้หมดทางสู้ในสมรภูมิเปิด แต่สิ่งที่กัมพูชารู้เช่นเดียวกับนักการทหารทั่วโลกรู้ก็คือ การสร้างความปั่นป่วนและทำลายขวัญของฝ่ายตรงข้าม คือยุทธวิธีที่เหมาะสมสำหรับฝ่ายที่อ่อนด้อยกว่าในด้านกำลังรบตามแบบนำมาใช้กับศัตรู

ซึ่งเป็นไปตามคำกล่าวของนักการทหารที่ว่า "ขวัญกำลังใจ คืออำนาจการรบ ที่ไม่มีตัวตน หากสามารถทำลายได้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของชัยชนะในสงคราม"


กำลังโหลดความคิดเห็น